นอกจากเสียลูกชายในโศกนาฏกรรมเหยียบกันตายวันฮัลโลวีนที่ย่านอิแตวอน ของกรุงโซลแล้ว ลี จองชุล ยังกลายเป็นเหยื่อการคุกคามและการเยาะเย้ยถากถางออนไลน์เช่นเดียวกับครอบครัวเหยื่ออีกหลายครอบครัว หลังจากเกรียนคีย์บอร์ดและนักการเมืองฝ่ายขวา รวมหัวจุดชนวนการโจมตีคนเหล่านี้เพื่อป้องกันผลกระทบทางการเมืองจากเหตุการณ์สุดสลดดังกล่าวที่อาจเกิดกับรัฐบาล
เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ลูกชายวัย 24 ปี ของลี เป็นหนึ่งในเหยื่อกว่า 150 คนที่เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมอิแตวอน และเขาได้เรียกร้องผ่านสื่อให้นักการเมืองเกาหลีใต้แสดงความรับผิดชอบ และดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก
แต่หลังจากนั้นฝูงชนในโลกออนไลน์กลับจับกลุ่มล้อเลียน ดูหมิ่น และบิดเบือนข้อเท็จจริงของโศกนาฏกรรมของครอบครัวลี
ตั้งแต่การตัดต่อภาพลีหัวเราะหลังได้ค่าชดเชย จนถึงความพยายามเชื่อมโยงเขากับเกาหลีเหนือ ซึ่งกลายป็นไวรัลทั้ง 2 โพสต์ ลีและครอบครัวกลายเป็นกระสอบทรายเสมือน ในฟอรัมออนไลน์ที่ใช้ภาษาเกาหลี
กายอง ลูกสาวของลี บอกว่า การแสดงความคิดเห็นของบางคนทำเอาเธอพูดไม่ออก และเสริมว่า คอมเมนต์คุกคามหลั่งไหลเข้ามามากมาย และข่าวเกี่ยวกับครอบครัวของเธอเรียกทัวร์มาลงเป็นร้อยคอมเมนต์ภายในไม่กี่นาที และส่วนใหญ่เป็นคอมเมนต์เชิงลบ
ที่อพาร์ตเมนต์ของครอบครัวนี้ในเมืองโกยางที่อยู่ติดกับโซล ห้องนอนของลี จีฮัน บุตรชายผู้ล่วงลับยังคงสภาพเดิมนับจากที่เขาก้าวเท้าออกจากบ้านเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2022
โช มีอึน แม่ของจีฮัน บอกว่า ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลนับจากวันนั้น และเธอยังคงเปิดวอยซ์เมลเก่าฟังเสียงลูกชายในมือถือ
โชเล่าว่า ลีออกไปรอลูกชายทุกคืน แม้เขาอ้างว่า ออกไปสูบบุหรี่ก็ตาม และสำทับว่า สามีของเธอพยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้งหลังโศกนาฏกรรมคนเบียดกันตายในวันฮัลโลวีนที่อิแตวอน และหลังถูกโจมตีออนไลน์
การเมืองเรื่องหายนะ
ลี จุงมิน ที่เสียลูกสาววัย 29 ปี ในโศกนาฏกรรมอิแตวอน เผยว่า ครอบครัวเหยื่อในเหตุการณ์ดังกล่าวต่างต้องการคำตอบว่า เหตุใดทางการจึงล้มเหลวในการป้องกันเหตุร้ายทั้งที่มีสัญญาณเตือนชัดเจน
บางครอบครัวเหล่านี้รวมตัวกันเพื่อทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และนำตัวเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบมาลงโทษ
ทว่า ความพยายามของคนเหล่านี้กลับถูกโลกออนไลน์ตีความว่า เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีรัฐบาล โดยเกรียนคีย์บอร์ดฝ่ายขวารวมพลังตอบโต้กลับด้วยการกล่าวหาว่า ครอบครัวเหยื่อหวังขูดรีดค่าชดเชยจากรัฐหรือเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาล
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้กังวลว่า โศกนาฏกรรมอิแตวอนอาจส่งผลร้ายต่อคณะบริหาร ทั้งนี้ รัฐบาลสายอนุรักษนิยมชุดสุดท้ายหมดอำนาจวาสนาส่วนหนึ่งเพราะการจัดการผิดพลาดในเหตุการณ์เรือเฟอร์รี่เซวอลล่มเมื่อปี 2014 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน
ด้วยเหตุนี้ สมาชิกรัฐสภาจากพรรครัฐบาลบางคนจึงวิจารณ์ครอบครัวเหยื่ออิแตวอนระหว่างการประชุมสภา นำไปสู่สถานการณ์ที่ครอบครัวเหยื่อถูกโจมตีทางออนไลน์
เหล่าสมาชิกสภายังเผยแพร่ทฤษีสมรู้ร่วมคิดสุดประหลาด เช่น การอ้างว่า เหตุการณ์ที่คนเบียดกันที่อิแตวอนเป็นเพราะคนของสหภาพแรงงานที่เชื่อมโยงกับฝ่ายค้านแอบเอาน้ำมันพืชไปเทบนถนน และอีกทฤษฎีคือการพูดเป็นนัยว่า การเสียชีวิตเป็นผลจากการใช้ยาเสพติด
ทว่า การสอบสวนอย่างเป็นทางการของตำรวจไม่พบหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวอ้างเหล่านั้นแต่อย่างใด
แซ ซูมิน ศาสตราจารย์ด้านสื่อสารของมหาวิทยาลัยซอกัง ชี้ว่า สภาพแวดล้อมทางการเมืองที่มีการแบ่งขั้วชัดเจนของเกาหลีใต้เปิดทางให้มีการปล่อยข้อมูลผิดๆ อย่างแพร่หลาย
ไร้การสนับสนุนจากรัฐ
2 วันหลังเกิดโศกนาฏกรรม นายกรัฐมนตรีฮัน ดุกซู เรียกร้องให้ประชาชนละเว้นการแสดงความคิดเห็นที่กระตุ้นความเกลียดชัง ปล่อยข้อมูลเท็จ หรือแชร์ภาพอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
แต่คิม ยูจิน ที่สูญเสียน้องสาววัย 24 ปี ในโศกนาฏกรรมอิแตวอน บอกว่า รัฐบาลแทบไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อหยุดยั้งการโจมตีออนไลน์ แม้ครอบครัวเหยื่อเฝ้าร้องขอความช่วยเหลือมาตลอด
ครอบครัวเหยื่อยังเล่าว่า ผู้รอดชีวิตวัย 16 ปีฆ่าตัวตายเมื่อเดือนธันวาคม ส่วนหนึ่งเนื่องจากช็อกกับการโจมตีบนออนไลน์
ที่ร้ายก็คือ นายกรัฐมนตรีฮันแถลงว่า รัฐบาลไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ซ้ำโทษเหยื่อ “เข้มแข็ง” ไม่พอ
แม้แต่การจัดสถานที่ไว้อาลัยให้เหยื่ออิแตวอนยังกลายเป็นประเด็นร้อน หลังจากทางการขู่รื้อถอน และยูทูบเบอร์ขวาจัดไลฟ์สตรีมโจมตี
คิมสำทับว่า ครอบครัวเหยื่อไม่ได้แค่โศกเศร้าที่ต้องเสียคนที่รักไปเท่านั้น แต่ยังต้องต่อสู้เพื่อปกป้องความทรงจำในโลกออนไลน์ด้วย
ทุกวันเธออ่านคอมเมนต์แสดงความเกลียดชังที่หลั่งไหลไม่ขาดสายเกี่ยวกับน้องสาวของเธอ และพยายามติดต่อสื่อเพื่อขอให้ลบคอมเมนต์เหล่านั้น ซึ่งแม้รู้ว่า ไม่มีหวัง แต่เธอบอกว่า ยังต้องพยายามต่อไปเพราะคงไม่มีใครอื่นออกมาสู้เพื่อน้องสาวของเธอ
(ที่มา : เอเอฟพี)