xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ อาการไม่ดี! นักวิเคราะห์ชี้วิกฤตสินเชื่อตึงตัวได้เริ่มขึ้นแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การพังครืนของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (เอสวีบี) และวิกฤตธนาคารที่ตามมาได้ก่อวิกฤตสินเชื่อตึงตัว (Credit Crunch) ในสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากความเห็นของ ไมค์ วิลสัน นักยุทธศาสตร์หุ้นระดับอาวุโสของมอร์แกน สแตนลีย์ โดยเขาชี้ถึงข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงความเข้มงวดในมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินทั้งหลาย

คำเตือนนี้มีขึ้นราว 1 เดือน ตามหลังการแห่ถอนเงินครั้งใหญ่ ที่ทำให้ธนาคาร 2 แห่ง ประกอบด้วยซิลิคอน วัลเลย์ แบงด์ และซิกเนเจอร์ แบงก์ ต้องพังครืนลงภายในเวลาไม่กี่วัน ส่วนเฟิร์สท์ รีพับบลิก ธนาคารอีกแห่งจบลงด้วยการต้องรับความช่วยเหลือมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์ จากบรรดาธนาคารยักษ์ใหญ่ในวอลล์สตรีท ในรูปแบบของเงินฝาก ทั้งนี้ พวกผู้เล่นรายใหญ่ตัดสินใจเข้าแทรกแซง ด้วยความกังวลว่า เฟิร์สท์ รีพับบลิก จะเป็นสถาบันการเงินแห่งต่อไปที่ต้องล่มสลาย

หนังสือพิมพ์บิสซิเนส อินไซเดอร์ รายงานอ้างความเห็นของ วิลสัน ระบุพบเห็นระดับการปล่อยกู้ลดลงมากสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเขาชี้ว่าธนาคารต่างๆ ของสหรัฐฯ ได้ลดความพยายามชดเชยการแห่ถอนเงินฝากในอัตราที่รวดเร็วและอันตรายมากราว 1 เดือนนับตั้งแต่การล่มสลายของเอวีบี

"ข้อมูลบ่งชี้ว่าสินเชื่อตึงตัวได้เริ่มขึ้นแล้ว" นักวิเคราะห์รายนี้กล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมเน้นว่ามีเงินฝากมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ถูกถอนออกจากธนาคารต่างๆ ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นชุดๆ เมื่อเกือบ 1 ปีก่อน

ก่อนหน้านี้ แมตธิส ลูซเซตติ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯ ของดอยช์แบงก์ ประเมินเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ว่าหากการสำรวจเจ้าหน้าที่สินเชื่อของเฟดครั้งต่อไป แสดงให้เห็นว่าสัดส่วนของธนาคารที่เข้มงวดกับการออกสินเชื่อเพิ่มขึ้น 10% สิ่งนี้อาจทำให้จีดีพีของสหรัฐฯ ลดลงราว 0.5% เพียงพอที่จะเปลี่ยนคำทำนายทางเศรษฐกิจ เป็นคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ไม่ใช่แค่การเติบโตต่ำ (Meager Growth) เท่านั้น

จากความเห็นของ วิลสัน การทรงตัวอย่างมั่นคงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ นับตั้งแต่การล่มสลายของเอสวีบี ไม่ควรถูกตีความเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัว แต่มันเป็นสัญญาณว่าหุ้นเสี่ยงดิ่งลงอย่างฉับพลัน แบบเดียวกับที่พบเห็นในหุ้นขนาดเล็กและหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินนับตั้งแต่เดือนมีนาคม

"สำหรับนักลงทุนที่ส่งเสียงคึกคักต่อข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอเกินคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราอยากบอกว่าพวกคุณควรระมัดระวังในสิ่งที่คุณปรารถนา" วิลสันเตือน อ้างถึงดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนมีนาคม ที่เผยให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด

ในเดือนกุมภาพันธ์ วิลสัน คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้เคยพุ่งขึ้นแต่ไม่ยั่งยืน จะร่วงลงมา 26% ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน

(ที่มา : เอเจนซี)


กำลังโหลดความคิดเห็น