วอชิงตันเชื่อว่ารัสเซียควรเป็นคนจ่ายเงินค่าฟื้นฟูยูเครน จากคำพูดของ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาในวันเสาร์ (15 เม.ย.) ความเห็นซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ กำลังหารือถึงหนทางที่เป็นไปได้ต่างๆ ในการใช้ทรัพย์สินของรัสเซียที่อายัดไว้ในตะวันตก แต่ยอมรับว่ายังคงมีข้อจำกัดทางกฎหมายบางประการสำหรับการดำเนินการดังกล่าว
เมื่อถามว่ารัสเซียควรเป็นคนจ่าย "ค่าความเสียหาย" ที่ทำกับยูเครนหรือไม่ ตลอดเส้นทางความขัดแย้งที่ยังคงสู้รบกันอย่างดุเดือดระหว่างเคียฟกับมอสโก ในเรื่องนี้ เยลเลน ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น สื่อมวลชนสหรัฐฯ ว่า "มันเป็นเรื่องของความรับผิดชอบ ที่ฉันคิดว่าประชาคมนานาชาติคาดหวังว่ารัสเซียต้องแบกรับภาระนั้น"
"มันเป็นบางอย่างที่เรากำลังหารือกับพันธมิตร" เธอกล่าว พร้อมชี้ว่า "มีข้อจำกัดทางกฎหมายว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างกับทรัพย์สินรัสเซียที่อายัดไว้" อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีคลังรายนี้ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ หรือพันธมิตรจะสามารถทำอะไรได้กับทรัพย์สินของมอสโก ในขณะที่ยังคงอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเหล่านั้น
ความเห็นของ เยลเลน มีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก วิคตอเรีย นูแลนด์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการด้านการเมือง กล่าวว่า วอชิงตันกำลังทำงานในการหาทางให้มอสโกช่วยจ่าย "ค่าความเสียหายทั้งหมดที่พวกเขาเป็นคนก่อ" ทั้งนี้อ้างอิงจากคำพูดของนูแลนด์ ทางสภาคองเกรสอนุมัติให้อำนาจกระทรวงยุติธรรมใช้ทรัพย์สินที่ผิดกฎหมายที่ยึดมาจากบรรดากลุ่มคนที่ทรงอิทธิพลทางการเมืองและทางเศรษฐกิจของรัสเซียสำหรับบูรณะฟื้นฟูยูเครน
นูแลนด์ กล่าวในตอนนั้นว่า กำลังมีการหารือกันระหว่างวอชิงตันกับพันธมิตร เกี่ยวกับทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียเช่นกัน
บรรดาชาติตะวันตกได้ทำการอายัดทรัพย์เหล่านี้รวมแล้วราวๆ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่สงครามระหว่างมอสโกกับยูเครนเริ่มต้นขึ้น
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ Die Welt ของเยอรมนี รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อ้างอิงเอกสารภายในของอียู ระบุว่าท้ายที่สุดแล้วทางกลุ่มจะจำเป็นต้องคืนทรัพย์สินที่อายัดไว้แก่รัสเซีย โดยอียูไม่สามารถเก็บเงินเหล่านี้เอาไว้โดยไม่มีกำหนด หรือโอนถ่ายไปยังยูเครน
ที่ผ่านมา มอสโกประณามความพยายามใดๆ ของตะวันตกในการโอนถ่ายทรัพย์สินที่ยึดจากรัสเซียไปยังยูเครน ว่าเป็นพฤติกรรม "อนารยธรรม" และเรียกความเคลื่อนไหวอายัดทรัพย์สินของพวกเขาว่าเป็นการ "ขโมย" พร้อมกับเตือนว่ามันขัดแย้งกับกฎหมายระหว่างประเทศ
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/ซีเอ็นเอ็น)