อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยื่นฟ้องเอาผิดกับ ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายส่วนตัวในวันพุธ (12 เม.ย.) โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงินอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฐานละเมิดสัญญาจ้าง
ในเอกสารคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ทีมกฎหมายของอดีตผู้นำสหรัฐฯ กล่าวหา โคเฮน ว่าเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับทรัมป์ อีกทั้งยังละเมิดสัญญาจ้างด้วยการแถลงข้อมูลต่อสาธารณชน ตีพิมพ์หนังสือ ออกพอดแคสต์ และให้สัมภาษณ์กับสื่ออีกหลายเจ้า
โคเฮน ซึ่งเคยเป็นมือกฎหมายที่คอยตามแก้ปัญหาให้ทรัมป์ กลับมาเป็นข่าวดังในสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังจากที่ ทรัมป์ ถูกอัยการนิวยอร์กสั่งฟ้องคดีอาญารวม 34 กระทงฐานบิดเบือนบันทึกข้อมูลทางธุรกิจเพื่ออำพรางการจ่ายเงินปิดปากให้แก่ “สตอร์มมี แดเนียลส์” ดาราหนังผู้ใหญ่ที่อ้างว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทรัมป์ โดย โคเฮน เป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินจำนวน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐให้แก่ แดเนียลส์ ในช่วงโค้งสุดท้ายของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016
การที่ โคเฮน ยอมให้ความร่วมมือกับอัยการในคดีนี้ทำให้ ทรัมป์ ไม่พอใจอย่างยิ่ง ขณะที่ทีมกฎหมายของทรัมป์ ระบุว่าอดีตประธานาธิบดี “ไม่มีทางเลือกอื่น” นอกจากใช้กฎหมายยับยั้ง โคเฮน ซึ่งพวกเขาอ้างว่าออกมาให้ข้อมูลบิดเบือนต่างๆ เกี่ยวกับอดีตนายจ้าง
เอกสารคำฟ้องระบุว่า โคเฮน ได้เปิดเผย “ข้อมูลลับ” ด้วยการพาดพิงถึงความสัมพันธ์ฉันทนาย-ลูกความของเขาและทรัมป์ ระหว่างที่ให้สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับกระบวนการสอบสวนของคณะลูกขุนใหญ่แมนฮัตตันที่นำไปสู่การตั้งข้อหาอาญา ทรัมป์
ทีมกฎหมายของทรัมป์ยังอ้างด้วยว่า โคเฮน ได้ละเมิดข้อตกลงห้ามเปิดเผยข้อมูลลับซึ่งเขาได้ลงนามกับบริษัท ทรัมป์ ออร์แกไนเซชั่น (Trump Organization) จากการตีพิมพ์หนังสือ 2 เล่มซึ่งมีการพูดถึงทรัมป์
“โคเฮน เลือกที่จะใช้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างเขาและทรัมป์เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการเงิน และกอบกู้ชื่อเสียงตัวเองที่พังพินาศจากการบิดเบือนความจริงและการกระทำหลอกลวงต่างๆ” คำฟ้องระบุ
โคเฮน ยังนำข้อมูลลับซึ่งควรได้รับการปกป้องตามเงื่อนไขของข้อตกลงมาตีพิมพ์ในหนังสือของเขาโดยไม่เคยขออนุญาตจาก ทรัมป์ ก่อน ส่วนในพอดแคสต์ ‘Mea Culpa’ ก็มีการให้ข้อมูล “ยั่วยุ บิดเบือน และเป็นเท็จ” เกี่ยวกับ ทรัมป์ เช่นกัน
แลนนี เดวิส ทนายของโคเฮน ระบุว่า “นี่เป็นอีกครั้งที่คุณทรัมป์ละเมิดกระบวนการยุติธรรมด้วยการข่มขู่คุกคาม ไมเคิล โคเฮน แต่คุณ โคเฮน จะไม่หวั่นไหว และมั่นใจว่าการยื่นฟ้องจะตกไปเองด้วยพื้นฐานของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย”
ที่มา : CNN