รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เพนตากอนสอบสวนหาตัวคนปล่อยเอกสารลัยทางการทหารมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสงครามยูเครน รัสเซีย ตะวันออกกลาง และจีน เชื่อตัวการอาจมาจาก "เจ้าหน้าที่เมริกัน" มากกว่าชาติพันธมิตร สุดอึ้งเอกสารลับเผยเครื่องบินจารกรรมอังกฤษเกือบโดนเครื่องบิน su27 ของรัสเซียยิงตกนอกชายฝั่งไครเมียเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ปีที่แล้วแต่ปิดข่าวไว้ หลังรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษเคยแจงต่อสภาเวลานั้นแสดงเหตุผล รัสเซียเกิดผิดพลาดทางเทคนิกปล่อยมิสไซล์กลางอากาศ บินไม่เป็นมืออาชีพ
รอยเตอร์รายงานวานนี้ (9 เม.ย.) ว่า วิกฤตเอกสารลับล่าสุดทำให้สหรัฐฯ โดนเปิดโปงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลของ NSA เมื่อหลายปีก่อนหน้า
เพนตากอนกำลังอยู่ระหว่างการล่าตัวหาคนอยู่เบื้องหลังการเผยแพร่เอกสารลับทางการทหารสหรัฐฯ เหล่านี้ที่มีเนื้อหาตั้งแต่การป้องกันทางอากาศของยูเครน ไปจนถึงหน่วยงานสายลับมอสสาดของยิว ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่า คนที่อยู่เบื้องหลังอาจเป็น "ชาวอเมริกัน"
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า เนื้อหาเอกสารลับรั่วไหลนั้นเป็นวงกว้างในความขัดแย้งต่างๆ ในยูเครน จีน ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ทำให้ชี้ไปว่า บางทีคนที่ปล่อยน่าจะเป็นชาวอเมริกันมากกว่าจากชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ
ไมเคิล มัลรอย (Michael Mulroy) อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์วันอาทิตย์ (9) ว่า “เป้าหมายในเวลานี้อยู่ที่การรั่วของสหรัฐฯ เนื่องมาจากมีจำนวนมากของเอกสารอยู่แต่เฉพาะในมือของสหรัฐฯ เท่านั้น”
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า การสอบสวนยังคงอยู่ในชั้นต้นและไม่มีการตัดประเด็นใดออกไป รวมไปถึงความเป็นไปได้ที่อาจเป็นฝีมือจากฝั่งรัสเซีย ซึ่งรอยเตอร์รายงานว่า ได้เห็นเอกสารลับรั่วไม่ต่ำกว่า 50 ชิ้นที่ประทับตา ชั้นความลับ หรือ ความลับสุดยอด ซึ่งปรากฏครั้งแรกทางโซเชียลมีเดียปลายเดือนที่ผ่านมา และมีอีกจำนวนหนึ่งถูกโพสต์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และหนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์เป็นสื่อแรกที่รายงานเอกสารสหรัฐฯ รั่ววันศุกร์ (7)
ตามการแถลงของเพนตากอนวันอาทิตย์ (9) ระบุว่ากำลังตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารลับรั่วที่ปรากฏออกไปสู่ภายนอก แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 2 คนกล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าภาพที่ปรากฏออกมานั้นนานกว่า 1 เดือน ไม่ใช่เป็นภาพที่เพิ่งถ่ายขึ้นไม่นานมานี้
เจ้าหน้าที่กำลังตามหาแรงจูงใจของเจ้าหน้าที่อเมริกัน หรือกลุ่มเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ปล่อยโดยมีการตั้งธงในการสอบสวนตั้งแต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่มีการผูกใจเจ็บ ไปจนถึงภัยคุกคามจากภายในที่ต้องการทำลายผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
ซึ่งหนึ่งในเนื้อหาเอกสารลับสำคัญที่ถูกเผยแพร่คือ เรื่องเครื่องบินจารกรรมลับอังกฤษเกือบโดนรัสเซียยิงมิสไซล์ตกเมื่อกันยายนปีที่แล้ว
ฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐฯ รายงานว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ปี 2022 เครื่องบินจารกรรมอังกฤษกำลังบินอยู่นอกชายฝั่งแหลมไครเมียตกเป็นเป้ามิสไซล์ของเครื่องบินรบ Sukhoi Su-27 ของรัสเซีย
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า หากว่าโดนยิงตกจริงอาจกลายเป็นหลักฐานเพียงพอที่จะทำให้สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรนาโตโดนลากเข้าสู่สงครามยูเครนที่รัสเซียกำลังก่อ
เครื่องบินจารกรรมนี้มักนำมาเพื่อใช้รวบรวมข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้นว่าการสื่อสารทางวิทยุ
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์วิเคราะห์เอกสารและพบว่า เครื่องบินจารกรรมลับอังกฤษที่เกือบโดนยิงตกคือ UK RJ โดย RJ นั้นอ้างไปถึงเครื่องบินสอดแนม RC-135 ที่รู้จักในนาม Rivet Joints
ทั้งนี้ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ เบน วอลเลซ ได้แจ้งต่อรัฐสภาอังกฤษเมื่อตุลาคมปีที่แล้วเกี่ยวกับการเผชิญหน้า โดยกล่าวว่า เครื่องบินรบขับไล่รัสเซีย 2 ลำเข้าบินสกัด RC-135 โดยบินอย่างไม่ระมัดระวัง
ฟ็อกซ์นิวส์ชี้ว่า ถึงแม้ว่ารัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษจะเปิดเผยว่า ฝ่ายรัสเซียยิงมิสไซล์ออกมาแต่ทว่าเขาไม่ได้เปิดเผยว่า เครื่องบินจารกรรมลับของฝ่ายตัวเอง “เกือบถูกยิงร่วง” วอลเลซแสดงเหตุผลถึงการยิงมิสไซล์ของรัสเซียว่า “เป็นความผิดพลาดทางเทคนิค”
ภายในเอกสารลับที่รั่วออกมายังพบว่า สหรัฐฯ ได้ทำการสอดแนมชาติพันธมิตรเป็นต้นว่า “อิสราเอล” และ “เกาหลีใต้” โดยทางโซลยืนยันว่า จะนำเรื่องเอกสารลับรั่วนี้หารือโดยตรงกับวอชิงตัน ซึ่งในเอกสารลับระบุว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กดดันรัฐบาลเกาหลีใต้ให้ส่งอาวุธช่วยยูเครน
สำหรับส่วนในประเด็นของอิสราเอลนั้น เอกสารลับสหรัฐฯ ที่มีการประทับ “ความลับสุดยอด” และมาจากข่าวอัปเดตจากสำนักงาน CIA เมื่อวันที่ 1 มี.ค. มีเนื้อหาว่า หน่วยงานข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลสนับสนุนการประท้วงต่อต้านแผนของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ในการกระชับอำนาจศาลสูงสุดอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวผ่านแถลงการณ์ตอบโต้วันอาทิตย์ (9) ว่า ไม่เป็นความจริงและไม่มีหลักฐานอ้างอิงทั้งปวง