xs
xsm
sm
md
lg

“มาครง” เชื่อ "ปักกิ่ง" มีบทบาทสำคัญสร้างสันติภาพยูเครน อดีตการ์ดเครมลินโชว์บัตรแฉเอง “ปูติน” ระแวงหนักนอนบังเกอร์ปลดฟ้าผ่า "นายพลรัสเซียคุมหน่วยรบ" เซ่นเหตุแพ้ยับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง เดินทางเข้ากรุงปักกิ่งวันพุธ (5 เม.ย.) ล็อบบี้ผู้นำจีน ยันปักกิ่งมีบทบาทใหญ่ในการสร้างสันติภาพยูเครน หวังช่วยให้ประธานาธิบดีปูติน ของรัสเซียมีสติกลับคืนอีกครั้ง หลังมีรายงานลือไปทั่วผู้นำรัสเซียระแวงหนักนอนในบังเกอร์ ไม่ใช้โทรศัพท์ และปลดผู้บัญชาการหน่วยรบตะวันออก EGF ล้มเหลวยึดเมืองในแคว้นโดเนตสค์โอบลาสต์

เอพีรายงานวันนี้ (6 เม.ย.) ว่า ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง เดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการในวันพุธ (5) เพื่อหวังให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งมีความสนิทสนมผู้นำรัสเซียให้ช่วยทำให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กลับคืนสติอีกครั้ง

ตามกำหนดการประธานาธิบดีมาครง เดินทางมาเยือนกรุงปักกิ่งพร้อมกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน เพื่อส่งสัญญาณความเป็นหนึ่งเดียวของยุโรปออกมา และทั้งสองจะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในวันพฤหัสบดี (6) บีบีซีของอังกฤษรายงาน

มาครงกล่าวกับสีว่า “ผมรู้ว่าผมสามารถพึ่งพาคุณได้ภายใต้ 2 หลักการที่ผมเพิ่งกล่าวไปในการนำรัสเซียกลับคืนสติอีกครั้ง และนำทุกคนกลับเข้าโต๊ะเจรจา”

เขาย้ำว่า “พวกเราต้องหาสันติภาพที่ยั่งยืน” และเสริมต่อว่า “ผมเชื่อว่านี่เป็นประเด็นสำคัญสำหรับจีนมากเท่ากับสำหรับฝรั่งเศสและสำหรับยุโรป”

อย่างไรก็ตาม พบว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิงไม่ได้เอ่ยถึงยูเครนหรือรัสเซีย แต่เขายินดีความสัมพันธ์กับฝรั่งเศส พร้อมกับยืนยันว่า “ปักกิ่งร่วมกับปารีสสามารถสนับสนุนหลายขั้วอำนาจของโลกได้” โดยเป็นนัยไปถึงการลดอิทธิพลของสหรัฐฯ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองลง

ซึ่งก่อนหน้าผู้นำฝรั่งเศสหารือกับนายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง ซึ่งเป็นหมายเลข 2 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยยืนยันว่า “ฝรั่งเศสต้องการสร้างทางเดินร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้งใหญ่ทั้งหมดนอกเหนือจากเรื่องยูเครน

หลี่กล่าวว่า มันน่าจะเป็นความเห็นร่วมกันอย่างกว้างๆ ระหว่างสี และมาครง แต่ทว่านายกรัฐมนตรีจีนไม่ได้ชี้ว่า ปักกิ่งจะช่วยล็อบบี้รัสเซียซึ่งในเวลานี้ถูกมองว่าเป็นขุมพลังงานของจีนเพื่อสร้างสันติภาพหรือไม่

ดิอินดีเพนเดนต์ของอังกฤษรายงานวันนี้ (6) ว่า ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน สั่งปลดฟ้าผ่า พลเอกอาวุโสรัสแตม มูราดอฟ (Colonel-General Rustam Muradov) ผู้บัญชาการหน่วยรบตะวันออก EGF (Eastern Group of Forces) และจะกลายเป็นเจ้าหน้าที่รัสเซียระดับสูงคนล่าสุดที่โดนสั่งปลดผลจากความพ่ายแพ้อย่างหนักของรัสเซีย กระทรวงกลาโหมอังกฤษกล่าวแถลงอัปเดตข่าวกรองประจำวันนี้

“หน่วย EGFภายใต้มูราดอฟสูญเสียอย่างน่าเหลือเชื่อในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และยังประสบต่อความล้มเหลวในการเข้ายึดเมืองวูห์ลีดาร์ (Vuhledar)ในแคว้นโดเนตสค์โอบลาสต์”

ขณะเดียวกัน ผู้นำรัสเซียซึ่งมีรายงานว่ากำลังตกอยู่ในความหวาดกลัวอย่างหนักพบว่าเขาปฏิเสธการใช้โทรศัพท์และอาศัยอยู่ในบังเกอร์เพื่อความปลอดภัย

เดอะมิเรอร์ของอังกฤษรายงานในวันอังคาร (4) ว่า เกลบ คาราคูโล (Gleb Karakulo) วัย 35 ปี ดำรงตำแหน่งกัปตันในกองกำลังอารักขากลางรัสเซียชื่อดัง FGS ย่อมาจาก Federal Guard Service หรือ FSO ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องปูติน และเขาได้แปรพักตร์หลบหนีออกไปจากรัสเซียผ่านทางอิสตันบูล โดยมีทั้งภาพบัตรประจำตัวของเขาเป็นหลักฐานอย่างชัดเจน

อดีตการ์ดปูตินเป็นคนเปิดเผยว่า ในเวลานี้ผู้นำรัสเซียกำลังอยู่ในภาวะหวาดกลัวอย่างรุนแรงต่อความปลอดภัยของตัวเอง และวิตกว่าอาจมีความพยายามที่จะลอบสังหารเขา

และเป็นสาเหตุทำให้ปูตินเลือกที่จะอาศัยในบังเกอร์แทนมากกว่าที่จะเดินทางไปที่ต่างๆ เหมือนที่เคยทำในอดีต

“เขาหวาดกลัวขั้นร้ายแรงต่อโควิด-19 และได้ทำการแยกตัวเองตามลำพังมาเป็นปีที่ 4” คาราคูโล เปิดเผย โดยยอมรับว่าภายในรัสเซีย ประธานาธิบดียังอยู่ระหว่างการกักตัวตามลำพัง

คาราคูโลให้ข้อมูลว่า ปูตินหวาดวิตกอย่างหนักและถึงขั้นออกคำสั่งให้สร้างห้องทำงานที่มีหน้าตาเหมือนกันตั้งอยู่ภายในที่พักส่วนตัวของเขาทั่วรัสเซีย อ้างอิงรายงานจากนิวยอร์กโพสต์

เดอะมิเรอร์รายงานต่อว่า หน่วยการ์ด FSG หรือ FSO ที่มีหน้าที่อารักขาปูตินนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของคนสนิทจงรักภักดีต่อปูติน วิคเตอร์ โซโลตอฟ (Viktor Zolotov) และเรียกปูตินว่า “บอส”

ทั้งนี้ คาราคูโลยืนยันว่าในระหว่างที่เขาปฏิบัติหน้าที่เขาไม่เคยเห็นผู้นำรัสเซียใช้โทรศัพท์มือถือ หรืออินเทอร์เน็ต พร้อมเปิดเผยต่อว่าปูตินได้รับข้อมูลจากคนวงใน

นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า เกลบ คาราคูโล ทำงานให้ประธานาธิบดีรัสเซียมานานถึง 13 ปี และเคยเดินทางอารักขาเขาไม่ต่ำกว่า 180 ครั้ง กล่าวเปิดใจว่า ประธานาธิบดีปูตินคนที่เขาได้พบเป็นครั้งแรกในปี 2009 ไม่ใช่คนเดียวกันกับคนที่ออกคำสั่งบุกยูเครนในปีที่ผ่านมา












กำลังโหลดความคิดเห็น