ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เริ่มต้นการเยือนจีนในวันพุธ (5 เม.ย.) ด้วยความมุ่งหวังที่จะ “รีเซ็ต” ความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนเศรษฐกิจสำคัญยิ่งรายนี้ รวมทั้งหารือประเด็นที่เป็นปัญหาอย่างเช่นยูเครน และความเสี่ยงทางการค้า ขณะที่สื่อทางการจีนเตือนหากอียูหย่าร้างแยกขาดจากปักกิ่งตามแรงบีบอเมริกา ผลประโยชน์จะตกกับวอชิงตันฝ่ายเดียว ขณะที่ทั้งปักกิ่งและบรัสเซลส์เดือดร้อน
มาตรการสกัดโควิดอย่างเข้มงวดของจีน ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2019 ทำให้การประชุมทางการทูตกับประเทศต่างๆ แทบทั้งหมดต้องดำเนินการออนไลน์ ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างแดนมังกรกับยุโรปสะดุดติดขัด ดังเห็นได้จากการหยุดชะงักของข้อตกลงการลงทุนในปี 2021 และการที่ยุโรปไม่พอใจปักกิ่งซึ่งปฏิเสธประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
สำหรับ มาครง ที่กำลังเจอการประท้วงระบบบำนาญในประเทศ ทริปนี้คือโอกาสคว้าข้อตกลงทางเศรษฐกิจ ขณะที่เขาขนตัวแทนธุรกิจสำคัญร่วมคณะมาด้วยถึง 50 คน ซึ่งรวมถึงแอร์บัสที่กำลังเจรจาขายเครื่องบินล็อตใหญ่ อัลสตอม บิ๊กกิจการรถไฟ และยักษ์ใหญ่นิวเคลียร์ อีดีเอฟ
นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า การเซ็นสัญญาโปรเจกต์ใหญ่ในขณะนี้อาจถูกมองว่าเป็นการฉวยโอกาส เนื่องจากขณะนี้อเมริกากับจีนกำลังงัดข้อกันหนัก
โนอาห์ บาร์กิน นักวิเคราะห์ของโรเดียม กรุ๊ป บอกว่า นี่ไม่ใช่เวลาประกาศข้อตกลงธุรกิจหรือการลงทุนใหม่ขนาดใหญ่ เนื่องจากจะเท่ากับเป็นการลงมติไว้วางใจเศรษฐกิจจีนและฟ้องว่า ฝรั่งเศสไม่ได้ลงเรือลำเดียวกับอเมริกา
สำหรับ ฟอน แดร์ ไลเอิน เธอมีแนวโน้มที่คำนึงถึงการมีความสัมพันธ์ในแนวทางเดียวกันกับสหรัฐฯ มากกว่า โดยเพิ่งกล่าวว่า สหภาพยุโรปต้องตัดความเสี่ยงทั้งหลายที่มีอยู่ในความสัมพันธ์กับจีน โดยรวมถึงจะต้องปิดกั้นจีนจากการเข้าถึงเทคโนโลยีอ่อนไหว และลดการพึ่งพิงผลผลิตจากจีน เช่น พวกแร่ธาตุสำคัญยิ่งยวด พวกแบตเตอรี่ แผงพลังงานแสงอาทิตย์ หรือผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสะอาดอื่นๆ
มาครงเชิญฟอน แดร์ ไลเอิน ร่วมทริปเพื่อหวังโปรโมตความเป็นเอกภาพของยุโรป หลังจากเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสวิจารณ์นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ที่บุกเดี่ยวเยือนจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว
ที่ปรึกษาของมาครง เผยว่า ผู้นำฝรั่งเศสผลักดันให้อียูแสดงจุดยืนทางการค้าแข็งกร้าวขึ้นกับจีน รวมทั้งยังสนับสนุนท่าทีของฟอน แดร์ ไลเอิน แต่ขณะเดียวกัน มาครงละเว้นการโจมตีจีนด้วยถ้อยคำรุนแรงอย่างเปิดเผย
นอกจากประเด็นทางการค้าแล้ว ทั้งคู่ยังต้องการโน้มน้าวให้จีนใช้อิทธิพลชักนำให้รัสเซียหยิบยื่นสันติภาพในยูเครน หรืออย่างน้อยป้องกันไม่ให้ปักกิ่งสนับสนุนมอสโกโดยตรง ทั้งนี้ มาครงซึ่งเดินทางถึงปักกิ่งในวันพุธ ได้กล่าวปราศรัยกับพลเมืองฝรั่งเศสในแดนมังกรว่า จีนมีบทบาทสำคัญในการค้นพบเส้นทางสันติภาพในยูเครน
ก่อนหน้านี้ มาครงยังเผยว่า ต้องการย้ำกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเขาและฟอน แดร์ ไลเอิน จะได้พบปะหารือในวันพฤหัสฯ (6) ว่า ยุโรปรับไม่ได้หากจีนจัดหาอาวุธให้รัสเซีย
นอกจากนั้น ยังเป็นที่คาดว่าทั้งคู่จะสนับสนุนให้ประมุขแดนมังกรพูดคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เช่นเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ของสเปน เรียกร้องระหว่างพบสีในปักกิ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ หลังจากสร้างความประหลาดใจด้วยการเป็นกาวใจระหว่างอิหร่านกับซาอุดีอาระเบียเมื่อเดือนที่แล้ว จีนกระตือรือร้นอย่างยิ่งที่จะเสนอภาพตัวเองในฐานะผู้สร้างสันติภาพของโลกและเป็นตัวเลือกแทนอเมริกา ซึ่งปักกิ่งระบุว่า เป็นผู้สุมไฟความขัดแย้งด้วยการส่งอาวุธให้ยูเครน
การเจรจากับผู้นำยุโรปคราวนี้เกิดขึ้นขณะที่จีนงัดข้ออย่างหนักกับอเมริกาในประเด็นมากมายตั้งแต่ไต้หวัน จนถึงการแบนการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ และจีนต้องการให้ยุโรปไม่เดินตามก้นอเมริกาที่พยายามสกัดความรุ่งเรืองของจีน
การเจรจาจะมุ่งประเด็นที่ฟอน แดร์ ไลเอิน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการค้ากับจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งโกลบัล ไทมส์ หนังสือพิมพ์ในเครือของเหรินหมินรึเป้า ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวเตือนในวันพุธว่า ยุโรปกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากจากการถูกกดดันอย่างหนักจากอเมริกาให้ปรับความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน แต่หากอียูหย่าร้างแตกขาดจากจีนแล้ว ผลประโยชน์จะตกกับอเมริกาฝ่ายเดียว ขณะที่ทั้งจีนและบรัสเซลส์เดือดร้อน
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอเจนซีส์)