ประธานาธิบดี เอบราฮิม ไรซี แห่งอิหร่าน แถลงในวันเสาร์ (1 เม.ย.) ว่าการคลุมฮิญาบสำหรับสตรีถือเป็นกฎหมาย หลังปรากฏคลิปไวรัลที่สองแม่ลูกถูกชายสาดโยเกิร์ตใส่ แถมยังโดนตำรวจจับ เนื่องจากพวกเธอไม่ได้คลุมผม
เจ้าหน้าที่ในเมืองแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับมัชฮาด (Mashhad) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิหร่านได้ออกหมายจับชายซึ่งสาดโยเกิร์ตใส่ศีรษะของสองแม่ลูก ตามภาพจากกล้องวงจรปิดในร้านค้าที่เกิดเหตุ ขณะที่หญิงทั้งสองก็ถูกจับฐานละเมิดกฎการแต่งกายของสตรีมุสลิม
ประธานาธิบดี ไรซี ได้ออกคำแถลงผ่านสื่อโทรทัศน์ว่า “ถ้าใครบางคนบอกว่าพวกเขาไม่เชื่อ (เรื่องการสวมฮิญาบ) การค่อยๆ อธิบายให้พวกเขาเข้าใจก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ทว่าประเด็นสำคัญก็คือมันมีกฎหมายบังคับ วันนี้การสวมฮิญาบถือเป็นกฎหมาย”
เจ้าของร้านค้าซึ่งพยายามเข้าไปห้ามปรามมือสาดโยเกิร์ตก็พลอยถูกเจ้าหน้าที่ “ตักเตือน” ไปด้วย ขณะที่ชาวเน็ตแชร์ภาพร้านค้าแห่งนี้ถูกปิด แต่มีสื่อท้องถิ่นที่อ้างคำยืนยันจากเจ้าของร้านว่า เขาได้รับอนุญาตให้เปิดร้านได้แล้ว แต่ยังต้องเดินทางไปศาลเพื่อ “ชี้แจง” เหตุการณ์
ก่อนหน้านี้ โฆลามฮอสเซน มอห์เซนี เอเจ (Gholamhossein Mohseni Ejei) หัวหน้าฝ่ายตุลาการของอิหร่าน เคยขู่ว่าจะลงโทษพวกผู้หญิงที่ออกนอกบ้านโดยไม่คลุมฮิญาบ “อย่างไม่ปรานี” และย้ำว่าการไม่ปกปิดอวัยวะต่างๆ ตามที่ศาสนากำหนดถือเป็นการทำลายค่านิยมของสังคมอิหร่าน
ตามกฎหมายชารีอะห์ที่ถูกบังคับใช้ภายหลังการปฏิวัติอิสลามเมื่อปี 1979 สตรีมุสลิมในอิหร่านจำเป็นต้องคลุมฮิญาบปกปิดเส้นผม และสวมเสื้อผ้าที่ยาวและหลวมเพื่อปกปิดเรือนร่าง โดยผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีโทษตั้งแต่ถูกตำหนิติเตียนในที่สาธารณะ ถูกปรับเงิน หรือแม้กระทั่งถูกจับกุม
กระทรวงมหาดไทยอิหร่านได้ออกคำแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (30 มี.ค.) ว่า การคลุมฮิญาบถือเป็นหนึ่งในรากฐานอารยธรรมของชนชาติอิหร่าน เป็นหนึ่งในหลักปฏิบัติของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และภาครัฐจะ “ไม่ประนีประนอมหรืออดทน” กับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎข้อนี้
ปัจจุบัน มีผู้หญิงอิหร่านจำนวนไม่น้อยที่แสดงอารยะขัดขืนต่อต้านกฎการคลุมฮิญาบ ภายหลังการชุมนุมประท้วงใหญ่ทั่วประเทศเพื่อทวงความยุติธรรมให้แก่ “มะห์ซา อามินี” หญิงมุสลิมเชื้อสายเคิร์ดวัย 22 ปี ซึ่งเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา หลังถูกตำรวจศีลธรรมจับกุมในกรุงเตหะรานเมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้วฐานไม่คลุมฮิญาบให้เรียบร้อย
ที่มา : รอยเตอร์