เอเจนซีส์ - เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ ทรงเสด็จขึ้นศาลสูงอังกฤษในกรุงลอนดอน วันจันทร์ (27 มี.ค.) ในคดีความกับบริษัท Associated Newspapers Limited ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของหนังสือพิมพ์เดลีเมลชื่อดังในคดีดักฟังโทรศัพท์ในสมัยพระองค์ยังทรงคบหากับอดีตพระสหายหญิงคนสนิทที่รู้พระทัย เชลซี เดวี
NBC News ของสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (29 มี.ค.) ว่า เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ ในปีที่ผ่านมาเข้าร่วมกับกลุ่มบุคคลชื่อดังทางสังคมรวม เซอร์ เอลตัน จอห์น ฟ้องร้องคดีทางอาญากล่าวหาบริษัท Associated Newspapers Limited ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของหนังสือพิมพ์เดลีเมลชื่อดังในการใช้วิธีการผิดกฎหมายแอบดักฟังทางโทรศัพท์เพื่อขุดคุ้ยเรื่องราวส่วนตัวของบุคคลสำคัญเหล่านี้
เจ้าชายแฮร์รี ปรากฏพระองค์ที่ศาลสูงอังกฤษในกรุงลอนดอนวันจันทร์ (27) ในชั้นการพิจารณาคดี ทรงประทานการให้การเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ในขณะนั้นพระองค์ทรงถูกปิดบังเป็นเวลานานหลายปีจากผู้จัดการผลประโยชน์ของบักกิงแฮมที่อ้างชื่อในนาม “สถาบัน” ไม่ให้ล่วงรู้ถึงการดักฟังโทรศัพท์ และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อทางจิตใจและความสัมพันธ์ส่วนพระองค์
ในคำให้การมีการระบุว่า ทีมกฎหมายของดยุกค้นพบจากนักสืบเอกชนที่ทำงานให้บริษัทแม่ของเดลีเมล ยอมรับว่า ใช้วิธีสกปรกต่างๆ เป็นต้นว่า การแฮกวอยซ์เมล การดักฟังโทรศัพท์ รวมไปถึงใช้วิธีเพื่อให้ได้สเตทเมนต์เครดิตการ์ดมา โดยมีเป้าหมายคือพระองค์ อดีตพระสหายหญิงคนสนิท เชลซี เดวี (Chelsy Davy) หรือใครก็ตามที่อาจเกี่ยวข้องกับพระองค์อย่างใกล้ชิดในชีวิตของพระองค์
ทีมกฎหมายของเจ้าชายแฮร์รี ได้หลักฐานว่า การลอบดักฟังเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2001 และยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2013
พระองค์ทรงให้การถึงการรายงานข่าวเกี่ยวกับพระองค์อย่างไม่หยุดหย่อนเกี่ยวกับการเดินทางเพื่อพักผ่อนระหว่างพระองค์ และเชลซี พระสหายหญิงคนสนิทในเวลานั้น และข้อมูลที่รั่วออกไปทำให้คนทั้งคู่อยู่ในความตกใจและหวาดหวั่น
“พฤติกรรมของพวกเขาและการปฏิบัติต่อเชลซีนั้นไม่ปกติ” รายงานจากการประทานคำให้การ และพระองค์ตรัสต่อว่า “ข้าพเจ้าวิตกเป็นอย่างมากว่า เชลซีจะวิ่งไปในทางตรงข้ามและจะถูกไล่ติดตามและคุกคามจนถึงแก่ชีวิต”
เจ้าชายแฮร์รีทรงเปิดเผยว่า ในเวลานั้นพระองค์ต้องการปกป้องความเป็นส่วนพระองค์ของพระองค์เอง และของพระสหายหญิงคนสนิทอย่างสุดกำลัง แต่ทว่าพระองค์ทรงยอมรับว่า ไม่ประสบความสำเร็จเพราะการถูกติดตามรุกล้ำความเป็นส่วนตัวส่งผลร้ายทำให้ความสัมพันธ์ต้องจบลง
สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า อย่างไรก็ตาม บริษัท Associated Newspapers Limited ออกมาโต้วันอังคาร (28) ว่า คำกล่าวอ้างนั้นดูเหมือนจะมาจากคำสารภาพของนักสืบเอกชน ซึ่งบริษัทแม่ของเดลีเมลระบุว่า แต่ทว่าในเวลานี้นักสืบเอกชนปฏิเสธว่า ถูกสั่งให้ใช้วิธีการผิดกฎหมายในการรวบรวมหลักฐาน