สื่อจีนรายงานข่าวชายวัย 60 ปี ป่วยเป็นโรคข้อเสื่อมขั้นรุนแรง (severe degenerative arthritis) จนแทบจะเดินไม่ได้ หลังออกกำลังกายด้วยการเดิน วิ่ง และซิตอัปวันละ 8 ชั่วโมง ต่อเนื่องเป็นเวลานานถึง 20 ปี
หนังสือพิมพ์ Shanxi Daily ของจีนตีแผ่เรื่องราวอันน่าเศร้าของชายวัย 60 ปี จากมณฑลเหอหนาน โดยเขาเล่าว่า เพิ่งจะมาคิดออกกำลังกายตอนอายุ 40 ต้นๆ และก็ทำอย่างหักโหมมากเกินไปจนส่งผลให้ข้อต่อได้รับความเสียหาย
ชายชาวเมืองเจิ้งโจว คนนี้ออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงครึ่งทุกเช้าด้วยการเดิน วิ่ง และ pull up หลังจากนั้น ไปว่ายน้ำอีก 2 ชั่วโมง ส่วนเวลาที่เหลือใช้ไปกับการซิตอัปวันละ 800 ครั้ง วิดพื้นอีกหลายร้อยครั้ง และยังไปตีแบดด้วย
แต่แทนที่จะมีสุขภาพดีอย่างที่ใจหวัง สุดท้ายร่างกายของเขาก็เริ่มทนไม่ไหว และมีอาการปวดตามข้ออย่างรุนแรง
ข่าวไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ชายคนนี้ออกกำลังกายแบบหักโหมเช่นนี้ “ทุกวัน” เลยหรือไม่ ซึ่งก็น่าจะเป็นไปได้ยาก เว้นเสียแต่เขาจะมีอาชีพเป็นครูสอนฟิตเนสหรือไม่ก็ว่างงาน แต่อย่างไรก็ตาม เขาออกกำลังกายในลักษณะนี้มาเป็นเวลาถึง 20 ปี จนกระทั่ง 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว ทั้งเข่าและข้อศอกมีอาการเจ็บปวดรุนแรงจนแทบจะขยับไม่ได้
ครอบครัวได้พาชายคนนี้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมกระดูกลั่วหยาง (Luoyang Orthopedics Hospital) ในมณฑลเหอหนาน ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่า เขาป่วยเป็นโรคข้อเสื่อมรุนแรง มีภาวะการเจริญของเซลล์มากเกิน (hyperplacia) และข้อต่อบริเวณศอกเสื่อม ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นผลมาจากการออกกำลังกายหนักเกินพอดี
เหลียน เจีย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศัลยกรรมกระดูกลั่วหยาง ได้โพสต์ weibo เตือนประชาชนว่า การออกกำลังกายนั้นควรทำแบบพอประมาณ โดยเริ่มต้นจากท่าง่ายๆ หรือหากีฬาที่ตัวเองชอบ ซึ่งสำหรับคนทั่วไปแล้วการออกกำลังกายเพียง 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 1-1.5 ชั่วโมงก็นับว่าเพียงพอ
ที่มา : odditycentral