จรวดซึ่งสร้างด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D-printed) ลำแรกของโลกถูกปล่อยออกจากฐานยิงในรัฐฟลอริดาเมื่อวันพุธ (22 มี.ค.) นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวของบริษัทสตาร์ทอัป Relativity Space ซึ่งอยู่เบื้องหลังนวัตกรรมยานขนส่งอวกาศลำนี้ แม้สุดท้ายจรวดจะประสบปัญหา และขึ้นไปไม่ถึงวงโคจรรอบโลกก็ตาม
จรวด Terran 1 ซึ่งผู้ผลิตอ้างว่าเป็นทางเลือกในการขนส่งอวกาศที่ “ถูกกว่า” และ “บินได้จริง” พุ่งทะยานขึ้นจากศูนย์อวกาศเคนเนดีที่แหลมคะแนเวอรัล เมื่อเวลา 23.25 น.ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนจะเกิด “ความผิดปกติ” ขึ้นระหว่างการแยกตัวของจรวดขั้นที่ 2
Relatively Space ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัปในแคลิฟอร์เนีย ยังไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
แม้จะไปไม่ถึงวงโคจรระดับต่ำรอบโลก แต่การทดลองยิงครั้งแรกเมื่อวานนี้ (22) ก็ช่วยพิสูจน์ให้เห็นว่า จรวดซึ่งใช้ชิ้นส่วนจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติถึง 85% สามารถทนแรงสั่นสะเทือน (rigors) ในขณะที่ถูกปล่อยขึ้นจากฐานยิงได้
จรวด Terran 1 เคยถูกยกเลิกการปล่อยในนาทีสุดท้ายมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือเมื่อวันที่ 8 มี.ค. เนื่องจากพบความผิดปกติเกี่ยวกับอุณหภูมิของเชื้อเพลิง ก่อนจะมาถูกเลื่อนอีกครั้งในวันที่ 11 มี.ค. เพราะปัญหาเกี่ยวกับแรงดันเชื้อเพลิง
ทั้งนี้ หากจรวด Terran 1 สามารถขึ้นไปถึงวงโคจรระดับต่ำของโลกได้ มันจะสร้างสถิติเป็นยานอวกาศเอกชนที่ใช้แก๊สมีเทนลำแรกที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยิงทดสอบครั้งแรก
Relativity Space ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย แถลงว่า จรวดซึ่งมีความยาว 33.5 เมตร และเส้นรอบวง 2.2 เมตรลำนี้ยังไม่ได้บรรทุกสัมภาระใดๆ ในการบินครั้งแรก แต่มันถูกออกแบบให้สามารถนำสัมภาระหนักถึง 2,755 ปอนด์ หรือ 1,250 กิโลกรัม ขึ้นสู่วงโคจรได้
จรวดลำนี้สร้างขึ้นจากโลหะผสมที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติประมาณ 85% รวมถึงเครื่องยนต์ Aeon 1 จำนวน 9 ตัวที่ใช้ในการขับเคลื่อนจรวดขั้นที่ 1 และเครื่องยนต์ Aeon Vacuum ที่ใช้กับจรวดขั้นที่ 2
Relativity Space ระบุว่า จรวด Terran 1 เป็นวัตถุขนาดใหญ่ที่สุดที่ถูกสร้างจากเครื่องพิมพ์โลหะ 3D ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และในอนาคตบริษัทมีเป้าหมายที่จะสร้างจรวดซึ่งทำจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติถึง 95%
ที่มา : เอเอฟพี
