รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอ คิชิดะ เดินทางเยือนยูเครนระหว่างสงครามวันอังคาร (21 มี.ค.) และกลายเป็นผู้นำเอเชียคนที่ 2 ที่เดินทางเยือนกรุงเคียฟ พบประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ก่อนจับมืออย่างอบอุ่น เดินทางเข้าดินแดนสังหารหมู่เมืองบูชา ที่ทหารรัสเซียเคยก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม ก่อนประกาศมอบความช่วยเหลือ 30 ล้านดอลลาร์ ผ่านองค์การนาโต้สำหรับยุทธภัณฑ์ไม่ใช่เพื่อการทำลายล้าง
รอยเตอร์รายงานวานนี้ (21 มี.ค.) ว่า การเยือนยูเครนแบบปิดลับของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอ ในวันอังคาร (21) แสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นให้การสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้ขับไล่ผู้รุกรานรัสเซียให้ออกไปจากดินแดนของตัวเอง
คิชิดะกลายเป็นผู้นำโลกคนล่าสุดจากชาติกลุ่ม G7 ที่เดินทางเข้ากรุงเคียฟระหว่างสงคราม และยังเป็นผู้นำเอเชียคนที่ 2 ที่เดินทางมาเยือนกรุงเคียฟ หลังก่อนหน้า นายกรัฐมนตรีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด เดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ปีที่แล้ว และเดินทางต่อไปถึงกรุงมอสโก รัสเซีย เพื่อผลักดันให้การส่งออกธัญพืชของยูเครนสามารถกลับมาอีกครั้ง
ญี่ปุ่นซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่ม G7 ปีนี้ อ้างอิงจากเอเอฟพี พบว่า ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ได้ออกมาแถลงว่า ตัวเขาจะเข้าร่วมการประชุม G7 ในญี่ปุ่นผ่านทางวิดีโอลิงก์
“ผมตอบรับคำเชิญจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและจะเข้าร่วมในการประชุมาซัมมิต G7 ที่เมืองฮิโรชิมา ในรูปแบบออนไลน์” เซเลนสกีกล่าวผ่านแถลงการณ์
ในภาพที่ปรากฏไปทั่วเห็นผู้นำทั้งสองจับมือทักทายอย่างอบอุ่น รอยเตอร์รายงานว่า ผู้นำญี่ปุ่นยังเดินทางไปเยือนเมืองบูชา (Bucha) ซึ่งเป็นจุดที่มีการค้นพบการสังหารหมู่อย่างโหดเหี้ยมระหว่างที่เมืองอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย
นายกเทศมนตรีเมืองบูชา เปิดเผยว่า มีพลเรือนมากกว่า 400 คน ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม
การเดินทางเข้ายูเครนของ ฟูมิโอ คิชิดะ ถูกปิดเป็นความลับจนกระทั่งนาทีสุดท้ายด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยเป็นหลัก และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นน้อยครั้งที่เห็นผู้นำญี่ปุ่นเดินทางต่างแดนแบบปิดลับ และดูเหมือนเขาจะโดนตอบโต้จากรัสเซีย เพราะกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงวันอังคาร (21) ว่า ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำ บินเหนือทะเลญี่ปุ่น
เซเลนสกีเปิดเผยว่า เขาได้เสนอกลับไปยังปักกิ่งที่ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง กำลังเยือนกรุงมอสโกในเวลานี้ว่าให้ปักกิ่งเข้าร่วมกับแผนสันติภาพเคียฟเพื่อยุติสงครามที่ทำให้เกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจไปทั่วโลกอยู่ในเวลานี้ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา
เจแปนไทม์สของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า คิชิดะเดินทางถึงกรุงยูเครนในช่วงบ่ายของวันอังคาร (21) ซึ่งการเยือนของเขาถูกทั่วโลกเปรียบเทียบกับการเดินทางเข้ากรุงมอสโกของสี เป็นเสมือนเรื่องเล่าจาก 2 นครา หรือ A Tale of the Two Cities ของชาร์ลส์ ดิกเคน นักประพันธ์เอกชาวอังกฤษ
ผู้นำญี่ปุ่นแถลงว่า เขาเสนอมอบความช่วยเหลือมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ ผ่านนาโต้ในการให้ความช่วยเหลือยูเครนในยุทธภัณฑ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำลายล้าง ซึ่งที่ผ่านมา ญี่ปุ่นที่มีข้อกำหนดห้ามการส่งออกอาวุธที่เข้มงวดได้ช่วยเหลือยูเครนสำหรับการมอบโดรนสอดแนม เสื้อเกราะกันกระสุน หมวกทหาร เต็นท์ และยารักษาโรค