ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียระบุ “ยินดี” ให้รัสเซียตั้งฐานทัพแห่งใหม่ และส่งกองกำลังเข้าประจำการเพิ่มเติมในซีเรีย ในถ้อยแถลงที่ดูเหมือนจะเป็นการเชื้อเชิญให้กองทัพหมีขาวอยู่ปฏิบัติภารกิจในซีเรียแบบ “ถาวร”
การที่รัสเซียส่งทหารเข้าแทรกแซงสงครามกลางเมืองซีเรียเมื่อปี 2015 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้รัฐบาล อัสซาด กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบพวกกบฏ และค้ำประกันความอยู่รอดของผู้นำซีเรีย ท่ามกลางกระแสเรียกร้องจากชาติตะวันตกที่ต้องการเห็น อัสซาด ถูกโค่น
ผู้นำซีเรียได้เข้าพบประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ที่ทำเนียบเครมลินเมื่อวันพุธ (15 มี.ค.) และให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RIA ว่า ดามัสกัส “ให้การรับรอง” ดินแดนที่รัสเซียอ้างว่าได้ผนวกไปจากยูเครน และพร้อมที่จะตอบรับข้อเสนอเปิดฐานทัพรัสเซียแห่งใหม่ๆ และเพิ่มจำนวนทหารรัสเซียในซีเรีย
“เราเชื่อว่าการเพิ่มกำลังทหารรัสเซียในซีเรียเป็นเรื่องที่ดี และการที่รัสเซียจะส่งทหารไปปฏิบัติภารกิจในประเทศใดไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องชั่วคราวเสมอไป” สำนักข่าว RIA อ้างการให้สัมภาษณ์ของผู้นำซีเรีย
“หากรัสเซียต้องการที่จะขยายฐานทัพหรือเพิ่มจำนวนทหาร มันก็เป็นแค่ปัญหาในเชิงเทคนิค หรือโลจิสติกส์เท่านั้น”
รัสเซียมีทหารจำนวนมากประจำการอยู่ในซีเรีย และยังถือเป็นพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนรัฐบาล อัสซาด อย่างเหนียวแน่นตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่ซีเรียเผชิญสงครามกลางเมือง
นอกจากฐานทัพอากาศฮไมมีม (Hmeimim) ซึ่งรัสเซียใช้เป็นฐานปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนกองกำลังอัสซาดแล้ว มอสโกยังควบคุมฐานทัพเรือตาร์ตุส (Tartus) ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งใช้งานมาตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อเดือน ม.ค. ว่า รัสเซียและซีเรียได้ซ่อมแซมฐานทัพอากาศอัล-จาร์ราห์ (Al-Jarrah) ทางตอนเหนือเพื่อใช้เป็นฐานทัพร่วม โดยฐานทัพขนาดเล็กทางตะวันออกของเมืองอะเลปโปแห่งนี้ถูกยึดกลับคืนมาจากกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้เมื่อปี 2017
อัสซาด ยังได้ขอบคุณ ปูติน ที่มอบความช่วยเหลือและสนับสนุนภารกิจกู้ภัยเหตุการณ์แผ่นดินไหวซีเรียเมื่อต้นเดือน ก.พ. และยกย่องผู้นำหมีขาวว่าให้การสนับสนุนความเป็นปึกแผ่นของซีเรียเรื่อยมา
อัสซาด ระบุด้วยว่า รัสเซียและซีเรียมีแผนที่จะลงนามความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ที่มา : รอยเตอร์