เอเจนซีส์ - ธนาคาร HSBC ยักษ์ใหญ่วานนี้ (13 มี.ค.) แถลงเข้าซื้อธนาคารซิลิคอนแวลลีย์แบงก์ หรือ SVB สาขาในอังกฤษในราคา 1 ปอนด์ เกิดขึ้นหลังมีการเจรจาเคร่งเครียดเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน สร้างความโล่งใจให้บรรดาสบริษัทสตาร์ทอัปไฮเทคอังกฤษกันถ้วนหน้า ลูกค้ายังสามารถทำธุรกรรมกับธนาคารได้ต่อไปตามปกติ รัฐมนตรีคลังอังกฤษยืนยันเป็นข้อตกลงที่ดีให้หลักประกันเงินฝากกับลูกค้าไม่ต้องใช้เงินภาษีประชาชนอังกฤษ
CNBC สื่ออังกฤษรายงานวานนี้ (13 มี.ค.) ว่า ธนาคาร HSBC แถลงในวันจันทร์ (13) ว่า ทางธนาคารตัดสินใจควบรวมกิจการธนาคาร SVB สาขาอังกฤษด้วยราคา 1 ปอนด์ ทั้งทรัพย์สินและหนี้สินของธนาคารซิลิคอน แวลลีย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ไม่รวมอยู่ในข้อตกลง
ซึ่งมาจนถึงวันศุกร์ (10) ที่เป็นวันที่ผู้กำกับสหรัฐฯ เข้าควบคุมกิจการธนาคาร SVB ในอเมริกา พบว่า ธนาคาร SVB อังกฤษมีหนี้อยู่ราว 5.5 พันล้านปอนด์ และมีเงินฝากราว 6.7 พันล้านปอนด์
ธนาคาร HSBC คาดว่า SVB อังกฤษมีทุนที่มีตัวตน (tangible equity) ราว1.4 พันล้านปอนด์
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า HSBC ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปประกาศการเข้าซื้อกิจการ SVB อังกฤษในเช้าวันจันทร์ (13) ด้วยราคา 1 ปอนด์ พร้อมกันนี้ในคำแถลงยืนยันว่ามีผลบังคับใช้ทันที
ทั้งนี้ SVB อังกฤษถือเป็นสถาบันการเงินใหญ่สำหรับภาคอุตสาหกรรมสตาร์ทอัป (startups) ไฮเทคของอังกฤษ และเหมือนเช่นในสหรัฐฯ หลังข่าวการล้มละลายส่งผลทำให้บรรดาผู้บริหารบริษัทไฮเทคต่างพยายามหาทางนำเงินออกมาจากธนาคารเพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงานและค่าใช้จ่ายปฏิบัติการต่างๆ
CNBC รายงานว่าข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการนั้นได้รับการช่วยเหลือจากธนาคารกลางอังกฤษ และมีการหารืออย่างใกล้ชิดร่วมกับกระทรวงการคลังอังกฤษ มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องลูกค้าธนาคารในอังกฤษ กระทรวงการคลังอังกฤษกล่าวผ่านแถลงการณ์
ด้านรัฐมนตรีคลังอังกฤษ เจเรมี ฮันต์ (Jeremy Hunt) แถลงย้ำว่า ข้อตกลงนี้มีขึ้นเพื่อทำให้มั่นใจว่าเงินฝากผู้บริโภคได้รับการปกป้อง และสามารถทำธุรกรรมทางธนาคารได้ตามปกติโดยที่ไม่ต้องใช้เงินภาษีอังกฤษเข้าช่วย
“ภาคอุตสาหกรรมไฮเทคของอังกฤษเป็นผู้นำในระดับโลกที่แท้จริง และมีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจอังกฤษ สนับสนุนงานหลายร้อยพันตำแหน่ง” เขากล่าว