เอพี/เอเจนซีส์ - สหประชาชาติออกแถลงวันจันทร์ (13 มี.ค.) ว่า ประชาคมโลกและรัฐบาลซีเรียไม่เคลื่อนไหวเร็วมากพอช่วยเหยื่อวิกฤตแผ่นดินไหวความแรง 6.7 แมกนิจูด ในตุรกีเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ยอดเสียชีวิตในตุรกีเกือบ 48,000 คน และอีก 6,000 คนในซีเรีย
เอพีรายงานวันนี้ (13 มี.ค.) ว่า คณะกรรมาธิการระหว่างประเทศชุดอิสระในการสอบสวนซีเรียขององค์การสหประชาชาติแถลงวันจันทร์ (13) ว่า สมควรต้องมีการสอบสวนถึงสาเหตุความล่าช้าในการเปิดพรมแดนที่ต้องใช้เวลานาน 1 สัปดาห์เพื่อให้สิ่งของบรรเทาทุกข์ผ่านเข้าไปได้
คณะกรรมาธิการสหประชาชาติแถลงชี้ชัดว่า ทั้งประชาคมโลก และรัฐบาลซีเรียไม่เคลื่อนไหวเร็วพอในการให้ความช่วยเหลือเหยื่อผู้ประสบภัยหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 6 ก.พ. อ้างอิงจาก VOA พบว่าศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองเนอร์ดากิในตุรกีราว 26 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ดินราว 18 กม. โดยอยู่บน “รอยเลื่อนอานาโตเลียตะวันออก” แผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ตอนกลางของตุรกีและซีเรีย
เอพีรายงานซึ่งปัจจุบันตัวเลขผู้เสียชีวิตเหตุแผ่นดินไหวในตุรกีมาจนถึงวันอาทิตย์ 47,975 คน ซึ่งเป็นตัวเลขทางการของอังการา และองค์การสหประชาชาติประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในซีเรียราว 6,000 คน และมีอาคาร้านเรือนมากถึง 230,000 หลังในตุรกีที่ถล่มลงมาหลังเกิดแผ่นดินไหว
คณะกรรมาธิการชุดพิเศษกล่าวว่า ในเวลานี้ซีเรียต้องการคำสั่งหยุดยิงอย่างครอบคลุมเพื่อเป็นหลักประกันให้พลเรือน เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ปลอดภัย
เอพีรายงานว่า ต้องใช้เวลานานร่วมสัปดาห์กว่าที่องค์การสหประชาชาติและประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด จะสามารถตกลงกันได้ในการเปิดจุดข้ามแดนเพิ่มอีก 2 จุดเข้าไปสู่พื้นที่อิทธิพลของกบฏซีเรียพรมแดนติดกับตุรกี ด้วยเหตุผลว่ายังมีคนเป็นจำนวนมากยังคงติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารที่ถล่มลงมา
เปาโล ปินเอรู (Paulo Pinheiro) หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมาธิการชุดอิสระของสหประชาชาชาติกล่าวผ่านแถลงการณ์ในเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์ในตอนหนึ่งมีใจความว่า
“พวกเราเช่นเดียวกันเป็นประจักษ์พยานต่อความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงจากทั้งรัฐบาลและประชาคมโลก รวมไปถึงองค์การสหประชาชาติในการส่งความช่วยเหลือการบรรเทาทุกข์ช่วยชีวิตอย่างกะทันหันด้วยความรวดเร็วไปให้กภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย”
เขากล่าวต่อว่า การที่ผู้เล่นทั้งหลายล้มเหลวส่งผลทำให้ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียกลายเป็นศูนย์กลางของการเพิกเฉย ซึ่งความช่วยเหลือเร่งด่วนที่ปินเอรูกล่าวถึง ยังรวมไปถึงทีมกู้ภัยและเครื่องมือในสัปดาห์แรกของการเกิดแผ่นดินไหวซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ