xs
xsm
sm
md
lg

ทนไม่ได้! เผด็จการนิการากัว “แดเนียล ออร์เตกา” สั่งปิดสถานทูตวาติกัน ตัดสัมพันธ์กับ “โป๊ปฟรานซิส” ฉุนโดนเปรียบเหมือน “ฮิตเลอร์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - นิการากัวยืนยันวันอาทิตย์ (12 มี.ค.) ว่า ได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับนครรัฐวาติกัน ปิดสถานทูตวาติกันในประเทศ หลังสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ตรัสทรงเปรียบประธานาธิบดี แดเนียล ออร์เตกา เหมือนฮิตเลอร์ ชนวนเหตุการสั่งขังบิชอป โรลานโด โฮเซ อัลวาเรซ เป็นเวลา 26 ปีในเรือนจำ

สปุตนิกนิวส์ของรัสเซียรายงานวานนี้ (12 มี.ค.) ว่า ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างนิการากัวและนครรัฐวาติกันถูกยุติลงชั่วคราว เจ้าหน้าที่นิการากัวแถลงยืนยันในวันอาทิตย์ (12)

กระทรวงต่างประเทศนิการากัวแถลงยืนยันข่าวหลังมีรายงานเผยแพร่ไปทั่วว่า สถานทูตนครรัฐวาติกันในกรุงมานากัว และสถานทูตนิการากัวประจำนครรัฐวาติกันที่ตั้งอยู่ในกรุงโรมนั้นได้ปิดลง

รอยเตอร์รายงานว่า แหล่งข่าวระดับสูงของวาติกันยืนยันตรงกันในเรื่องนี้กับรอยเตอร์วันอาทิตย์ (12)

ความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ได้ตรัสเปรียบเทียบรัฐบาลนิการากัวของประธานาธิบดีแดเนียล ออร์เตกา (Daniel Ortega) กับ “เผด็จการ”

รอยเตอร์รายงานว่า ในการประทานสัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์เผยแพร่สัปดาห์ที่ผ่านมาโดยสื่อออนไลน์แดนละตินอเมริกา Infobae ก่อนหน้าวันจันทร์ (13) ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 10 ปีของการดำรงตำแหน่งปะมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกของโป๊ปฟรานซิส พระองค์ทรงตรัสชี้ไปที่การถูกำคุกของบิชอป โรลานโด โฮเซ อัลวาเรซ (Bishop Rolando José Álvarez) สิ่งที่กำลังเกิดในนิการากัวเทียบได้กับเผด็จการคอมมิวนิสต์ปี 1917 หรือของฮิตเลอร์ในปี 1935

อัลญะซีเราะฮ์รายงานวันที่ 14 ก.พ.  นิการากัวตัดสินจำคุกบิชอบอัลวาเรซ ซึ่งมักออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเผด็จการออร์เตกา เป็นเวลา 26 ปี หลังเขาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกลุ่มนักโทษการเมือง จำนวน 222 คน ที่ถูกปล่อยตัวและส่งไปสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์

นอกเหนือจากสั่งโทษจำคุกแล้ว นิการากัวยังสั่งถอดสัญชาติของบิชอปด้วย สปุตินิกนิวส์รายงานว่า โทษตัดสินความผิดของบิชอปอัลวาเรซ เกี่ยวข้องกับบทบาทของเขาในเหตุจลาจลร้ายแรงที่เกิดขึ้นตามเมืองต่างๆ ในนิการากัว เมื่อปี 2018 สปุตนิกนิวส์กล่าวอ้างว่า กองกำลังที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้ความรุนแรงในเหตุจลาจลเพื่อต้องการโค่นล้มรัฐบาลออร์เตกา

ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงานว่า ความร้าวฉานระหว่างวาติกันและนิการากัวหนักมากขึ้นเมื่อรัฐบาลนิการากัวทำการกวาดล้างการประท้วงปี 2018 จากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเผด็จการออร์เตกา ที่มีวาติกันเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่าย

ปีที่แล้ววาติกันยังประท้วงนิการากัวจากการที่รัฐบาลออร์เตกาออกคำสั่งขับไล่เอกอัครราชทูตนครรัฐวาติกัน ซึ่งวาติกันชี้ว่าเป็นการกระทำแต่ฝ่ายเดียวอย่างไร้เหตุผลและไม่ชาญฉลาด


กำลังโหลดความคิดเห็น