xs
xsm
sm
md
lg

หรือจะซ้ำรอยปี 2008! วิกฤตธนาคาร SVB ล้มลามไปทั่วโลก ไล่ตั้งแต่อังกฤษไปจนถึงเอเชีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผลกระทบจากการล่มสลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) เริ่มแผ่ลามไปทั่วโลก ไล่ตั้งแต่อังกฤษไปจนถึงสิงคโปร์ ตามหลังการพังครืนอย่างตื่นตะลึงเมื่อวันศุกร์ (10 มี.ค.) ของธนาคารแม่ในสหรัฐฯ ซึ่งมุ่งเน้นปล่อยเงินกู้ให้แก่ธุรกิจสตาร์ทอัป ถือเป็นการล่มสลายของสถาบันการเงินใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ นับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008

บรรดาผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัปในเบย์ แอเรีย ของรัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังตื่นตระหนกเกี่ยวกับการเข้าถึงเงินทุนและการจ่ายค่าจ้างพนักงาน ความกังวลนี้ยังแผ่ลามไปถึงแคนาดา อินเดียและจีน ใขณะที่หน่วยธุรกิจของ SVB ในสหราชอาณาจักร เตรียมประกาศล้มละลาย ซึ่งได้หยุดการซื้อขายเป็นทีเรียบร้อยแล้วและไม่รับลูกค้ารายใหม่อีกต่อไป

เมื่อวันเสาร์ (11 มี.ค.) บรรดาผู้นำของบริษัทเทคโนโลยีมากกว่า 250 แห่ง ส่งหนังสือเรียกร้องให้ เจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเข้าแทรกแซง "การสูญเสียเงินฝากมีความเป็นไปได้ว่าจะฉีกภาคธุรกิจนี้เป็นชิ้นๆ และฉุดระบบนิเวศทางธุรกิจย้อนกลับไป 20 ปี" พวกเขาระบุในหนังสือ "ธุรกิจมากมายจะถูกโยนเข้าสู่การบังคับชำระบัญชีชั่วข้ามคืน"

ในวันอาทิตย์ (12 มี.ค.) ฮันท์ เผยว่าเขากำลังทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก และ แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ สำหรับหาทางหลีกเลี่ยงหรือจำกัดความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุด ในผลกระทบจากความยุ่งเหยิงที่ ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ สาขาอังกฤษ

"เราจะเดินหน้าแผนต่างๆ ในทันทีเพื่อรับประกันเกี่ยวกับปฏิบัติการในระยะสั้น และกระแสเงินสดที่จำเป็นรองรับบรรดาลูกค้าอังกฤษของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์" ฮันท์กล่าว

หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ ระบุว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น สาขาต่างๆ SVB ในจีน เดนมาร์ก เยอรมนี อินเดีย อิสราเอลและสวีเดนก็เช่นกัน บรรดาผู้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัปส่งเสียงเตือนว่าการพังครืนของธนาคารแห่งนี้อาจกวาดล้างธุรกิจสตาร์ทอัปทั่วโลก หากรัฐบาลไม่เข้าแทรกแซง

เอสพีดี ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ โค กิจการร่วมค้าของ SVB ในจีน กำลังหาทางสร้างความอุ่นใจแก่ลูกค้าท้องถิ่น บอกกับลูกค้าว่าปฏิบัติการต่างๆ ของพวกเขานั้นเป็นอิสระและมีความมั่นคง

"วิกฤตจะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ และดังนั้นเราเรียกร้องให้คุณป้องกันมันในตอนนี้เลย" บรรดาซีดีโอและผู้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัปในอังกฤษ ระบุในหนังสือที่ส่งถึง ฮันท์ โดยบริษัทที่ร่วมลงนามในจดหมายดังกล่าว มี Uncapped, Apian, Pockit และ Pivotal Earth รวมอยู่ในนั้นด้วย

กระทรวงการคลังของอังกฤษ เริ่มไต่ถามบรรดาธุรกิจสตาร์ทอัปว่าพวกเขามีเงินฝากมากแค่ไหน อัตราที่บริษัทสูญเสียเงินและการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการธนาคาร ณ SVB และอื่นๆ จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดในประเด็นนี้ ทั้งนี้ แหล่งข่าวร้องขอไม่ให้เปิดเผยตัวตน ส่วนทางกระทรวงการคลังปฏิเสธแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว

บรรดาผู้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัปกำลังเฝ้ารออย่างเป็นกังวลต่อผลลัพธ์ของที่ประชุมโต๊ะกลมและข้อมูลข่าวสารใดๆ เกี่ยวกับแนวทางบริหารจัดการเงินฝากของพวกเขาที่ธนาคาร SVB โดยบี มาเธอร์ ซีอีโอของ Lingumi บริษัทสตาร์ทอัปซอฟต์แวร์ด้านการศึกษา ซึ่งตั้งอยู่ในอังกฤษ เผยว่า 85% ของเงินสดของบริษัทอยู่ใน SVB เขาพยายามโอนบางส่วนออกจากบัญชี แต่จนถึงช่วงเย็นวันเสาร์ (11 มี.ค.) เขาไม่มั่นใจว่ามันได้ผลหรือไม่ "มันเป็นเรื่องความเป็นหรือความตายสำหรับเรา"

แจ็ค โอเมียรา ผู้ก่อตั้ง Ochre Bio สตาร์ทอัปด้านจีโนมิกส์ ในลอนดอน เผยว่าได้ใช้ความพยายามเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ในการถอนเงินออกจาก SVB "หากไม่มีการทรกแซง มันอาจเป็นการกวาดล้างยุคสมัยแห่งผู้ประกอบการบริษัทอย่างแท้จริง"

เช่นเดียวกับในสหรัฐฯ เงินฝากใน SVB บางส่วนในอังกฤษได้รับการค้ำประกัน แต่ไม่เป็นชัดเจนว่าเงินเหล่านั้นจะมีอยู่หรือไม่ มีความกังวลกันอย่างมากในบรรดาผุ้บริหารธุรกิจสตาร์ทอัปว่า การพังครืนของ SVB จะปิดกั้นเงินทุนในอนาคตจากธุรกิจร่วมลงทุนที่ไหลเข้าสู่อังกฤษ ในขณะที่ภาคธุรกิจทั้งหลายก็เดินโซเซอยู่ก่อนแล้วจากเบร็กซิต

บรรดาผู้นำบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลายในเอเชียพยายามประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเช่นกัน ในสิงคโปร์ เหล่านักการเงินและพวกผู้ประกอบการที่เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนธุรกิจวอร์ตัน รวมตัวกันที่โรงแรมแชงกรีลา แชร์ข่าวเกี่ยวกับผลกระทบ ในขณะที่บรรดาผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัปและนักลงทุน ณ ที่ประชุมหนึ่งในมุมไบ ไม่ได้พูดคุยในเรื่องอื่นๆ เลย ยกเว้นแต่วิกฤต SVB

"ผลกระทบของเหตุการณ์ SVB ที่มีต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีไม่ควรถูกประเมินต่ำเกินไป" หลิว เจิ้งหนิง นักวิเคราะห์จากไชน่า อินเตอร์เนชันแนล แคปิตอล คอร์ป กล่าว พร้อมระบุเงินฝากมีความสำคัญยิ่งกับธุรกิจสตาร์ทอัป เพราะพวกเขาจำเป็นต้องมีเงินสดจำนวนมากเพื่อชำระรายจ่ายที่สูงลิ่ว ในนั้นรวมถึงค่าวิจัยและพัฒนาและเงินเดือนพนักงาน

"ถ้าเงินฝากเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้วได้รับความเสียหายจากกระบวนการล้มละลายหรือฟื้นฟู บริษัทเทคโนโลยีบางส่วนอาจเผชิญความตึงเครียดกระแสเงินสดระดับสูง ความเสี่ยงล้มละลายจึงไม่อาจตัดออกไปได้"

กระทรวงการคลังของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันอาทิตย์ (12 มี.ค.) ว่าพวกเขากำลังจับตาอย่างใกล้ชิดต่อผลลัพธ์ใดๆ ที่การพังครืนของ SVB จะส่งผลกระทบต่อตลาดเกาหลีใต้

(ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์)


กำลังโหลดความคิดเห็น