เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - เจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูเกาหลีใต้ถูกตำรวจจับวันพุธ (8 มี.ค.) หลังพบแอบทิ้งศพแรงงานไทยักลอบทำงานผิดกฎหมาย วัย 67 ปี เพศชาย ชื่อบุญชู ชาวขอนแก่นไว้ที่หลังเนินเขาใกล้ฟาร์มในเมืองโพชอน พบสภาพความเป็นอยู่แรงงานไทยระหว่างมีชีวิตภายในฟาร์มในขั้นย่ำแย่ ภรรยาเผยกำลังเก็บเงิน มีกำหนดบินกลับบ้านเดือนหน้า
หนังสือพิมพ์โคเรียเฮอรัลด์ของเกาหลีใต้รายงานวันนี้ (8 มี.ค.) ว่า ในรายละเอียดที่ออกมาจากสถานีตำรวจเมืองโพชอน (Pocheon) จังหวัดคย็องกี (Gyeonggi) จับกุมนายจ้างเกาหลีใต้เจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูคนหนึ่งในข้อหาต้องสงสัยแอบทิ้งศพแรงงานคนไทยที่คาดว่าน่าจะมีอายุราว 60 ปี ในขณะที่สื่ออื่น newsdirectory3 อ้างแหล่งที่มาจาก คิม ดาล-ซอง (Kim Dal-seong) ซีอีโอศูนย์แรงงานโพชอน (Pocheon Migrant Workers Center) เปิดเผยว่าแรงงานไทยที่เสียชีวิตมีอายุราว 67 ปี
เจ้าของฟาร์มหมูนำร่างใส่รถแทรกเตอร์ขับออกไปฝังที่หลังเนินเขาใกล้ฟาร์มเมื่อตอน 8 โมงเช้าของวันพฤหัสบดี (2) ที่ผ่านมา ผู้ตายซึ่งเป็นแรงงานผิดกฎหมาย อาศัยอยู่ในฟาร์มและทำงานมานานร่วม 10 ปี
ซึ่งรายงานจากการชันสูตรศพเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการเสียชีวิตมาจากปัญหาทางสุขภาพของตัวเอง ไม่ได้เกิดมาจากการฆาตกรรมแต่อย่างใด ด้านญาติในไทยเปิดเผย ผู้ตายมีกำหนดการเดินทางกลับไทยเดือนหน้า
หนังสือพิมพ์เกาหลีใต้รายงานว่า ตำรวจสามารถพบร่างในวันเดียวกันนั้นหลังได้รับแจ้งรายงานคนสูญหายจากเพื่อนบ้านคนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบสวนกล่าวว่า ภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดชี้ไปว่า เจ้าของฟาร์มขับรถแทรกเตอร์ออกไปในทิศทางมุ่งหน้าสู่เนินเขา
ทั้งนี้ นายจ้างฟาร์มหมูสารภาพยอมรับความผิดตามข้อกล่าวหา newsdirectory3 รายงานว่า นายจ้างเกาหลีใต้ที่ใช้ชื่อสมมติเป็น “นายเอ” อายุราว 60 ปี ต้องสงสัยขับรถแทรกเตอร์นำร่างของ “นายบี” อายุกว่า 60 ปีคนงานไทยไปทิ้งที่เนินเขา
โคเรียเฮอรัลด์รายงานต่อว่า ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานโพชอนสงสัยว่า แรงงานไทยผู้ตายที่ทำงานในฟาร์มมานาน 10 ปีนั้น จะถูกนายจ้างเกาหลีใต้ปฏิบัติละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อแรงงานภายในฟาร์มเลี้ยงหมูแห่งนี้ ซึ่งมีรายงานว่า ผู้ตายและนายจ้างชาวเกาหลีใต้เจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูภายในฟาร์ม 1,000 ตัว
สภาพความเป็นอยู่ของแรงงานไทยในขั้นย่ำแย่และสกปรกมาก ห้องที่อาศัยที่ติดกับเล้าเลี้ยงหมูไม่มีเครื่องทำความร้อนและทั้งผนังห้องและเพดานเต็มไปด้วยราดำ อ้างอิงจาก คิม ซีโอโอใหญ่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงาน
“เมื่อผมเดินเข้าไปในห้องผมแทบหายใจไม่ออกเพราะกลิ่นขี้หมูตลบอบอวลไปหมด” เขากล่าวและเสริมต่อว่า “เมื่อคิดไปว่าผู้ตายต้องทำงานที่นั่นนานกว่า 10 ปี มันแสดงให้เห็นว่ามีปัจจัยความเชื่อมโยงการเสียชีวิตและสภาพการทำงานจำเป็นต้องสอบสวนอย่างละเอียด”
newsdirectory3 รายงานว่า ห้องพักคนงานไทยมีขนาดเล็กเพียงแค่ 2 เมตรx3 เมตรเท่านั้น และส่วนครัวกินพื้นที่กว่าครึ่งของห้องไปแล้ว ตามการรายงานระบุว่าผู้ตายเป็นชาวขอนแก่น โดยฝ่ายภรรยาของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ผู้ตายกำลังเก็บเงินและคาดว่าจะสามารถเดินทางกลับไทยได้ในเดือนหน้าหลังจากทำงานที่ฟาร์มแห่งนี้มานานร่วม 10 ปี
ผู้อำนวยการช่วยเหลือแรงงานผิดกฎหมายในโพชอน กดดันตำรวจเกาหลีใต้ให้ทำการสอบสวนคดีการเสียชีวิตแรงงานไทยรายนี้อย่างละเอียด พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องไม่ให้มีแรงงานเถื่อนผิดกฎหมายที่เรียกว่า “ผีน้อย” ที่อาจต้องทำงานจนตายเพราะทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์
เขากล่าวต่อว่า แรงงานผิดกฎหมายผีน้อยเหล่านี้อาจต้องอยู่ในความกลัวตลอดเวลาเป็นเพราะโดนนายจ้างกดขี่เนื่องมาจากไม่ใช่เป็นแรงงานได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย
หนังสือพิมพ์เกาหลีใต้กล่าวว่า ตำรวจเกาหลีใต้ กระทรวงแรงงานเกาหลีใต้และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนสภาพแวดล้อมการทำงานภายในฟาร์ม และสอบสวนว่าคนไทยถูกนายจ้างกดขี่หรือไม่ระหว่างมีชีวิต
ขณะที่สื่อในไทยรายงานว่า นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของนายบุญชู ชายชาวไทยที่ทำงานในฟาร์มหมูเกาหลีใต้
ตามที่ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ว่าสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ประสานกับตำรวจเมืองโพชอน และรับทราบว่าเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภรรยาของผู้เสียชีวิตที่ไทยไม่สามารถติดต่อผู้เสียชีวิตได้ จึงแจ้งตำรวจเมืองโพชอนให้ช่วยค้นหาผู้เสียชีวิต ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ตำรวจเมืองโพชอนพบร่างของผู้เสียชีวิตที่เมืองโพชอน จังหวัดคยองกี ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต
ล่าสุด ในวันที่ 8 มีนาคมนี้ สถานเอกอัครราชทูตสามารถติดต่อภรรยาของผู้เสียชีวิตได้แล้ว โดยสถานเอกอัครราชทูตอยู่ระหว่างประสานกับภรรยาของผู้เสียชีวิต เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือตามความเหมาะสม และจะติดตามคดีของผู้ที่เสียชีวิตอย่างใกล้ชิดกับทางการเกาหลีใต้ต่อไป
พร้อมกันนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังได้แสดงความเสียใจกับญาติของผู้ที่เสียชีวิต และขอให้แรงงานไทยที่สนใจจะมาทำงานในเกาหลีใต้ปฏิบัติตามกฎและระเบียบการจ้างงานที่ถูกต้อง เพื่อจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายในกรณีที่เจ็บป่วยหรือเสียชีวิต โดยหากมีข้อมูลเพิ่มเติม กระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งให้ทราบต่อไป