‘สี จิ้นผิง’ ประณามสหรัฐฯ บีบจีนทุกทาง เรียกร้อง ‘บ.เอกชน’ ร่วมต่อสู้-สร้างนวัตกรรมใหม่ลดพึ่งพาต่างชาติ

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนชี้สหรัฐฯ กำลังใช้นโยบายก้าวร้าวกดดันจีนแบบ "รอบด้าน" พร้อมเรียกร้องให้ภาคเอกชนจีนร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์เพื่อต่อสู้กับวิกฤตท้าทายที่กำลังเกิดขึ้นทั้งภายในและนอกประเทศ

“(ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา) ชาติตะวันตกซึ่งนำโดยสหรัฐฯ ได้ใช้นโยบายปิดล้อมและกดดันเราในทุกทาง ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างรุนแรงต่อการพัฒนาของจีนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” สี กล่าวต่อบรรดาผู้แทนภาคธุรกิจจีนในการประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน (CPPCC) ซึ่งจัดควบคู่กับการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน หรือ NPC ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมื่อวันจันทร์ (6 มี.ค.)

การที่ สี เอ่ยวิจารณ์สหรัฐฯ ตรงๆ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยที่ผ่านมาคณะผู้นำจีนมักจะใช้คำว่า “ชาติตะวันตก” หรือ “ชาติพัฒนาแล้วบางประเทศ” เพื่อสื่อความหมายถึงวอชิงตัน

ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ มาถึงจุดตกต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี และสถานการณ์ยิ่งทวีความตึงเครียดในเดือน ก.พ. หลังจากที่สหรัฐฯ ตรวจพบบอลลูนจีนรุกล้ำเข้าไปยังน่านฟ้าอเมริกาเหนือ และถึงขั้นส่งเครื่องบินรบขึ้นไปยิงทำลายบอลลูนดังกล่าว

สี ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจที่จีนกำลังเผชิญอยู่ และเรียกร้องให้ชาวจีน “เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน”

“ในวันข้างหน้าเรายังจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายที่รุนแรงยิ่งกว่านี้ แต่หากชาวจีนทุกคนมีความคิดเห็นตรงกัน ทุ่มเททำงานหนักร่วมกัน เราก็จะได้รับชัยชนะในการต่อสู้ครั้งใหม่” สำนักข่าวซินหวารายงานถ้อยแถลงของผู้นำจีน

สี เรียกร้องให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน และรวมถึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขจัดอุปสรรคในเชิงนโยบายหรือขั้นตอนต่างๆ (institutional barriers) ที่ทำให้บริษัทเอกชนเหล่านี้ไม่สามารถเข้าสู่อุตสาหกรรมบางประเภทได้

“ภาคเอกชนถือเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยให้พรรคคอมมิวนิสต์สามารถบริหารประเทศต่อไปในระยะยาว” สี กล่าว “เราถือว่าบริษัทและผู้ประกอบการเอกชนคือคนในฝ่ายของเรา”

สี ยังกล่าวเน้นเรื่องการปกป้องทรัพย์สินของบริษัทและผู้ประกอบการเอกชน และให้ปฏิบัติต่อรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อ “ฟื้นฟูความคาดหวังและความเชื่อมั่นของตลาด” นอกจากนี้ ยังขอให้รัฐบาลสนับสนุนบริษัทด้านไอทีของจีนให้สามารถ “ฉายแสง” ในเวทีโลก เพื่อกระตุ้นการจ้างงานและการบริโภค

ขณะเดียวกัน ผู้นำจีนได้ฝากไปถึงผู้ประกอบการเอกชนให้พยายาม “เข้าใจหลักการและนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างถูกต้อง” และขอให้มีความ “รักชาติบ้านเมือง” ช่วยเหลือแบ่งปันแก่สังคมให้มากขึ้น เพื่อนำไปสู่ “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” (common prosperity)

สหรัฐฯ ใช้นโยบายกีดกันทางเทคโนโลยีต่อจีนอย่างดุเดือดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังโจมตีจีนในประเด็นสิทธิมนุษยชน และมองกิจกรรมทางทหารของจีนรอบเกาะไต้หวันว่าเป็นสัญญาณเตือน “การรุกราน” ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ที่มา : CNN