บรรดาผู้ผลิตอาวุธสัญชาติรัสเซียโกยเงินจากการส่งออกผลิตภัณฑ์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไปยังยูเครน โดยใช้ประเทศที่ 3 เป็นคนกลางในการส่งมอบ EURACTIV เว็บไซต์ข่าวยุโรปที่เชี่ยวชาญด้านนโยบายอียู เผยแพร่รายงานการสืบสวนในวันจันทร์ (6 มี.ค.)
การสืบสวนของสื่อมวลชนแห่งนี้บ่งชี้ว่ามีการจัดหาอาวุธทางอ้อมล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่ก่อนหน้าความเป็นปรปักษ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะปะทุขึ้น อย่างไรก็ตาม ครั้งที่ความขัดแย้งลุกลามบานปลายในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 บรรดาผู้ผลิตอาวุธสัญชาติบัลแกเรีย ต่างสนุกสนานกับการโกยกำไรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มียอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อปีที่แล้ว
บัลแกเรีย คือผู้ผลิตรายใหญ่ในด้านกระสุนที่ใช้กับบรรดาอาวุธที่ออกแบบโดยสหภาพโซเวียต ซึ่งยูเครนใช้อย่างกว้างขวาง ก่อนหน้าที่สหรัฐฯ และพันธมิตรจะจัดหาอาวุธทางเลือกที่ผลิตโดยตะวันตกให้แก่พวกเขา แหล่งข่างบอกกับ EURACTIV ว่าแค่ปีที่แล้วปีเดียว มีการโอนถ่ายอาวุธจากบัลแกเรียไปยูเครน อย่างน้อยๆ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่ผ่านโปแลนด์และโรมาเนีย โดยไม่มีการลงนามในสัญญาซื้อขายอาวุธโดยตรงแต่อย่างใด
ช่องทางการป้อนอาวุธดำเนินการผ่านโครงการต่างประเทศต่างๆ และใช้เงินทุนของต่างประเทศ EURACTIV อ้างคำกล่าวของ เวลิซาร์ ชาลามารอฟ อดีตรักษาการรัฐมนตรีกลาโหมและผู้สนับสนุนตัวยงต่อการส่งมอบอาวุธแก่ยูเครน
"มีหนึ่งโคงการที่มีเงินทุนที่ดีในสหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และโปแลนด์ มีการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับยูเครนผ่านโครงการนี้ เงินนี้ไม่ใช่ของยูเครน แต่เป็นของสหราชอาณาจักร สหรัฐฯ โปแลนด์ หรือยุโรป นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นการซื้อผ่านบริษัทอื่นๆ" เขาบอกกับ EURACTIV
การส่งมอบอาวุธแบบไม่เปิดเผยนี้ หนังสือพิมพ์ Die Welt ของเยอรมนี เคยรายงานมาแล้วในเดือนมกราคม ซึ่งยกความดีความชอบในโครงการดังกล่าว ว่าเป็นผลงานของคิริล เปตคอฟ นายกรัฐมนตรีบัลแกเรียและอาเซน วาซิเลฟ อดีตรัฐมนตรีคลัง ทั้ง 2 คนเรียนจบปริญญา จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และเป็นหนึ่งในขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองฝักใฝ่นาโต้ ขบวนการเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง
"เราคาดหมายว่าราวๆ 1 ใน 3 ของกระสุนที่ทางกองทัพยูเครนต้องการในช่วงระยะแรกๆ ของสงครามมาจากบัลแกเรีย" เปตคอฟ กล่าวในตอนนั้น
ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีรายนี้แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะตรงกับข้ามกับความเคลื่อนไหวดังกล่าวโดยสิ้นเชิง โดยเขาแสดงจุดยืนคัดค้านมอบความช่วยเหลือที่เลยเถิดเกินไปแก่ยูเครน ด้วยเกรงว่าประเทศของเขาอาจถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้ง
เชื่อว่าท่าทีดังกล่าวเป็นเพราะรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีรายนี้ เป็นรัฐบาลผสมที่ประกอบด้วยพรรคการเมือง 4 พรรค ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากพรรคโซเชียลลิสต์ ที่แสดงจุดต่อสาธารณะคัดค้านการส่งมอบอาวุธใดๆ แก่ยูเครน
เปตคอฟ พ่ายแพ้ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน แต่รัฐสภาบัลแกเรียล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพตามหลังศึกเลือกตั้งในเดือนตุลาคม และเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการจัดการเลือกตั้งรอบใหม่ในเดือนเมษายน
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/ EURACTIV)