รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - มะนิลาแถลงวันเสาร์ (4 มี.ค.) ว่า เกาะทิตูถูกกองเรือรบจีน 1 ลำและกองเรือทางน้ำปักกิ่ง 42 ลำ ลอยลำไม่ห่างในทะเลจีนใต้ 2 สัปดาห์ หลังประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประกาศไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่นิ้วเดียว วันเปิดการประชุมสภาประชาชนจีน NPC ปักกิ่งประกาศอัดฉีดเพิ่มงบประมาณกลาโหมเพิ่ม 7.2% หรืออีกราว 224 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นการเพิ่มงบทางการทหารสูงกว่า 7% เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และประกาศตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนประจำปี 2023 อยู่ที่ 5%
รอยเตอร์รายงานวานนี้ (4 มี.ค.) ว่า หน่วยงานยามฝั่งฟิลิปปินส์แถลงวันเสาร์ (4) ว่า เชื่อว่าเรือจำนวน 42 ลำ ที่พบมาจากหน่วยงานกองกำลังทางน้ำอยู่ภายในพื้นที่เกาะทิตู (Thitu island) หรือเกาะปักอาซา (PAG-ASA island)
และนอกจากนี้ ยังพบเรือรบจีน 1 ลำ และเรือยามฝั่งจีน 1 ลำ กำลังลอยลำอ้อยอิ่งช้าๆ ในน่านน้ำใกล้เคียง
เกาะทิตูเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะสแปรตลีย์ (the Spratly island) ซึ่งเป็นที่ตั้งทางทหารของฟิลิปปินส์ที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดทางยุทธศาสตร์ในทะเลจีนใต้ ที่พื้นที่ส่วนใหญ่อ้างจากปักกิ่งถือสิทธิครอบครอง แต่ทว่าชาติเอเชียหลายชาติ รวมฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เวียดนาม เป็นต้น ไม่เห็นด้วย
การพบเรือรบจีนและกองเรือหน่วยงานจีนเกิดขึ้นหลัง 2 สัปดาห์ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประกาศยืนยันจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่นิ้วเดียว
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า กองทัพเรือประมงจีนและเรือยามฝั่งจีนเป็นเครื่องมือสำคัญทางยุทธศาสตร์ในการควบคุมทะเลจีนใต้ และยังปรากฏคงเป็นปัญหาการทำประมงและการเคลื่อนไหวด้านการพลังงานนอกชายฝั่งประเทศอื่นเสมอ
เกิดขึ้นท่ามกลางปักกิ่งมีแผนเพิ่มงบประมาณทางการทหารกว่า 7% เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวันอาทิตย์ (5) ว่า งบประมาณทางการทหารประจำปี 2023 ตามรายงานร่างงบประมาณที่เปิดเผยไปพร้อมกับการเปิดประชุมสภาประชาชนจีน NPC วันนี้ โดยเป็นการเพิ่มถึง 7.2% ไปอยู่ที่ 1.55 ล้านล้านหยวน หรือราว 224 พันล้านดอลลาร์
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่างบประมาณทางการทหารจีนปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งมีการอัดฉีดเพิ่มที่ 7.1% ท่ามกลางการแข่งขันทางภูมิศาสตร์เชิงการเมืองและการแข่งสะสมอาวุธในภูมิภาค
โดยในรายงานการทำงานของนายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า “กองทัพควรเพิ่มการฝึกซ้อมทางการทหารและการเตรียมความพร้อมทั้งหมด การพัฒนาแนวทางยุทธศาสตร์ทางการทหารใหม่ เพิ่มความพยายามมากขึ้นเพื่อการฝึกซ้อมภายใต้เงื่อนไข และทำให้ประสบความสำเร็จในการประสานร่วมกันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งต่อการทำงานกองทัพในทุกทิศทางและทุกสนาม”
ซึ่งทั้งงบประมาณทางการทหารและเป้าหมายตัวเลข GDP ทางเศรษฐกิจที่จีนเปิดเผยว่า ตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปีนี้อยู่ที่ 5% เพื่อทำให้ปักกิ่งซึ่งมีขนาดทางเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกฟื้นกลับมาหลังจากมาตรการโควิด-19 ที่ยาวนานของปักกิ่งนั้นกลายเป็นสิ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดในพิธีเปิด NPC
CNN ชี้ว่า ปักกิ่งปัจจุบันถูกจัดว่าเป็นประเทศที่มีกองทัพเรือใหญ่ที่สุดในโลกและยังคงเดินหน้าปรับปรุงกองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์และฝูงเครื่องบินรบขับไล่ของตัวเอง โดยในวันเสาร์ (4) ที่มีการแถลงข่าวจาก NPC มีการยืนยันว่า งบประมาณกองทัพจีนยังคงระดับปานกลางและมีการเติบโตสมเหตุสมผล