xs
xsm
sm
md
lg

ปรินซ์แฮร์รีอึ้งงงงัน โดนแจ้งขับไล่พ้นตำหนักฟร็อกมอร์ พสกนิกรจับตา ‘ศึกวินด์เซอร์ส’ จะระเบิดระเบ้อเบอร์ใด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าชายแฮร์รีน่าจะทราบในพระทัยดีว่า พระราชบิดาทรงรักและสงสารพระองค์มากมายเกินกว่าจะลงโทษเมื่อพระองค์ดื้อรั้นเกเร ดังนั้น เมื่อทรงพบว่าสำนักพระราชวังบัคกิงแฮมส่งหนังสือแจ้งการขับไล่ออกพ้นพระตำหนักฟร็อกมอร์ พระองค์ถึงกับอึ้งงันและช็อก ที่ผ่านมา 7 สัปดาห์ทั้งสองลดบทบาทลงไปอย่างเงียบเชียบ โดยดัชเชสเมแกนเพิ่งก้าวออกจากพระตำหนักมาเป็นข่าวเมื่อวันที่ 1 มีนาคม อันเป็นวันซึ่งสื่อหัวสีเจ้ายักษ์ นาม เดอะซัน เปิดประเด็นข่าวเรื่องการขับไล่เป็นรายแรกและเป็นครั้งแรก นับจากนี้ ท่านผู้ชมต่างรอดูว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ศึกวินด์เซอร์ส จะระเบิดระเบ้อให้ได้ชมกันอย่างดุเดือดเพียงใด
เจ้าชายแฮร์รี พระราชโอรสแห่งคิงชาร์ลส์ และพระชายาเมแกนทรงถึงกับอึ้งอย่างยิ่งยวด หลังได้รับหนังสือแจ้งให้ย้ายสิ่งของส่วนพระองค์ออกจากพระตำหนักฟร็อกมอร์ คอตเทจ พระสหายสนิทโอมิด สโคบี เผยแก่เดอะซัน ขณะที่สื่อหัวสีอังกฤษจอมยักษ์เจ้านี้รายงานด้วยว่าเจ้าชายแอนดรูว์ พระราชอนุชา จะเป็นพระราชนิกูลที่จะย้ายเข้าอาศัยแทน

ที่ผ่านมา พระตำหนักฟร็อกมอร์อันแสนสง่างามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ถูกทอดทิ้งให้ว่างร้างเป็นส่วนใหญ่ เพราะเจ้าชายแฮร์รีทรงปักหลักประทับอยู่ในสหรัฐอเมริกา ขณะที่เจ้าหญิงยูเชนีและพระสวามีแจ็ก บรูกส์แบงก์ ผู้ซึ่งเจ้าชายแฮร์รีทรงมอบกุญแจพระตำหนักเพื่อให้เข้าพักอาศัยตั้งแต่กลางปี 2020 ก็ทรงย้ายออกจากฟร็อกมอร์ ไปประทับอยู่ในโปรตุเกสแล้ว

ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ทรงออกมายืนยันข่าวของเดอะซัน ที่รายงานตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2023 ว่าทั้งสองทรงได้รับหนังสือแจ้งให้โยกย้ายสิ่งของส่วนพระองค์ออกจากพระตำหนักฟร็อกมอร์ คอตเทจ ซึ่งสื่อต่างๆ เรียกขานอยู่ในข่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า หนังสือแจ้งการขับไล่ออกจากอสังหาริมทรัพย์

โดยโฆษกของทั้งสองพระองค์ประกาศในค่ำวันเดียวกันว่า “เราสามารถยืนยันได้ว่าดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ทรงได้รับการขอร้องให้เคลียร์ที่พักของพระองค์ ณ พระตำหนักฟร็อกมอร์ คอตเทจ”

เราสามารถเปิดเผยได้ว่าทั้งสองพระองค์ทรงถูกแจ้งเรื่องนี้มาตั้งแต่ 24 ชั่วโมง หลังจากที่หนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รี เรื่อง Spare ถูกวางจำหน่ายในเดือนมกราคม

โดยหนังสือเล่มอื้อฉาวดังกล่าว ถูกวางแผงในวันที่ 10 มกราคม 2023 และมีเนื้อหาอย่างที่สื่อมวลชนส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ได้แก่ การสร้างข้อกล่าวหาโจมตีพระราชวงศ์ระดับผู้ใหญ่อย่างร้ายแรง

ไม่ว่าจะในประเด็นที่ตำหนิติเตียนบทบาทความเป็นพระราชบิดาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3

หรือประเด็นที่ว่าสมเด็จพระราชินีคามิลลา ในขณะดำรงพระยศเป็นดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ทรงปล่อยข่าวเกี่ยวกับเจ้าชายแฮร์รีออกสู่สื่อมวลชนเพื่อสร้างเครือข่ายสายสัมพันธ์อันดีกับนักข่าว

อีกทั้งประเด็นว่าเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐาของเจ้าชายแฮร์รี ทรงทำร้ายร่างกายเจ้าชายแฮร์รีในพระตำหนักนอตทิงแฮม ในเขตพระราชฐานเคนซิงตันการ์เดนส์ สืบเนื่องจากการทะเลาะทุ่มเถียงกันในเรื่องพระชายาเมแกน

พร้อมนี้ เดอะซันรายงานว่าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงเสนอมอบพระตำหนักฟร็อกมอร์ให้พระอนุชาแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก ได้ใช้พำนัก เพราะทรงให้สัญญาว่าพระองค์จะไม่ปล่อยให้พระอนุชากลายเป็นคนไร้บ้านหรือคนสิ้นเนื้อประดาตัว

เจ้าชายแฮร์รีทรงเล่าให้โลกรู้ ผ่านหนังสือ Spare ว่าทรงผิดหวังในพระราชบิดา พร้อมกับติเตียนว่าพระราชบิดามิใช่พ่อที่ดี ทั้งที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงออกโรงปกป้องและช่วยเหลือพระราชโอรสให้ผ่านพ้นวิกฤติเด็กเกเรครั้งแล้วครั้งเล่า ในเวลาเดียวกัน เจ้าชายแฮร์รีทรงกล่าวหาว่าสมเด็จพระราชินีคามิลลา ในขณะดำรงพระยศเป็นดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ทรงปล่อยข่าวเกี่ยวกับเจ้าชายออกสู่สื่อมวลชนเพื่อสร้างเครือข่ายสายสัมพันธ์อันดีกับนักข่าว

โลกทัศน์ความคิดมาก-คิดฟุ้งซ่านของเจ้าชายแฮร์รีปรากฏชัดเจนในหนังสืออัตชีวประวัติของพระองค์ โดยทรงฟ้องชาวโลกว่าพระบิดาและพระมารดาทรงให้กำเนิดพระองค์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นตัวสำรองและอะไหล่อวัยวะทดแทนแก่เจ้าฟ้าชายวิลเลียม รัชทายาทพระองค์หลัก ในภาพนี้เป็นหนังสือ Spare ในเวอร์ชั่นภาษาเดนนิชของประเทศเดนมาร์ก
คิงชาร์ลส์ทรงมีพระราชประสงค์จะจบเรื่องอื้อฉาวในอดีตให้เสร็จก่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พฤษภาคม 2023

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ผู้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ของสหราชอาณาจักร ทรงมีพระราชประสงค์จะก้าวข้ามพ้นออกจากเรื่องราวอื้อฉาวในกาลเก่าทั้งปวง ก่อนที่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เดือนพฤษภาคม 2023 จะมีขึ้น เดอะซันตั้งประเด็นอย่างนั้น

โดยระบุว่าพระองค์จะทรงได้รับการสนับสนุนจากพระราชวงศ์ผู้ใหญ่ทั้งปวงที่ทรงงานต่างๆ ของพระราชตระกูลวินด์เซอร์ อาทิ ควีนคามิลลา เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ เป็นต้น

ขณะที่ในแคมป์คู่แข่ง อันได้แก่ ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ตลอดจนพระราชวงศ์ที่ไม่ได้ทรงงานของพระราชตระกูล กล่าวคือ เจ้าชายแอนดรูว์ เจ้าหญิงเบียทริซ และเจ้าหญิงยูเชนี ผู้ทรงเป็นพระธิดาของเจ้าชายแอนดรูว์ ต่างอยู่ในภาวะตกใจเสียขวัญที่ได้เห็นการออกหนังสือแจ้งการขับไล่ เดอะซันระบุอย่างนั้น

ดยุกแฮร์รีกับดัชเชสเมแกน ผู้ทรงประทับปักหลักอยู่ในสหรัฐอเมริกามาโดยตลอด ทรงได้รับพระราชทานสิทธิ์ครอบครองพระตำหนักฟร็อกมอร์ เป็นของขวัญวันเสกสมรสจากอดีตสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ล่วงลับ แต่เมื่อเจ้าชายทรงลาออกจากพระราชกิจแห่งพระราชตระกูล พร้อมกับทรงย้ายไปประทับในสหรัฐฯ พระองค์ทรงรักษาพระตำหนักไว้เป็นที่พักเฉพาะกิจยามเสด็จเยือนประเทศอังกฤษ

และหลังจากที่สำนักพระราชวังบัคกิงแฮมมีหนังสือแจ้งให้เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาเคลียร์สิ่งของส่วนพระองค์ออกจากพระตำหนักฟร็อกมอร์ ก็เป็นที่เข้าใจกันได้ว่ามีการส่งจดหมายและอีเมล์ไปมาเป็นจำนวนมากระหว่างสำนักพระราชวังกับเจ้าชายแฮร์รีตลอดห้วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยในเบื้องแรกนั้น เจ้านายแห่งซัสเซกซ์ทรงได้รับแจ้งให้โปรดดำเนินการให้แล้วเสร็จและมอบคืนกุญแจภายในสองสามสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ด้วยการเจรจาอย่างเคร่งเครียดหลายรอบ ทั้งสองพระองค์ทรงมีเวลาทยอยดำเนินการเก็บรวบรวมและขนย้ายสู่พระตำหนักในแคลิฟอร์เนีย ไปได้จนถึงช่วงหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เดอะซันรายงานอย่างนั้น

“คิงชาร์ลส์ทรงมีพระราชประสงค์จะเริ่มดำเนินการในประเด็นเจ้าชายแฮร์รีกับพระชายา” ...  “สถานการณ์ถูกลากยาวต่อเนื่องมานานเกินควรอย่างยิ่งแล้ว พระองค์จึงทรงอยากจะดำเนินการให้เด็ดขาดและรวดเร็ว” เดอะซันอ้างแหล่งข่าววงในบอกว่าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีพระดำริอย่างนั้น
ในส่วนของเทียบเชิญเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2023 ที่เป็นข่าวมาระยะหนึ่งว่าพระนามของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ปรากฏอยู่ในลิสต์แขกรับเชิญ นั้น เดอะซันเข้าใจว่าทั้งสองพระองค์ยังไม่ไดรับหนังสือเชิญ

ในการนี้ แม้เดอะซันได้รายงานชัดเจนว่าขณะที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงกำหนดไทม์ไลน์ที่จะปิดฉากเรื่องอื้อฉาวทั้งปวงให้เรียบร้อยก่อนพระราชพิธี แต่ในส่วนรายละเอียดนั้น พระองค์จะทรงเริ่มการเคลียร์ในห้วงหลังพระราชพิธี โดยเดอะซันได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า

“คิงชาร์ลส์ทรงมีพระราชประสงค์จะเริ่มดำเนินการในประเด็นเจ้าชายแฮร์รีกับพระชายา ตลอดจนประเด็นเจ้าชายแอนดรูว์ ให้เรียบร้อย หลังจากพระราชพิธีผ่านพ้นเป็นที่เรียบร้อย

“สถานการณ์ถูกลากยาวต่อเนื่องมานานเกินควรอย่างยิ่งแล้ว พระองค์จึงทรงอยากจะดำเนินการให้เด็ดขาดและรวดเร็ว” เดอะซันรายงานโดยมิได้เผยนามของแหล่งข่าว

ด้านสองเจ้านายแห่งซัสเซกซ์ก็อาจจะขอให้พระราชตระกูลทรงคืนเงินที่พระองค์ทรงจ่ายไปกับพระตำหนักฟร็อกมอร์

ที่ผ่านมา เจ้าชายแฮร์รีทรงชำระคืนเม็ดเงินที่ใช้งบหลวงไปในการบูรณะปรับปรุงพระตำหนัก จำนวน 2.4 ล้านปอนด์ (ราว 100 ล้านบาท) แล้ว และทรงชำระเงินก้อนใหญ่ในส่วนของค่าเช่าล่วงหน้าแล้วเช่นกัน

การแจ้งให้ยุติการครอบครองพระตำหนักฟร็อกมอร์จึงน่าจะเป็นการยุติข้อตกลงเช่าสิทธิ์ที่ยังเหลือเวลาอยู่หลายปี เดอะซันคาดการณ์อย่างนั้น

ฝ่ายต่างๆ จับตาดูว่าดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์จะกลับลำหันมาต่อสู้คัดค้านหนังสือแจ้งการขับออกพ้นพระตำหนักฟร็อกมอร์หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนว่าทั้งสองพระองค์จะทรงยอมรับสถานการณ์อย่างง่ายดายเกินไป โดยมีการเจรจาต่อรองรายละเอียดต่างๆ ทั้งเรื่องกรอบเวลาดำเนินการโยกย้าย ทั้งเรื่องแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนเงินค่าบูรณะปรับปรุงพระตำหนักจำนวน 2.4 ล้านปอนด์ กับเงินในส่วนของค่าเช่าล่วงหน้าหลายปี ไปจนถึงรายละเอียดหยุมหยิมว่าพระองค์ทรงขอเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่เคยอยู่ในพระตำหนักมาแต่ดั้งเดิม อาทิ พระเก้าอี้ยุคออตโตมาน ที่ทรงโปรดปราน เพื่อนำไปใช้ที่พระตำหนักในแคลิฟอร์เนีย
พระสหายสนิทโอมิด สโคบี ชี้ เป็นการลงทัณฑ์ที่โหดร้าย แต่กูรูอื่นระบุพระตำหนักต้องนำมาใช้งานให้คุ้มค่า

ในท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ต่อข่าวรอการยืนยันที่สื่อมวลชนระบุว่า เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาทรงถูกเทออกจากพระตำหนักฟร็อกมอร์ คอตเทจ นั้น นักเขียนคนดัง โอมิด สโคบี ผู้เป็นพระสหายสนิทของเจ้าชายและพระชายา และเป็นผู้ประพันธ์หนังสือชีวประวัติของทั้งสองพระองค์ในหัวเรื่องว่า Finding Freedom (ไขว่คว้าหาเสรีภาพ) ได้ให้ความเห็นส่วนตัวแก่เดอะซันว่า

เจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกนทรงอึ้งช็อกกับการถูกแจ้งขับออกจากฟร็อกมอร์

พร้อมกับอ้างความเห็นจากพระสหายรายหนึ่งของเจ้านายแห่งซัสเซกซ์ ซึ่งกล่าวว่า

“รู้สึกได้เลย มันจบหมดทุกสิ่งแล้วจริงๆ และเป็นเหมือนการลงทัณฑ์อันโหดร้าย

“เหมือนกับว่าพระราชตระกูลต้องการจะตัดทั้งสองพระองค์ออกจากภาพพระราชวงศ์ไปตลอดกาล”
สโคบีอ้างความเห็นของพระสหายรายดังกล่าว

ด้านผู้เชี่ยวชาญข้อมูลเชิงลึกด้านพระราชตระกูลวินด์เซอร์ แมตต์ วิลคินสัน ในฐานะบรรณาธิการข่าวราชวงศ์แห่งค่ายสื่อเดอะซัน ให้ความเห็นที่ตรงไปตรงมาว่า แม้พระตำหนักฟร็อกมอร์ คอตเทจ เป็นของขวัญวันเสกสมรสจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

แต่การตัดสิทธิ์เข้าครอบครองครั้งนี้ก็เป็นเรื่องสมควรด้วยเหตุ ในเมื่อเจ้าชายแฮร์รีกับพระชายาทรงแทบจะไม่ได้พักอาศัยในฟร็อกมอร์ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยทรงประทับในสหรัฐฯ เกือบตลอดเวลา

และในวิกฤติเศรษฐกิจที่ค่าครองชีพทะยานสูง มันย่อมไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพระราชวงศ์วินด์เซอร์ที่จะปล่อยปละให้แมนชันใหญ่โตถูกทิ้งร้างโดยไม่นำมาใช้ประโยชน์


นอกจากนั้น บ.ก.วิลคินสันวิเคราะห์เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาแบบเนื้อๆ ไม่ต้องอ้อมค้อมว่า ทั้งสองพระองค์ทรงทิ้งบทบาทในพระราชวงศ์ ทิ้งครอบครัว ตลอดจนทรงทำตัวเองจนกระทั่งประชาชนในอังกฤษไม่ต้องการจะต้อนรับพระองค์เอาเลย ปัญหาทั้งหลายเกิดขึ้นในไม่กี่ปีมานี่เอง

ดังนั้น ทั้งสองพระองค์มีแต่จะต้องโทษตนเองที่พากันมาถึงจุดนี้

เจ้าฟ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคททรงถวายความรักและภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พร้อมกับทรงงานสนองพระเดชพระคุณอย่างสุดกำลังความสามารถ ในเวลาเดียวกัน ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระจริยวัตรที่ดีงามอย่างสม่ำเสมอ จึงทรงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของกษัตริย์ชาร์ลส์ และทรงเป็นที่รักและชื่นชมของประชาชนอังกฤษ
‘ศึกวินเซอร์ส’ระอุ! พสกนิกรรอดู ‘สงครามกลางวัง’ ฝั่งลั้ลลาจะไฝ้วกลับฝั่งเวิร์กงานอย่างดุเดือดเพียงใด

มาถึงชั่วโมงนี้ ‘การมอบรองเท้าบู้ท’ ถวายเจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสเมแกน เพื่อให้กระเด้งพ้นจากพระตำหนักฟร็อกมอร์ เป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนการเสนอให้เจ้าชายแอนดรูว์ย้ายจากพระตำหนักรอยัล ลอดจ์ ซึ่งมีขนาดน้องๆ พระราชวัง ด้วยห้องหับกว่า 30 ห้องโดยเป็นห้องนอนโอ่โถงโอฬารถึง 7 ห้อง เพื่อให้เข้าไปประทับในพระตำหนักฟร็อกมอร์ คอตเทจ ขนาด 5 ห้องนอน นั้น เป็นอีกหนึ่งเรื่องใหญ่ๆ ทีเดียว บก.วิลคินสัน ตั้งประเด็นอย่างนั้น

ความเป็นจริงมีอยู่ว่าเจ้าชายแอนดรูว์ (ซึ่งทรงประทับในพระตำหนักรอยัล ลอดจ์ โดยมีดัชเชสซาราห์ อดีตพระชายากลับมาอาศัยอยู่ด้วย) ทรงเผชิญกับการถูกขับออกจากรอยัล ลอดจ์ เพื่อไปประทับในพระตำหนักฟร็อกมอร์ อันเป็นประเด็นที่พันอยู่กับปัญหาการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้

ในการนี้ เจ้าชายแอนดรูว์ทรงต้านทานความพยายามของพระวรเชษฐาที่จะดาวน์ไซส์พระองค์ และจะทรงไม่ยอมย้ายไปฟร็อกมอร์ คอตเทจ

พสกนิกรจึงมีลุ้นจะได้เห็นการต่อสู้ภายในพระราชวงศ์วินด์เซอร์ ระหว่างสายที่ไม่ทรงงานพระราชตระกูล กับสายที่ทรงงานอย่างแข็งขัน เต็มที่กับการแบ่งเบาพระราชกรณียกิจของคิงชาร์ลส์ผู้ทรงเป็นพระประมุขของพระราชวงศ์

ที่ผ่านมา พระสหายของเจ้าชายแอนดรูว์เคยเล่าให้สื่อทราบว่าเจ้าชายทรงกังวลว่าจะชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพระตำหนักรอยัล ลอดจ์ สูงมาก ขณะที่เบี้ยหวัดรายปีของพระองค์ที่อัตรา 249,000 ปอนด์ จะเริ่มถูกหั่นลงมาตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป

ขณะที่รายได้ลดลง การที่เจ้าชายแอนดรูว์จะทรงตื๊อประทับอยู่ในพระตำหนักรอยัล ลอดจ์ ย่อมนำไปสู่ปัญหาทางการเงิน ดังนั้น การที่พระวรเชษฐาทรงเสนอให้เจ้าชายได้ประทับในพระตำหนักที่งดงาม ภูมิฐาน เหมาะสมกับงบประมาณ จึงนับเป็นการช่วยแก้ปัญหาอย่างตรงจุด

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา คิงชาร์ลส์ทรงเอื้อเฟื้อพระอนุชาในหลายด้าน อาทิ การรับภาระค่าใช้จ่ายด้านระบบรักษาความปลอดภัยของเจ้าชายแอนดรูว์ เพราะนับแต่ที่เจ้าชายทรงถูกพระราชมารดาถอดพระยศต่างๆ เจ้าชายทรงเสียสิทธิ์ในการได้รับอารักขาจากตำรวจ

เจ้าชายแอนดรูว์ทรงมิได้เป็นพระราชนิกูลที่ทรงงานแห่งพระราชสำนัก นับตั้งแต่ที่ทรงถูกพระราชมารดาถอดพระยศต่างๆ ตลอดจนถูกสั่งให้งดเว้นจากพระราชกิจทั้งปวง อันเป็นผลจากการที่พระองค์ทรงสร้างปัญหาที่กระทบอย่างร้ายแรงต่อสถาบันกษัตริย์ ด้วยเรื่องอื้อฉาวทางการเงินและเรื่องอื้อฉาวการล่วงละเมิดทางเพศ โดยทรงสนิทสนมใกล้ชิดกับเจฟฟรีย์ เอปสทีน ผู้กระทำความผิดด้านค้ามนุษย์บำเรอกาม อีกทั้งยังทรงพัวพันในคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหญิงวัยต่ำกว่า 17 ปี ซึ่งพระองค์ทรงไม่สามารถเคลียร์ตนเองออกจากความหมองมัวได้ ส่งผลกระพือกระแสความรู้สึกโกรธเคืองที่ประชาชนมีต่อพระองค์
ด้านเจ้าหญิงเบียทริซกับเจ้าหญิงยูเชนีทรงเคยเข้าเฝ้าเสด็จพระเจ้าลุง 2 ครั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อขอพระราชทานความช่วยเหลือให้แก่พระบิดา เดอะซันรายงาน

พร้อมนี้ เดอะซันชี้ว่าเจ้าหญิงยูเชนีและพระสวามีทรงรักษาความสนิทสนมอย่างยิ่งกับเจ้าชายแฮร์รี โดยตลอดสามปีกว่า โดยสื่อมวลชนเชื่อกันว่าทรงเป็นผู้ที่ยินดีให้ข้อมูลแก่นักเขียนเงาผู้ที่เป็นตัวหลักในการประพันธ์หนังสือเรื่อง Spare ของเจ้าชายแฮร์รี

แหล่งข่าววงในพระราชตระกูล ที่ติดต่อกับเดอะซัน กล่าวว่า

“ในตอนนี้ เส้นแบ่งปรากฏชัดเจนอย่างยิ่งแล้ว ระหว่างพระราชนิกูลที่ถวายงานแด่คิงชาร์ลส์อย่างเต็มที่ กับแคมป์ต่อต้านซึ่งเป็นสายที่ใช้ชีวิตสนุกสนานไม่คำนึงถึงพระราชกรณียกิจองค์รวมของสถาบันพระมหากษัตริย์ อันได้แก่ สายยอร์ก กับสายซัสเซกซ์”

ขณะที่ พระราชนิกูลผู้ใหญ่ที่ถวายงานอย่างเต็มที่ในการรับพระราชกิจไปดำเนินการในพระนามของสถาบันพระมหากษัตริย์ ประกอบด้วย ควีนคามิลลา เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคท เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ ตลอดจนเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดและพระชายา เคาน์เตสโซฟีแห่งเวสเซกซ์

ในเมื่อสำนักพระราชวังบัคกิงแฮมเริ่มมีความเคลื่อนไหวโดยตรงต่อเจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสเมแกน ซึ่งเป็นไปในประเด็นใหญ่หลวงทีเดียว พสกนิกรและสื่อมวลชนจึงออกจะมั่นใจว่าจะได้เห็นดรามาแห่งศึกวินด์เซอร์สกันหลายเอพพิโซดอร่อยๆ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การถอดพระอิสริยยศดยุกแห่งซัสเซกซ์ หรือกระทั่งการถอดตำแหน่งเจ้าชาย กันเลยทีเดียว


เดอะซันตั้งประเด็นให้จับตาว่า พระราชตระกูลวินด์เซอร์ถูกฉีกเป็น 2 ฟาก ระหว่างฟากที่ไม่ทรงงานพระราชตระกูล (ภาพคอลัมน์ขวา) กับฟากที่ทรงงานอย่างแข็งขัน (ภาพคอลัมน์กลางและซ้าย) เต็มที่กับการแบ่งเบาพระราชกรณียกิจของคิงชาร์ลส์ พร้อมกับวิเคราะห์ว่าอาจได้เห็นศึกวินด์เซอร์ส เพราะครอบครัวสายซัสเซกซ์และครอบครัวสายยอร์ก ทรงไม่พอพระทัยในคิงชาร์ลส์ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ได้เห็นดรามาเผ็ดร้อนในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ภาพประกอบการอธิบายสถานการณ์แตกร้าวดังกล่าว เป็นภาพที่ เดอะซัน จัดทำอย่างเป็นระบบและชัดเจน และถูกเพิ่มด้วยภาพของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระราชอนุชาพระองค์เล็กของคิงชาร์ลส์ ซึ่งทรงมีความสนิทสนมอย่างยิ่งกับเจ้าฟ้าชายวิลเลียม
ที่ผ่านมา เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก ทรงตกเป็นข่าวระยะหนึ่งว่าทรงศึกษาโมเดลธุรกิจของเจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสเมแกน ซึ่งมีภาพว่าสามารถสร้างอิสรภาพทางการเงินขึ้นมาสำเร็จด้วยข้อตกลงหลายล้านดอลลาร์ที่ได้จากค่ายเน็ตฟลิกซ์ กับค่ายสปอติฟาย เพื่อดูลู่ทางว่าจะเจริญรอยตามได้อย่างไร

ด้านสายสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหญิงยูเชนีกับดัชเชสเมแกน เป็นอะไรที่เก่าแก่ทีเดียว ทั้งนี้ ดัชเชสเล่าในรายการสัมภาษณ์ โอปราห์ วินฟรีย์ โชว์ ว่าได้รู้จักกับเจ้าหญิงยูเชนีก่อนที่จะเริ่มเดทกับเจ้าชายแฮร์รี

เจ้าหญิงยูเชนีถูกพบเห็นในงานแสดงศิลปะที่ลอสแอนเจลิสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งไม่ไกลจากย่านมอนเตซิโต อันเป็นถิ่นที่ตั้งแห่งแมนชันหรูมูลค่า 14.7 ล้านดอลลาร์ ของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เดอะซันรายงาน

นอกจากนั้น เดอะซันยังรายงานด้วยว่า มีการลือกันระยะหนึ่งว่าเจ้าหญิงยูเชนีกับพระสวามีแจ๊ก เล็งจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเขตเวสต์ฮอลลีวู้ด

ประเด็นทั้งปวงนี้ เดอะซันยังไม่ได้รับความเห็นจากสำนักพระราชวังบัคกิงแอม

และยังไม่แน่ชัดว่าเจ้าชายแฮร์รีจะทรงดำเนินการคัดค้านหนังสือแจ้งให้ย้ายออกจากพระตำหนักฟร็อกมอร์ หรือไม่

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา: เดอะซัน)



กำลังโหลดความคิดเห็น