ผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือสั่งปฏิรูประบบชลประทานและขยายพื้นที่เพาะปลูกเพื่อเพิ่มกำลังผลิตอาหาร ท่ามกลางสัญญาณเตือน “วิกฤตความอดอยาก” ในเกาหลีเหนือที่ทวีความรุนแรง
ในการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลีเมื่อวันพุธ (1 มี.ค.) ผู้นำ คิม ได้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพัฒนาระบบชลประทาน สร้างเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่ทันสมัย และขยายพื้นที่เพาะปลูกพืชอาหารต่างๆ โดยให้ถือเป็นวาระ “เร่งด่วน”
ก่อนหน้านี้ ทางการเกาหลีใต้ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าเกาหลีเหนือกำลังประสบภาวะอดอยากรุนแรง และบางภูมิภาคเริ่มมีรายงานผู้เสียชีวิตจากความหิวโหยเพิ่มขึ้น
เศรษฐกิจเกาหลีเหนือถูกกระหน่ำซ้ำเติมจากหลายปัจจัย ทั้งภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม และพายุไต้ฝุ่น มาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติที่มุ่งสกัดการพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์ รวมไปถึงการค้าขายข้ามแดนกับจีนที่ซบเซาลงมากหลังจากที่รัฐบาลปิดพรมแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
สำนักงานพัฒนาชนบทของเกาหลีใต้ประเมินว่า ผลผลิตธัญพืชในเกาหลีเหนือลดลงเกือบ 4% ในปี 2022 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุมาจากฝนที่ตกหนักในฤดูร้อนและเงื่อนไขทางเศรษฐกิจอื่นๆ
สำนักข่าว KCNA รายงานว่า ผู้นำ คิม ได้มอบหมายภารกิจเฉพาะให้แต่ละหน่วยงานไปสร้าง “ชุมชนชนบทแบบสังคมนิยมที่ถึงพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันก้าวหน้า และอารยธรรมสมัยใหม่” นอกจากนี้ ยังสั่งยกเครื่องระบบชลประทานทั้งหมดให้สามารถรับมือผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ผลิตเครื่องไม้เครื่องมือทางการเกษตรที่ทันสมัย และเวนคืนที่ดินชายทะเล (tidelands) เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูก
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรที่ดี รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือและวัตถุดิบอื่นๆ เช่น ปุ๋ยและเชื้อเพลิง ส่งผลให้เกาหลีเหนือมักได้รับความเสียหายรุนแรงจากภัยธรรมชาติ
38 North ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิจัยในสหรัฐฯ ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือระบุว่า แม้การเวนคืนที่ดินชายทะเลจะค่อนข้างประสบความสำเร็จภายใต้การนำของ คิม จองอึน ทว่าการพลิกผืนดินเลนชายฝั่งให้กลายเป็นพื้นที่การเกษตรกลับยังไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร เนื่องจากเกาหลีเหนือยังขาดความรู้ด้านวิศวกรรมและการบำรุงรักษา
ที่มา : รอยเตอร์