สื่อออสซี่วิเคราะห์ "สหรัฐฯ" ทำศึกกับ "จีน" ชิงไต้หวันงานหนัก "เจอข้าศึกคล่องตัวสูง-ต้นทุนสงครามแพง"

เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - อาจกลายเป็นความผิดพลาดครั้งร้ายแรงหากว่า สหรัฐฯ ไม่เตรียมพร้อมต่อความขัดแย้งประเด็นไต้หวัน สื่อออสซี่เปิดรายงานสถาบันธิงแทงก์ชื่อดัง CSIS ชี้สงครามกับจีนในศึกป้องกันไต้หวันอาจมีราคาต้นทุนแพงสำหรับตะวันตกเพราะเจอศัตรูที่มีความยืดหยุ่นสูง หลังอเมริกาเคยพลาดเรื่องบอลลูนราคาถูกเจาะเข้าถึงใจกลางประเทศมาแล้ว

สื่อ news.com.au ของออสเตรเลียรายงานวันจันทร์ (27 ก.พ.) ว่า วิเคราะห์ว่าอาจกลายเป็นความผิดพลาดครั้งร้ายแรงหากว่า สหรัฐฯ ไม่เตรียมพร้อมต่อความขัดแย้งประเด็นไต้หวัน เกิดขึ้นท่ามกลางไต้หวันยังคงถูกปักกิ่งส่งฝูงเครื่องบินข้ามช่องแคบไต้หวันยั่วยุถี่ยิบ

ล่าสุด อัลญะซีเราะฮ์ รายงานวันพุธ (1) กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงพบเครื่องบินรบขับไล่จีนรุ่น J-10 จำนวน 19 ลำ บินข้ามช่องแคบไต้หวันเข้าพื้นที่ ADZ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไทเป แต่ฝูงบินรบจีนซึ่งอ้างอิงจากแผนที่กระทรวงกลาโหมไต้หวัน พบว่า ยังคงบินอยู่ใกล้กับชายฝั่งของจีนมากกว่าชายฝั่งของไต้หวัน

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน (1) ไทเปยังพบเครื่องบินกองทัพจีน 3 ลำ และเรือรบจีน 3 ลำลอยลำป้วนเปี้ยนใกล้ไต้หวันแต่ไม่ข้าม ADZ

สื่อออสซี่ชี้ต่อว่า สหรัฐฯ และชาติตะวันตกกำลังเผชิญหน้ากับข้าศึกที่มีความคล่องตัวสูง โดยสื่อออสเตรเลียอ้างอิงศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และการศึกษาระหว่างประเทศ CSIS ที่ออกรายงานล่าสุดวิเคราะห์รูปแบบจำลองสถานการณ์การสู้รบระหว่างสหรัฐฯ และจีนในสงครามไต้หวัน ที่กล่าวว่า ฝ่ายตะวันตกกำลังมีปัญหากับสงครามที่มีต้นทุนแพงเข้าให้แล้ว ซึ่งอาจไม่ต่างจากการที่ปักกิ่งใช้บอลลูนที่มีเทคโนโลยีราคาถูกแต่สามารถส่งเข้าไปสอดแนมจนถึงเขตมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ สร้างความมึนงงให้ทั้งเพนตากอน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประชาชนอเมริกัน

สื่อออสเตรเลียกล่าวเตือนว่า ฝ่ายตะวันตกกำลังคำนวณอย่างผิดพลาดครั้งมโหฬารในความขัดแย้งกับจีน

เป็นเพราะชาติตะวันตกเสี่ยงที่จะใช้มิสไซล์พิสัยไกลแม่นยำสูงหมดจนเกลี้ยงคลังแสงแค่ภายในสัปดาห์เดียวในการทำศึกกับจีน

ซึ่งการศึกสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ไม่มีนิวเคลียร์มาเกี่ยวข้องพบว่า อัตราการใช้กระสุนหมดไปอย่างรวดเร็วและเป็นจำนวนมาก เมื่อต้นเดือนนี้เลขาธิการใหญ่นาโต้ยอมรับว่า อัตราการใช้กระสุนของยูเครนสูงกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับความสามารถการผลิตได้ในปัจจุบัน

พลเอกเยนส์ ต็อลสเตนบาร์ก เปิดเผยว่า กองทัพยูเครนใช้ลูกปืนใหญ่มากราว 10,000 ลูก/วัน

การวิเคราะห์ถึงโมเดลจำลองสงครามไต้หวันระหว่างโลกตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ และจีนจากธิงแทงก์ CSIS ของสหรัฐฯ นั้น รองประธานอาวุโส เซธ โจนส์ (Seth Jones) กล่าวเชิงวิเคราะห์ว่า เชื่อว่าสหรัฐฯ จะใช้มิสไซล์ต่อต้านเรือพิสัยไกล LRASMs ในคลังแสงภายในสัปดาห์แรกของความขัดแย้ง

CSIS ชี้ว่า ระบบป้องกันสมัยใหม่ของจีนที่ตั้งอยู่บนเกาะเทียมในทะเลจีนใต้ถือเป็นความท้าทายของโลกตะวันตก

โจนส์กล่าวเปิดเผยว่า ในการวิเคราะห์เชื่อว่า กองทัพจีนน่าจะแข็งแกร่งโดยเฉพาะในช่วงต้นของสงครามที่จะสามารถป้องกันไม่ให้เครื่องบินส่วนใหญ่เข้าใกล้เพื่อยิงมิสไซล์พิสัยใกล้โจมตีได้

ในการวิเคราะห์ยังกล่าวต่อว่า เชื่อว่าการศึกสงครามไต้หวันน่าจะมีราคาแพงกับชาติตะวันตก โจนส์กล่าวว่า กองเรือบรรทุกเครื่องบินนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ นั้นถือเป็นเครื่องมือหลักของสหรัฐฯ มาตลอดหลายสิบปี แต่ทว่าในเวลานี้กลับถูกต่อต้านอย่างคาดไม่ถึง

และชี้ว่า การหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกำลังเหมือนเช่นที่เพนตากอนทำในเวลานี้น่าจะไม่ใช่ตัวเลือกเพื่อให้อเมริกาสามารถป้องกันกำลังข้าศึกบุกข้ามช่องแคบไต้หวันโจมตีและการเพิ่มกำลังขึ้นมาจากทั้งในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้

ซึ่งในการวิเคราะห์ของธิงแทงก์ CSIS พบว่า ในความขัดแย้งเชื่อว่าสหรัฐฯ น่าจะใช้มิสไซล์พิสัยไกลมากกว่า 5,000 ลูกภายใน 3 สัปดาห์ของความขัดแย้งกับปักกิ่ง

และได้โยงไปถึงต้นทุนของการรบโดยชี้ว่า ราว 4,000 ลูกของจำนวนทั้งหมดน่าจะเป็นมิสไซล์จากร่วมอากาศสู่ภาคพื้น หรือ JASSMs ประเภท GM-158 ที่มีราคาตกราว 1.9 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียสำหรับแต่ละลูก และใช้เวลาถึง 2 ปีในการผลิต

ในรายงานระบุว่า งบดุลประจำปี 2023 ของสหรัฐฯ กำหนดให้สั่งซื้อมิสไซล์ต่อต้านเรือพิสัยไกลแค่ 88 ลูกเท่านั้น

โจนส์จาก CSIS ออกมาเปิดเผยว่า สหรัฐฯ ที่ถือว่ามีคลังแสงใหญ่ที่สุดในโลกกลับพบว่าในสงครามอิรักนั้นมีการลดต่ำของจำนวนกระสุนปืนสำหรับอาวุธเบาในคลังแสงมาแล้ว 

และในสงครามการรบจำลองระหว่างสหรัฐฯ และอังกฤษระยะเวลา 8 วันเมื่อไม่นานมานี้ พบว่าฝ่ายอังกฤษไม่สามารถต้านทานได้ เพราะฝ่ายอังกฤษกระสุนหมดก่อน ซึ่งในการวิเคราะห์ของอดีตผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ  ประจำยุโรป เบน ฮอดเจส (Ben Hodges) ออกมาวิเคราห์ว่า สหรัฐฯ และพันธมิตรไม่มีกระสุนเพียงพอโดยเฉพาะกระสุนสำคัญ เช่น มิสไซล์ความแม่นยำสูง ซึ่งกระสุนเหล่านี้นอกจากมีราคาแพงแล้วยังใช้เวลานานในการผลิตอีกด้วย

สอดคล้องกับความวิตกจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่นาโต้ที่เปิดเผยกับสื่อนโยบายต่างประเทศเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ปีที่แล้วเกี่ยวกับประเด็นกระสุนว่า "ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องวิตก" เป็นการออกมากล่าวไปถึงสถานการณ์สงครามยูเครน