กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุ “มีความเป็นไปได้มากที่สุด” ที่โควิด-19 จะหลุดออกมาจากห้องแล็บในเมืองอู่ฮั่นของจีน แม้ทำเนียบขาวจะยังคงแถลงย้ำเมื่อวันอาทิตย์ (26 ก.พ.) ว่าหน่วยข่าวกรองอเมริกันยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ก็ตาม
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลอ้างว่าได้ข้อมูลนี้มาจากรายงานชั้นความลับของ แอฟริล เฮนส์ (Avril Haines) ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งเอ่ยถึงผลการประเมินของกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ไวรัสโควิด-19 จะหลุดออกมาจากห้องแล็บของจีนโดยอุบัติเหตุ โดยก่อนหน้านี้ ทางกระทรวงฯ ยังไม่เคยออกมาสรุปเรื่องต้นตอโควิดชัดเจนขนาดนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้อ่านรายงานลับฉบับนี้บอกกับวอลล์สตรีทเจอร์นัลและนิวยอร์กไทม์สว่า กระทรวงพลังงานลงความเห็นในเรื่องนี้ “ด้วยความเชื่อมั่นระดับต่ำ” (low confidence) ซึ่งยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า แม้แต่หน่วยงานในสหรัฐฯ เองก็ยังถกเถียงกันเองว่าโรคระบาดใหญ่ซึ่งแพร่กระจายจากจีนไปทั่วโลกในช่วงต้นปี 2020 มีที่มาจากอะไรแน่
กระนั้นก็ตามที ข้อสรุปของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ซึ่งว่ากันว่ามีพื้นฐานจาก “ข้อมูลข่าวกรองใหม่” ก็ยังนับว่ามีนัยสำคัญ เนื่องจากกระทรวงพลังงานนั้นกำกับดูแลเครือข่ายห้องปฏิบัติการแห่งชาติ รวมถึงห้องแล็บบางแห่งซึ่งทำการศึกษาวิจัยด้านชีวภาพในระดับก้าวหน้า
ข้อสรุปนี้ยังทำให้กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ที่เชื่อว่าโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตประชากรโลกไปเกือบ 7 ล้านคน มีต้นตอจากความผิดพลาดในห้องแล็บจีนซึ่งทำให้เชื้อไวรัสรั่วไหลออกสู่ภายนอก
หน่วยข่าวกรอง 4 แห่งในสหรัฐฯ เชื่อว่า โควิด-19 น่าจะเกิดจากการถ่ายทอดเชื้อตามธรรมชาติ (natural transmission) ขณะที่อีก 2 หน่วยงานยังไม่สรุปยืนยัน ตามข้อมูลจากวอลล์สตรีทเจอร์นัล
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ออกมาย้ำผ่าน CNN Sunday ว่า ขณะนี้ "ยังคงมีหลายมุมมอง" เกี่ยวกับต้นตอของโควิด-19
"ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนต่อคำถามนี้" เขากล่าว
เมื่อกลางเดือน ก.พ. องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาประกาศว่าจะยังคงทำทุกวิถีทาง "จนกว่าจะรู้คำตอบ" เรื่องที่มาของโควิด-19 พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า WHO ยกเลิกการสอบสวนเรื่องนี้ไปแล้ว
ที่มา : รอยเตอร์