เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จอห์น ลี เดินหน้าเสนอร่างกฎหมายต่อสภานิติบัญญัติฮ่องกงที่จะให้อำนาจพิเศษแก่เขาสามารถวีโต้ห้ามใช้ทนายความชาวต่างชาติในคดีความมั่นคง ระหว่างที่ จิมมี ไล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลีที่โดนปิดไปร้องต่อศาลสูงฮ่องกง ห้ามไม่ให้คำสั่งของปักกิ่งในเรื่องการใช้ทนายความต่างชาติมีผลกับคดีของเขา ผู้แทนรัฐบาลปักกิ่งประจำฮ่องกงวันศุกร์(24 ก.พ)จวกกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ข้ามเส้นแดงจีนเข้าก้าวก่ายกิจการภายในชัดเจนหลังกงสุลใหญ่สหรัฐฯแสดงความวิตก ความเป็นนิติรัฐและเสรีภาพของฮ่องกงผิดหวังรัฐบาลพรรค CCP ของจีนอนุญาตให้ผู้ว่าการเกาะแบนทนายความต่างชาติว่าความในคดีความมั่นหวังคงกำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
บลูมเบิร์กรายงานวันอังคารที่ 21 ก.พ ว่า รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของ จอห์น ลี ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอแก้ไขกฎหมายต่อสภานิติบัญญัติฮ่องกงในวันจันทร์(20)ล่าสุด
เป็นความเคลื่อนไหวหลังผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลี จิมมี ไล (Jimmy Lai) ที่อยู่ในเรือนจำในสัปดาห์ก่อนหน้านั้นพยายามต้องการหาความชัดเจนว่า เขาสามารถใช้ทีมกฎหมายทนายความชาวอังกฤษในการสู้คดีความมั่นคงของตัวเองในศาลฮ่องกงได้หรือไม่
ไลถูกปักกิ่งมองว่าเป็นหัวหน้าอยู่เบื้องหลังการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงปี 2019
ฮ่องกงฟรีเพรสซึ่งเป็นสื่อฮ่องกงรายงานวันจันทร์(20)ว่า ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลีที่โด่งดังได้ยื่นเรื่องต่อศาลสูงฮ่องกง ร้องขอให้ป้องกันคำสั่งจากรัฐบาลปักกิ่งไม่ให้มีผลกระทบต่อการใช้ทนายความชาวอังกฤษในคดีของเขา
สื่อฮ่องกงรายงานว่า คำร้องยื่นเมื่อวันศุกร์ก่อนหน้าเกิดขึ้นหลังคำตัดสินของปักกิ่งเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วที่ให้อำนาจแก่ผู้ว่าการเกาะ จอห์น ลี สามารถตัดสินใจอนุญาตให้มีทนายความต่างชาติเป็นตัวแทนลูกความในคดีความมั่นคงในฮ่องกงได้หรือไม่
บลูมเบิร์กรายงานว่า ในปีที่ผ่านมาลีได้ร้องขอการตัดสินใจจากปักกิ่งห้ามทนายความชาวอังกฤษชื่อดัง ทิมโมธี โอเวน (Timothy Owen) เข้าว่าความช่วย จิมมี ไล ในคดีความมั่นคงของเขา
ทั้งนี้พบว่าโอเวนเป็นทนายความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาชญาวิทยา สาธารณะ และสิทธิมนุษยชน ฮ่องกงฟรีเพรสรายงานว่า ทนายความอังกฤษ โอเวน เคยปรากฎตัวในศาลฮ่องกงก่อนหน้ามาแล้ว
แต่ด้วยความที่เขาไม่มีคุณสมบัติในการรับการว่าความในฮ่องกงทำให้เขาจำเป็นต้องขออนุญาตเพื่อเป็นตัวแทนลูกความในศาลฮ่องกง สื่อฮ่องกงรายงาน
บลูมเบิร์กกล่าวว่า ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ (Standing Committee of the National People's Congress) หรือ NPC ออกคำตัดสินให้ศาลฮ่องกงจำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ว่าการเกาะก่อนที่จะให้ไฟเขียวทนายความชาวที่มีฐานอยู่ในต่างแดนสามารถร่วมคดีไต่สวนได้
ทั้งนี้รัฐมนตรีระดับต่ำกว่าคณะรัฐมนตรีอังกฤษ แอนน์-มารี เทรเวลแยน( Anne-Marie Trevelyan) ด้านอินโดแปซิฟิกภายใต้กระทรวงต่างประเทศอังกฤษในเดือนมกราคมได้พบกับทีมกฎหมายของจิมมี ไล ส่งผลทำให้รัฐบาลฮ่องกงออกมาประท้วงกล่าวหาอดีตเจ้าอาณานิคมอังกฤษยื่นมือแทรกแซงกิจการภายในเกาะ
ขณะเดียวกัน VOA รายงานวันศุกร์(24)ว่า เจ้าหน้าที่การทูตรัฐบาลปักกิ่งประจำฮ่องกงออกมาตำหนิกงสุลใหญ่สหรัฐฯประจำฮ่องกงและมาเก๊าว่า เข้ามาก้าวก่ายกิจการภายในของจีน
VOA รายงานว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา กงสุลใหญ่สหรัฐฯประจำฮ่องกงและมาเก๊า เกร็กกอรี เมย์ (Gregory May) ที่มีภาพลักษณ์ติดดินออกมาวิจารณ์คำตัดสินของรัฐบาลปักกิ่งที่เปิดช่องให้ผู้ว่าการเกาะฮ่องกงสามารถมีอำนาจห้าม “ทนายความต่างชาติ” ว่าความคดีความมั่นคงซึ่งเป็นคดีสำคัญในศาลฮ่องกงนั้นถือเป็นการกัดกร่อนเสรีภาพและการปกครองตามหลักนิติรัฐของฮ่องกงอย่างเหลือเชื่อ
อ้างอิงจากสื่อเดลีสตาร์ของมาเลเซียรายงานเมื่อวันที่ 28 ม.คพบว่า กงสุลใหญ่สหรัฐฯกล่าวภายในงานที่ถูกจัดโดยสถาบันธิงแทงก์ ศูนย์เพื่อยุทธศาสตรและการศึกษาระหว่างประเทศ (Centre for Strategic and International Studies) ซึ่งมีฐานในกรุงวอชิงตัน ดีซี
ทั้งนี้ในคำสั่งของคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีนไม่ได้แบนการใช้ทนายความต่างชาติ แต่เป็นการให้ผู้ว่าการเกาะฮ่องกงเข้าแทรกแซงด้วยการที่ต้องให้ศาลฮ่องกงได้รับคำอนุมัติการใช้ทนายความต่างชาติจากเขาเสียก่อนเท่านั้น
ซึ่งกฎหมายความมั่นคงใหม่ฮ่องกงกลายเป็นสาเหตุใหญ่ของความบาดหมางระหว่างสหรัฐฯและปักกิ่งในประเด็นฮ่องกง
VOA รายงานว่า สำนักงานกระทรวงต่างประเทศจีนประจำฮ่องกง (The Ministry of Foreign Affairs Office in Hong Kong ) Guangyuan) แถลงว่า ผู้แทนจีน ลิว กวงหยวน ( Liu Guangyuan)เมื่อไม่นานมานี้ได้พบกับกงสุลใหญ่สหรัฐฯและได้ยื่นประท้วง โดยชี้ว่าไม่เหมาะสมทั้งคำพูดและการกระทำ
โดยในคำแถลงการณ์จากสำนักงานของกวงหยวนต่อสำนักข่าวเอพีมีใจความว่า
“คุณลิวได้ขีดเส้นแดง 3 เส้นต่อกงสุลใหญ่สหรัฐฯและกงสุลสหรัฐฯประจำฮ่องกงที่ห้ามไม่ให้ทำอันตรายต่อความมั่นคงจีน ไม่เข้าแทรกแซงทางการเมืองฮ่องกงและไม่ทำร้ายหรือทำลายความก้าวหน้าของฮ่องกง”