เอเจนซีส์/เอพี/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ - เกิดระเบิดที่โรงงานโลหะ I.Schumann & Co.plant ชื่อดังที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1917 นอกเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ บ่ายวันจันทร์ (20 ก.พ.) แรงระเบิดส่งผลทำให้โลหะร้อนหลอมเหลวเหมือนฝนตกไปทั่วบริเวณ ดับ 1 คน และบาดเจ็บ 13 คน กลางวิกฤตรถไฟขนสารเคมีตกรางไหม้นาน 3 วัน ใกล้หมู่บ้านปาเลสไตน์ ในรัฐโอไฮโอเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนยังไม่คลี่คลาย ชาวบ้านไม่เชื่อว่าสถานการณ์ปลอดภัยแล้ว คุณแม่ลูกอ่อนอเมริกันหนีภัยสารพิษประกาศต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐดื่มน้ำในหมู่บ้านพิสูจน์ความจริงใจว่าปลอดภัยจริง
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานวันนี้ (21 ก.พ.) ว่า เกิดระเบิดไม่คาดฝันขึ้นที่โรงงานโลหะชื่อ I.Schumann & Co.plant ในเมืองเบดฟอร์ด (Bedford) รัฐโอไฮโอ เมื่อเวลา 14.15 น. ของวันจันทร์ (20) อ้างอิงจากสื่อท้องถิ่นรัฐโอไฮโอ
เอพีชี้ว่า แรงระเบิดทำลายโรงงานส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 13 ราย และเสียชีวิต 1 คน จุดระเบิดเกิดขึ้น 15 ไมล์ ห่างจากเมืองคลีฟแลนด์ชื่อดัง และยังห่างจากหมู่บ้านปาเลสไตน์ตะวันออก (East Palestine) ราว 70 ไมล์ ซึ่งเมื่อต้นเดือนนี้ขบวนรถไฟสินค้าขนสารเคมีเกิดตกราง และไฟลุกไหม้นานร่วม 3 วันกว่าจะดับได้
แต่ทว่าวิกฤตสารพิษยังคงหลอกหลอนคนในพื้นที่ และกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวรัฐมนตรีคมนาคมสหรัฐฯ พีท บุตติเจ็จ (Pete Buttigieg) ที่ NBC News รายงานวานนี้ (20)ว่า เขาถูกจ้องจากสมาชิกพรรค GOP หรือพรรครีพับลิกันให้อยู่ในบัญชีถอดถอนของพรรคที่มีตั้งแต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ เมอร์ริค การ์แลนด์ ไปจนถึงผู้อำนวยการ FBI คริส เรย์ (Chris Wray)
มี 13 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลที่ส่วนใหญ่มีอาการถูกไฟลวก อ้างอิงจากรอยเตอร์ ขณะที่มีผู้บาดเจ็บ 1 รายอยู่ในขั้นสาหัส และมี 1 คนถูกดึงตัวออกมาจากใต้ซากปรักหักพังและส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลด้วยเฮลิคอปเตอร์ เอพีรายงานและเสริมว่า มีการยืนยันผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อ สตีฟ มูลลินส์ (Steve Mullins) วัย 46 เป็นพนักงานซ่อมบำรุงประจำโรงงานโลหะชื่อดังและเก่าแก่ร่วม 100 ปีแห่งนี้
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า โลหะร้อนหลอมเหลวตกลงมาเหมือนฝนกระจายไปทั่วบริเวณเป็นที่น่าหวาดกลัว
รอยเตอร์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั่วทั้งตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐโอไฮโอถูกเรียกตัวให้มาดับไฟที่โรงงานโลหะในเบดฟอร์ด ซึ่งอ้างอิงจากเว็บไซต์โรงงาน I.Schumann & Co พบว่าเปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 1917 และผลิตโลหะบรอนซ์ และทองเหลือง
เจ้าของกิจการที่ตั้งอยู่ใกล้โรงงานให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังลั่นและตามมาด้วยเสียงชิ้นส่วนหักพังตกกระทบหลังคาของเขา ขณะที่พยานอีกปากเปิดเผยว่า เห็นควันดำพวยพุ่ง ไฟไหม้ และกำแพงอิฐถูกทำลาย
เหตุระเบิดของโรงงานโลหะใกล้เมืองคลีฟแลนด์นั้นเกิดขึ้นไม่ห่างจากวิกฤตทางสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษเนื่องมาจากรถไฟขนสารเคมีพิษตกรางเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ใกล้หมู่บ้านปาเลสไตน์ตะวันออก
อ้างอิงจากเดอะการ์เดียนรายงานวันเสาร์ (18) พบว่าเจ้าหน้าที่บริษัทรถไฟ Norfolk Southern และรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจร่วมกันในการปล่อยให้สารไวนิล คลอไรด์ (vinyl chloride) ที่อยู่บนขบวน Norfolk Southern ที่รู้ดีว่าเป็นสารทำให้ป่วยโรคมะเร็งตับ ให้ถูกเผาไหม้ให้หมดไป โดยขบวนรถไฟไหม้นาน 3 วัน โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่า เป็นการป้องกันไม่ให้สารไวนิล คลอไรด์ระเบิด แต่ทว่ากลับส่งผลทำให้เป็นเหมือนการทิ้งสารพิษหนัก 1.1 ล้านปอนด์เข้าไปยังหมู่บ้านปาเลสไตน์ตะวันออกในทันที สื่ออังกฤษชี้
ตามการรายงานพบชาวหมู่บ้านประสบปัญหาปวดศีรษะ เจ็บคอ และตาเกิดอาการระคายเคือง รวมไปถึงพบการตายของสัตว์เลี้ยงและไก่ แผนกทรัพยากรธรรมชาติประจำรัฐโอไฮโอเปิดเผยว่า มีการพบปลาตายประมาณ 3,500 ตัวใน 12 สายพันธุ์ ทั่วระยะ 7.5 ไมล์
CBC News ของแคนาดารายงานวันอาทิตย์ (19) ว่า ถึงแม้คำสั่งอพยพจะถูกยกเลิกแล้วแต่ทว่ายังมีคนตั้งข้อกังขาในเรื่องความปลอดภัย เคซี ล็อก (Kasie Locke) และนาธานเนียล ล็อก (Nathaniel Locke) ที่มีลูกอ่อนวัยทารกชื่อ ลูคัส (Lucas) รวมอยู่ในนั้นและไม่แน่ใจว่าทางครอบครัวสมควรอพยพกลับเข้ามา
นาธานเนียล ล็อก เปิดเผยช่วงวิกฤตว่า กลิ่นไหม้เหม็นอย่างแรงเหมือนยางไหม้หรือน้ำมันกำลังถูกเผาคละคลุ้งไปทั่ว และทำให้ทั้งตัวเขาและภรรยาหายใจไม่ออก
แต่ถึงแม้ว่าทั้งรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สำนักงานสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ EPA กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ และรัฐบาลรัฐโอไฮโอ รวมไปถึงบริษัทรถไฟจะยืนยันกับชุมชนว่า มีความปลอดภัยสำหรับชาวปาเลสไตน์ตะวันออกจำนวน 4,700 คน จะเดินทางกลับเข้าบ้าน แต่เคซียืนยันว่า
"ดิฉันต้องการให้พวกเขามาอยู่ที่ปาเลสไตน์ตะวันออกและดื่มน้ำ อาบน้ำด้วย ที่ดิฉันต้องการได้ยินจากปากพวกเขาว่าพวกเขาจะต้องการอาศัยอยู่ที่นี่ไหม? พวกเขาจะนำเด็กๆมาที่นี่หรือไม่? พวกเขาจะนำครอบครัวกลับมาไหม” เธอกล่าวและยืนยันว่า มันเป็นสิ่งที่ยากจะเหลือเชื่อคำพูดของคนเหล่านี้