เอพี/เอเอฟพี –- งานมหกรรมคาร์นิวัลเซาเปาลูชื่อดังระดับโลกต้องถูกสั่งยกเลิกไปหลังบราซิลเผชิญฝนตกหนัก และทำให้มีผู้เสียชีวิต 36 คน และสูญหายอีกร่วม 40 คน ด้านปารีสที่กำลังจะเป็นเจ้าภาพงานใหญ่ปีหน้า ปารีสโอลิมปิก 2024 ประกาศรับพนักงานหลายพันคนในภาคการขนส่งสาธารณะ
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (20 ก.พ.) ว่า ประธานาธิบดีบราซิล ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา (Luiz Inacio Lula da Silva) บินด่วนทางเครื่องบินในวันจันทร์ (20) เพื่อเดินทางไปพื้นที่ประสบภัยรัฐเซาเปาลู ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกิดขึ้นหลังสุดสัปดาห์ฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 36 คน และสูญหายอีก 40 คน เจ้าหน้าที่เปิดเผยวันนี้ (20)
เอพีรายงานว่า มีหลายเมืองที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุฝนตกหนักและทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม และต้องอยู่ภายใต้คำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้แก่เมืองเซาเซบาสเตียโอ (Sao Sebastiao) อูบาตูบา (Ubatuba) อิลฮาเบลา (Ilhabela) และเบอติโอกา (Bertioga) ซึ่งเมืองเหล่านี้ยกเลิกการจัดงานคาร์นิวาลชื่อดัง ท่ามกลางทีมกู้ภัยกำลังระดมค้นหาผู้บาดเจ็บสูญหายภายใต้ซากปรักหักพังและกองอิฐ
ภาพข่าวทางโทรทัศน์ในบราซิล และที่ออกมาทางโซเชียลมีเดียรายงานภาพจากเมืองเซาเซบาสเตียโอ ที่แสดงให้เห็นว่าทั้งชุมชนจมอยู่ใต้น้ำ ซากปรักหักพังจากบ้านเนินเขาที่พัดพาไป น้ำท่วมพัดเข้าถนนไฮเวย์และรถที่ได้รับความเสียหายจากต้นไม้ที่ถูกโค่น
รัฐเซาเปาลูแถลงว่า จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีผู้เสียชีวิตถึง 35 คน มาจากเมืองเซาเซบาสเตียโอ รวมไปถึงเด็กหญิงวัย 7 ปีเสียชีวิตที่เมืองอูบาตูบา
เจ้าหน้าที่กู้ภัยบราซิล มิเชล ซีซาร์ (Michelle Cesar) เปิดเผยกับ CNN ของสหรัฐฯ ว่า “มีอีกราว 40 คนที่ยังไม่พบตัว” โดยเขากล่าวไปถึงจำนวนผู้สูญหายในเหตุอุทกภัยครั้งนี้
แผนกกู้ภัยบราซิลเปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 คน มีราวเกือบ 1,000 คนถูกอพยพออกไป และ 747 คนต้องสูญเสียที่อยู่อาศัย เอพีชี้ว่า ภาพทางทีวีเปิดเผยให้เห็นว่า บ้านของชาวบราซิลถูกน้ำท่วมหนักสูงเกือบมิดหลังคาที่ปรากฏเห็นแค่ตัวหลังคาโผล่พ้นผิวน้ำเท่านั้น
ประชาชนต้องใช้เรือลำเล็กลำเลียงสิ่งของหรือพาผู้ประสบภัยไปอยู่ที่สูง ขณะที่ถนนที่เชื่อมเมืองริโอดิจาไนโร และเมืองท่าซานโตส (Santos) ปิดลงจากน้ำท่วมและดินถล่ม
เจ้าหน้าที่บราซิลเปิดเผยว่า ฝนตกลงมาหนักร่วมเกือบ 24 นิ้วที่เมืองเซาเซบาสเตียโอภายใน 24 ชั่วโมง มากกว่า 2 เท่าของจำนวนน้ำฝนทั้งหมดตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์ทีเดียว ซึ่งในการช่วยเหลือต้องใช้เจ้าหน้าที่กู้ภัย ทหาร และตำรวจบราซิลร่วมกันถึง 500 นายในภารกิจกู้ภัย และอีกทั้งประธานาธิบดีลูลายังส่ง เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบิน และเครื่องจักรกลหนักเข้าช่วย
ขณะเดียวกัน ที่ยุโรปในวันจันทร์ (20) บริษัทขนส่ง RATP ที่เป็นของรัฐและเป็นผู้ดูแลระบบขนส่งสาธารณะในภูมิภาคปารีส รวมถึงระบบรถไฟเมโทร ระบบรถไฟชานเมือง RER ระบบรถรางแทรม รวมไปถึงรถเมล์ออกมาเดินหน้าประกาศเตรียมความพร้อมฝรั่งเศสกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ปารีสโอลิมปิก 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า
เอเอฟพีรายงานว่า อดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ฌ็อง กัสแต็กซ์ (Jean Castex) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารบริษัทขนส่ง RATP เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา มีเป้าหมายต้องการให้ระบบการขนส่งสาธารณะของปารีสมีความคล่องตัวขึ้น หลังจากที่ผ่านมาต้องเผชิญหน้ากับการสไตรก์ผละงาน การปิดการให้บริการขนส่ง เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ และอื่นๆ
RATP ออกแถลงการณ์ใหญ่วันจันทร์ (20) มีใจความว่า “แคมเปญการจ้างงานที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันมีเป้าหมายเพื่อเป็นไปตามเป้าหมายของระบบเครือข่ายและเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับงานใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นคืองานแข่งถ้วยรักบี้เวิลด์คัพปี 2023 และงานกีฬาโอลิมปิกปี 2023 และงานกีฬาพาราโอลิมปิกปี 2023”
ซึ่งตลอดทั้งปี บริษัทตั้งความหวังจะว่าจ้างพนักงานขับรถเมล์ 2,700 คน พนักงานขับรถไฟเมโทร 400 คน พนักงานประจำสถานี 700 คน พนักงานซ่อมบำรุง 400 คน และพนักงานรักษาความปลอดภัยอีก 120 คน
ข่าวการประกาศรับสมัครงานนี้เป็นเสมือนประกายความหวังให้คนหลายคนในฝรั่งเศสเกิดขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจฝืดเคืองและสงครามในยุโรปที่ยังคงไม่จบสิ้น ตัวเลขเงินเฟ้อแดนน้ำหอมพุ่งจาก 5.9% ของเดือนธันวาคมปีที่แล้วมาอยู่ที่ 6% ในเดือนมกราคมปีนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อ้างอิงตัวเลขจากสื่อ Trading Economic
RATP เปิดเผยว่า ตั้งใจจะจ้างพนักงานหญิงเพิ่มเติมเพื่อให้มีความหลากหลายในกำลังพลมากขึ้น
เอเอฟพีชี้ว่า กรุงปารีสมีแผนสำหรับการเป็นเจ้าภาพงานกีฬาโอลิมปิกอย่างไม่ธรรมดา รวมไปถึงการให้เหล่าโอลิมเปียนพายเรือล่องไปตามแม่น้ำแซนชื่อดังของฝรั่งเศสด้วยเรือมากถึง 200 ลำต่อหน้าสักขีพยานฝูงชนอีก 600,000 คนในพิธีเปิด
ซึ่งคาดว่าปารีสต้องใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากถึง 35,000 คน ในพิธีเปิดนี้ และผู้จัดงานกล่าวว่ามีแผนจะเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอกชนอีกราว 3,000 คน