เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียวานนี้ (18 ก.พ.) ออกมาตอบโต้พ่อมดการเงินวอลล์สตรีทชื่อดัง จอร์จ โซรอส หลังออกมาแสดงความเห็นว่าอินเดียกำลังถอยเข้าสู่เผด็จการเพราะอินเดียไม่ได้มีผู้นำเป็นพวกประชาธิปไตย ส่งเจ้าหน้าที่สรรพากรบุกค้นสำนักงานใหญ่บีบีซีในอินเดียถึง 3 วันติดต่อกันสัปดาห์นี้ ประกาศพบความผิดปกติทางบัญชีหลังสื่อยักษ์ใหญ่ตีแผ่คดีจลาจลทางศาสนาปี 2002 ที่ทำให้ชาวมุสลิมจำนวนมากเสียชีวิต และความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี และมหาเศรษฐีแดนภารตะ โกตัม อดานี ผู้ก่อวิกฤตอดานี
เอเอฟพีรายงานวานนี้ (18 ก.พ.) ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย ดร. สุพรหมณยัม ชัยศังกร (S.Jaishankar) ระหว่างร่วมงานที่เมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย วันเสาร์ (18) ออกมาปัดข้อกล่าวหาที่ชี้ไปว่า การที่สำนักงานใหญ่บีบีซีในอินเดียถูกค้นถึง 3 วันติดต่อกัน เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่านายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี และรัฐบาลอินเดียของเขากำลังก้าวถอยหลังไปสู่เผด็จการ
ชัยศังกร ออกมาปกป้องโมดี โดยชี้ว่าพวกที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ รวมไปถึงมหาเศรษฐีอเมริกัน จอร์จ โซรอส นั้นเป็นพวกชอบกระจายข่าวลือและสร้างความหวาดกลัวโดยใช้มุมมองเก่าผ่านเลนยูโร-แอตแลนติกเป็นหลักในการมองต่อประชาธิปไตย แต่กลับล้มเหลวต่อการเคารพต่อการเลือกทางประชาธิปไตยของประชาชนอินเดีย
โดยในงานการประชุมความมั่นคงมิวนิกที่ถูกจัดเป็นทางการระหว่างวันศุกร์ที่ 17 ก.พ. ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 19 ก.พ. โดยโซรอสกล่าวในวันพฤหัสบดี (16) ภายในงานว่า
“อินเดียถือเป็นกรณีที่น่าสนใจ เป็นประเทศประชาธิปไตย แต่ทว่าผู้นำ นเรนทรา โมดี ไม่ใช่พวกประชาธิปไตย (เขา) ปลุกปั่นความรุนแรงให้เกิดขึ้นต่อชาวมุสลิมนั้นเป็นปัจจัยสำคัญในความเป็นดาวจรัสแสงของเขา” อ้างอิงจากเพรสทีวีของอิหร่าน
เอเอฟพีรายงานว่า ชัยศังกรกล่าวตอบโต้พวกนักวิจารณ์โดยเฉพาะโซรอสว่า “ยังคงมีคนในโลกนี้ที่ยังเชื่อว่านิยามของพวกเขา ความชื่นชอบของพวกเขา มุมมองของพวกเขามันเหนือกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด”
เอเอฟพีรายงานว่า โมดีส่งเจ้าหน้าที่สรรพากรบุกค้นสำนักงานใหญ่บีบีซี สื่อชื่อดังอังกฤษซึ่งสาขาในอินเดียที่ตั้งอยู่ในกรุงนิวเดลี และเมืองมุมไบไม่กี่สัปดาห์หลังจากบีบีซีเผยแพร่ภาพยนต์สารคดีเปิดโปงโมดี ระหว่างการเกิดจลาจลทางศาสนาปี 2002 ที่ส่งผลทำให้มีชาวมุสลิมจำนวนมากเสียชีวิต
CNN ของสหรัฐฯ รายงานวันพฤหัสบดี (16) ว่า การบุกค้นบีบีซีของรัฐบาลอินเดียสิ้นสุดลงหลังจากการบุกค้นนานติดต่อกันถึง 3 วันเต็ม ซึ่งบีบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าสรรพากรอินเดียเปิดเผยค้นพบความผิดปกติทางบัญชีของบีบีซี ซึ่งในการตรวจค้นมีการตรวจเนื้อหาข่าวของสื่อบีบีซีทั้งในภาษีฮินดู ภาษาอังกฤษ และภาษาอื่นๆ ในอินเดีย
บีบีซีรายงานว่า สรรพากรอินเดียอ้างว่าทางบีบีซีขาดการเสียภาษีในรายได้บางส่วนที่ไม่ได้มีการเปิดเผยในฐานะรายได้ในอินเดียโดยแผนกหรือบุคคลต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับบีบีซี
อ้างอิงจากเดอะการ์เดียนของอังกฤษพบว่า มีเจ้าหน้าที่สรรพากรร่วม 50 คน เดินทางเข้าบุกค้นที่สำนักงานบีบีซี 2 แห่งในวันอังคาร (14) ซึ่งเป็นวันแรก
ทั้งนี้ ในการบุกค้นพบว่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร อีเมล และรวมไปถึงการเก็บข้อมูลจากทั้งคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือ อ้างอิงจากพนักงานที่อยู่ภายในอาคารที่เกิดเหตุ และพบว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานราว 10 คน รวมบรรณาธิการอาวุโส 5 คน ถูกสั่งให้อยู่ภายในสำนักงานตลอดระยะเวลา 3 วันของการบุกค้นจนกระทั่งการสำรวจทางภาษีจะเสร็จสิ้นในวันศุกร์ (17)
CNN กล่าวว่า ในวันพฤหัสบดี (16) บีบีซีแถลงผ่านทางทวิตเตอร์มีใจความว่า “เจ้าหน้าที่ภาษีรายได้อินเดียเดินทางกลับออกไปจากสำนักงานของเราทั้งในกรุงนิวเดลี และเมืองมุมไบ พวกเราจะยังคงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และตั้งความหวังว่าเรื่องราวจะถูกทำให้กระจ่างและคลี่คลายโดยเร็วที่สุด”
และเสริมว่ามีเจ้าหน้าที่บางส่วนของบีบีซี อินเดียถูกสอบเป็นเวลานานหรือขอให้อยู่ตลอดทั้งคืน และสวัสดิภาพของพวกเราเป็นสิ่งที่เราให้ความสนใจเป็นอันดับแรก พนักงานบีบีซีถูกเจ้าหน้าที่สรรพากรอินเดียห้ามไม่ให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการบุกค้น
เดอะการ์เดียนรายงานว่า นักสื่อสารมวลชนอินเดียบางส่วนมองว่า การที่บีบีซีถูกบุกค้นฟ้าผ่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคุกคามสื่อในอินเดีย ท่ามกลางการสาดโคลนภายในประเทศ 2 สัปดาห์ก่อนวันวาเลนไทน์ซึ่งเป็นวันบุกค้นทีวีสายฮาร์ดไลน์แดนภารตะ Republic TV ถึงกับตั้งคำถามสำหรับรายการข่าวเชิงวิเคราะห์ว่า “บีบีซีรับเงินจากจีนเพื่อทำโฆษณาชวนเชื่อหรือเปล่า?” ขณะที่ผู้จัดรายการชื่อดัง อาร์นาบ กอซวามี (Arnab Goswami) ออกมาประกาศตูมว่า “ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทั้งหลาย ความสงสัยเลวร้ายที่พวกเรากลัวมาตลอดได้พิสูจน์ว่าเป็นความจริงแล้ว” และกล่าวต่อโดยเป็นใจความสรุปว่า “บีบีซีรับเงินจีน”
ทั้งนี้ ในวันเสาร์ (18) ที่เมืองซิดนีย์ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียได้พุ่งเป้าไปที่โซรอสเป็นพิเศษ หลังจากที่พ่อมดทางการเงินวอลล์สตรีทใช้เวลา 42 นาทีในการขึ้นกล่าวภายในงานประชุมความมั่นคงมิวนิก เยอรมนีเมื่อวันพฤหัสบดี (16) โดยโซรอสโจมตีไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างโมดี และพันธมิตรนักธุรกิจอินเดียผู้มั่งคั่ง โกตัม อดานี( Gautam Adani) โดยชี้ว่า ในขณะที่อินเดียเป็นประชาธิปไตยแต่โมดีไม่ได้เป็นพวกประชาธิปไตยตามไปด้วย
บลูมเบิร์กรายงานว่า ในการขึ้นกล่าวเขาชี้ไปว่า วิกฤตอดานีทำให้เกิดการพลิกฟื้นประชาธิปไตยในอินเดีย ส่งผลทำให้สื่อ wion ของอินเดียตั้งคำถามทันทีว่า โซรอสกำลังหนุนการเปลี่ยนรัฐบาลนิวเดลีอย่างนั้นหรือ
รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียออกมาปกป้องโมดีด้วยคำกล่าวเปรียบเปรยโซรอสว่าเป็นพวก "Old, rich, opinionated and dangerous" เขายืนยันภายในงานซิดนีย์ว่า มุมมองยูโร-แอตแลนติกของโซรอสไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงปัจจุบันที่เป็นอยู่