สหรัฐฯ เสร็จภารกิจกู้ซากบอลลูนอ้างจีนสอดแนม เผยกำลังวิเคราะห์ ‘ไส้ใน’ อยู่

สหรัฐฯ ปิดฉากภารกิจเก็บกู้ซากบอลลูนที่อ้างว่าจีนส่งมาสอดแนมและถูกเครื่องบินขับไล่ยิงตกที่นอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างทำการวิเคราะห์ “ไส้ใน” ของมัน

หน่วยบัญชาการทหารสหรัฐฯ ภาคเหนือ (US military’s Northern Command) แถลงเมื่อค่ำวานนี้ (17 ก.พ.) ว่า เศษชิ้นส่วนท้ายๆ ของบอลลูนจีนซึ่งถูกขีปนาวุธไซด์วินเดอร์ (Sidewinder) ยิงตกได้ถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการของสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ที่รัฐเวอร์จิเนียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนปฏิบัติการค้นหาวัตถุบินปริศนาอีก 3 ชิ้นที่ถูกยิงตกตามหลังกรณีบอลลูนจีน ก็ยุติลงแล้วเช่นกัน

“เศษซาก (ที่ต้องเก็บกู้) มีจำนวนมาก ทั้งโครงสร้างรับน้ำหนัก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ทรรศนศาสตร์ (optics) ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่ห้องแล็บของเอฟบีไอในควอนติโก (Quantico) แล้วตอนนี้” จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุในงานแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว

เคอร์บีย์ ยืนยันว่า สหรัฐฯ ได้ทราบข้อมูลมากพอสมควรแล้วเกี่ยวกับบอลลูนจีน ระหว่างที่มันลอยข้ามน่านฟ้าสหรัฐฯ

“เราเชื่อว่าการวิเคราะห์ไส้ใน (guts) ของมัน เพื่อดูว่ามันทำงานอย่างไรและมีศักยภาพในด้านไหนบ้าง จะทำให้เราได้ทราบอะไรมากขึ้นไปอีก”

กองทัพสหรัฐฯ เชื่อว่าพวกเขาเก็บเซ็นเซอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำคัญๆ ได้ครบถ้วน รวมไปถึงโครงสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ต่อต้านการสอดแนมของสหรัฐฯ วิเคราะห์ได้ว่า ปักกิ่งสามารถรวบรวมและส่งต่อข้อมูลข่าวกรองอะไรไปได้บ้าง

บอลลูนซึ่งทางการจีนยืนยันว่า “ไม่ใช่บอลลูนสอดแนมของรัฐบาล” ได้ลอยข้ามเหนือเมืองต่างๆ ของสหรัฐฯ และแคนาดา ก่อนจะถูกเครื่องบินขับไล่ F-22 ยิงตกนอกชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ตามคำสั่งของประธานาธิบดี โจ ไบเดน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ตึงเครียดหนักยิ่งขึ้นไปอีก ขณะที่กองทัพสหรัฐฯ ถูกกระตุ้นให้ต้องสแกนน่านฟ้าเพื่อค้นหาวัตถุแปลกปลอมเพิ่มเติม กระทั่งสามารถยิงวัตถุบินไม่ทราบชนิดได้อีกถึง 3 ชิ้นระหว่างช่วงวันที่ 10-12 ก.พ.ที่ผ่านมา

ล่าสุด ทางการสหรัฐฯ ออกมาสรุปง่ายๆ วานนี้ (17) ว่าการค้นหาวัตถุปริศนา 2 ใน 3 ชิ้นปิดฉากลงแล้ว โดย “ไม่พบเศษซากใดๆ”

กรณีบอลลูนจีนรุกน่านฟ้าสหรัฐฯ ยังส่งผลให้แผนการเยือนปักกิ่งของ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในเดือนนี้ต้องถูกระงับไว้ชั่วคราว ซึ่งอันที่จริงหากไม่เกิดเหตุหมางใจกันขึ้นเสียก่อน บลิงเคนจะถือเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนแรกที่ไปเยือนจีนในรอบ 5 ปี และจะเป็นโอกาสให้ 2 มหาอำนาจได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์อันเปราะบาง

เวลานี้สหรัฐฯ กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะขอเปิดการหารือคู่ขนานระหว่าง บลิงเคน กับ หวัง อี้ (Wang Yi) อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศระดับสูงของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในการประชุมความมั่นคงมิวนิก (Munich Security Conference) ซึ่งเริ่มขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ (17)

ที่มา : รอยเตอร์