กลายเป็นคลิปไวรัลน้ำตาซึม ยอดชม 5 ล้านวิวภายใน 2 วัน หลังเอ็นจีโอน้ำใจงาม โพสต์คลิปวิดีโอสนทนาซื่อใสน่าชื่นชมที่เด็กหญิงซีเรียวัยเพียง 7 ขวบซึ่งติดในซากบ้านถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศซีเรีย อ้อนวอนเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยนำน้องชายวัยกระเตาะกระแตะที่ขยับตัวไม่ได้ ให้พ้นสภาพการณ์แสนวิกฤติ พี่สาวแสนดีบอกว่าจะยอมเป็นคนรับใช้เพื่อตอบแทนพระคุณ ทั้งนี้ ช่วงขาของน้องเล็กตัวจิ๋วติดอยู่ใต้แผงคอนกรีตและอิฐปูนที่ร่วงจากพื้นอาคารชั้นบนมาคร่อมครอบล็อกไว้
ในคลิปวิดีโอ พี่มาเรียม เด็กหญิงตัวน้อยชาวซีเรียน้ำใจกล้าหาญเกินวัย 7 ปีของเธอ คอยใส่ใจปกป้องน้องชายตัวจิ๋วนาม อีลาฟ ซึ่งยังแม้จะอยู่ในวัยไม่รู้ความ แต่มีสีหน้าประหวั่นเคร่งเครียดขณะติดค้างอยู่ด้วยกันในช่องระหว่างแผงคอนกรีตต่างๆ ที่หักพังร่วงลงมา เพราะบ้านถล่มด้วยแรงสั่นสะเทือนระดับ 7.8 ของมหาวิบัติแผ่นดินไหวทำลายล้างหลายซีรีส์
บรรยายคลิป
วิดีโอฟุตเทจอันเต็มไปด้วยโมเมนต์ละลายดวงใจผู้พบเห็น เผยให้เห็นว่าพี่มาเรียมอ้อนวอนขอคุณอาจากหน่วยฉุกเฉินกู้ภัย ให้ช่วยน้องชายตัวน้อยได้พ้นจากสถานการณ์วิกฤติ โดยพร้อมจะเสียสละสิ่งต่างๆ
วิดีโอฟุตเทจนี้ที่เต็มไปด้วยโมเมนต์ละลายดวงใจผู้พบเห็น เป็นบทสนทนาที่พี่มาเรียมอ้อนวอนขอคุณอาจากหน่วยฉุกเฉินกู้ภัย ให้ช่วยน้องชายตัวน้อยได้พ้นจากสถานการณ์วิกฤติ โดยพร้อมจะเสียสละสิ่งต่างๆ เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของน้อง เดลิเมล์ออนไลน์รายงาน
“คุณอาช่วยพาหนูกับน้องออกจากที่นี่ด้วยเถิดค่ะ แล้วหนูจะทำทุกอย่างที่คุณอาสั่ง
“ขอแค่พาเราออกจากที่นี่นะคะ”
พี่มาเรียมอ้อนวอนเหล่านักกู้ภัยด้วยสุ้มเสียงแผ่วล้าอ่อนแรง เพราะไม่ได้ทานอาหารหรือดื่มน้ำนานเกือบสองวัน ขณะที่น้องอีลาฟมองไปมาแบบเครียดแกมประหวั่นน่าสงสารอย่างที่สุด
ด้านนักกู้ภัยกล่าวห้าม “อย่าพูดอย่างนั้น อย่าพูดอย่างนั้น” นิวยอร์กโพสต์รายงาน
ในเวลาที่ทีมกู้ภัยขุดเจาะฝ่าสิ่งกีดขวางเข้าไปจนถึงจุดล็อกตัวสองศรีพี่น้อง ทั้งคู่ติดกับอยู่ตรงนั้นอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมงนับจากวินาทีที่ธรณีพิโรธอุบัติขึ้นเมื่อรุ่งสางของวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 น้องจึงมีอาการอ่อนล้าอย่างจัด เนื้อตัวมอมแมมด้วยผงฝุ่น
พี่มาเรียมและน้องอีลาฟ ติดใต้ซากปรักหักพังในบ้านของตนเองในย่านเบสนายา-ไซเนฮ์ ใกล้เมืองฮาราม ประเทศซีเรีย พร้อมนี้ คุณพ่อกับคุณแม่และน้องอีกคนหนึ่งของมาเรียม ติดค้างอยู่ในอีกห้องหนึ่ง
อาการของน้องอีลาฟค่อนข้างน่าเป็นห่วง เมื่อมองในคลิป เห็นได้ว่าช่วงขาของน้องติดใต้แผงคอนกรีตที่พังลงมาคร่อมครอบไว้
ทั้งนี้ ในเวลาที่ทีมนักกู้ภัยสามารถเจาะฝ่าวัตถุหนักทั้งปวงที่กีดขวางภายในตัวบ้าน พร้อมกับสามารถคืบคลานเข้าใกล้ตัวสองพี่น้อง นักกู้ภัยวางกล้องโทรศัพท์มือถือจ่อผ่านช่องโหว่ เพื่อให้หนูมาเรียมได้เห็นทีมผู้ช่วยเหลือ และจะได้มีกำลังใจว่าวิกฤติชีวิตใกล้สิ้นสุดแล้ว ขณะเดียวกันทีมงานก็จะเห็นสภาพพื้นที่รอบตัวมาเรียมและอีลาฟ ซึ่งจะช่วยในการวางแผนขุดเจาะเข้าไปถึงน้องๆ ได้สำเร็จ โดยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อร่างกายของน้องให้น้อยที่สุด
ตลอดเวลาที่ฝ่ายทีมขุดเจาะเร่งฝ่ายสิ่งกีดขวาง ทีมนักจิตวิทยาก็ชวนยัยหนูสนทนาเพื่อไม่ให้เสียขวัญที่เผชิญกับคนแปลกหน้า หรือตื่นกลัวเสียงเครื่องมือทำงาน
ขณะที่ฟุตเทจของคลิปไวรัลนี้ แสดงให้เห็นว่าน้องหนุ่มน้อยอีลาฟติดคาซากคอนกรีต ขยับร่างกายไม่ได้ ผู้ชมคลิปจะยังไม่ทราบว่า น้องแค่ติดล็อก หรือน้องมีอาการบาดเจ็บหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ฟุตเทจเป็นข้อมูลสำคัญให้ทีมนักกู้ภัยเห็นสภาพรอบกายเด็กน้อยทั้งสอง และนำไปกำหนดแนวทางขุดเจาะสิ่งกีดขวางเพื่อนำตัวออกมาให้ได้อย่างปลอดภัย
ส่วนสำหรับมาเรียม พี่สาวตัวน้อย ซึ่งถูกล็อกในช่องที่มีแผงคอนกรีตเบียดไว้อย่างแคบสุดๆ นั้น เธอขยับได้เฉพาะแขน แต่พี่มาเรียมไม่แสดงความอึดอัดเดือดร้อนกับสถานการณ์ของตนเอง
พี่มาเรียมซึ่งมีแต่จะเป็นห่วงน้อง คอยใช้แขนกางกั้นศีรษะของหนูน้อยอีลาฟเพื่อปกป้องอันตรายและฝุ่นปูนมิให้แผ้วพานใบหน้าของน้อง เดลิเมลออนไลน์ระบุ
ตลอดคลิป 16 วินาทีชวนให้ดวงใจละลายด้วยความซาบซึ้งชื่นชม ซึ่งพี่มาเรียมสนทนากับหน่วยกู้ภัย สาวน้อยวัย 7 ปีจะใส่ใจคอยปกป้องปลอบโยนน้องหนุ่มตัวจิ๋ว เธอหมั่นขยับแขนให้แนบศีรษะของน้องอีลาฟประมาณว่าจะให้น้องรู้สึกถึงความมั่นคงปลอดภัยในอ้อมแขนของพี่ สลับกับการลูบผมและใบหน้าให้น้องอย่างอ่อนโยนช่วยบรรเทาความกังวลให้แก่น้องซึ่งนอนเคียงข้างเบียดกันอยู่ในพื้นที่จำกัดอย่างสุดแสนทรหดอดทน ดิเอ็กซ์เพรสยูเคนำเสนอไว้อย่างละเอียด
คลิปสนทนากับทีมนักกู้ภัยกลายเป็นไวรัล บนทวิตเตอร์มียอดชมเกิน 5 ล้านครั้งใน 2 วัน
คลิปสนทนาน่าสงสารและบ่งบอกน้ำใจเข้มแข็งของพี่มาเรียม เป็นอะไรที่น่าประทับใจอย่างที่สุด นักกู้ภัยในพื้นที่นำไปแชร์แก่ฝ่ายต่างๆ ตั้งแต่บ่ายวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ทีมรุดเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนักหน่วงในหมู่บ้านเบสนายา-ไซเนฮ์ เพื่อเร่งขอความช่วยเหลือเข้าสู่ซีเรีย
โมฮาหมัด ซาฟา ตัวแทนประจำสหประชาชาติจากหน่วยงานด้านมนุษยธรรม แพทริโอติก วิชัน (พีวีเอ) ได้รับคลิปดังกล่าว และนำขึ้นบนโซเชียลมีเดียต่างๆ ของตนในค่ำวันเดียวกันนั้นเลย รวมทั้ง ทวิตเตอร์ ซึ่ง ซาฟา มีเครือข่ายผู้ติดตามกว้างขวางมากกว่า 2.54 แสนราย พร้อมกับอ้อนวอนให้ช่วยกันบอกต่อถึงเรื่องราวด้านบวกของผู้ประสบเคราะห์ภัย แทนที่จะให้ความสำคัญเฉพาะกับเรื่องราวข่าวร้ายจากโศกนาฏกรรมของเหยื่อแผ่นดินไหว
(พีวีเอเป็นหน่วยงานด้านมนุษยธรรมที่โมฮาหมัด ซาฟา เป็นซีอีโอ โดยมีฐานอยู่ที่เลบานอน และได้รับสถานภาพที่ปรึกษาพิเศษประจำสหประชาชาติตั้งแต่ปี 2018 และซาฟาเป็นผู้แทนหน่วยงานประจำสหประชาชาติ เว็บไซต์ของพีวีเอให้ข้อมูลอย่างนั้น)
ทันทีที่ ซาฟา โพสต์คลิปขึ้นบนโซเชียลมีเดีย ได้มีการแชร์ต่อๆ กันอย่างฮือฮา กลายเป็นไวรัลภายในชั่วข้ามคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บนทวิตเตอร์ ซึ่งปรากฏว่าเพียงสองวันแรกก็มีการเข้าชมมากกว่า 5 ล้านครั้ง และภายใน 5 วันแรก ยอดวิวทะยานเกิน 10 ล้านวิว
ผู้ได้ชมคลิปละลายดวงใจ เขียนชื่นชมพี่มาเรียมว่า “งดงามเหลือเกิน พระเจ้าจะมอบชีวิตให้หนูอีกยาวนาน เพื่อที่หนูจะได้อยู่ดูแลน้องชาย หนูเป็นเทวดาที่พระเจ้าส่งมา”
ผู้ชมคลิปอีกรายหนึ่งเขียนให้ความเห็นว่า “ด้านบวกของเรื่องนี้อยู่ที่ว่านักกู้ภัยได้ช่วยเหลือน้องๆ และครอบครัว และทุกคนได้เป็นอิสระจากซากปรักหักพังแล้ว”
ผู้ชมอีกรายหนึ่งให้ข้อสังเกตว่า “เมื่อดูน้องมาเรียมปกป้องศีรษะของน้องอีลาฟ อดคิดไม่ได้ว่ายังมีใครต่อใครอีกกี่พันรายนะที่ยังติดอยู่ในสถานการณ์แบบน้องทั้งสอง น่ากลัวอ่ะ” ดิเอ็กซ์เพรสยูเครายงาน
ครอบครัวพี่มาเรียมผ่านพ้นวิกฤตได้อย่างปลอดภัยทุกคน โดยสาวน้อยได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา
หลังจากบทสนทนาในช็อตดังกล่าวผ่านพ้นไปไม่นาน ทีมกู้ภัยของซีเรียได้ใช้ความชำนาญขั้นเทพ ขุดเจาะสิ่งกีดขวางและเข้าถึงตัวสองพี่น้องได้อย่างปลอดภัย และส่งพี่มาเรียมกับน้องอีลาฟไปรับการเยียวยาที่โรงพยาบาล เดลิเมลออนไลน์ระบุว่าภาพของสองศรีพี่น้องนอนพักบนเตียงในสีหน้าที่ยังเครียดและเหน็ดเหนื่อย ถูกแชร์กันไปทั่ว เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายว่าน้องได้รับความช่วยเหลือออกมาจากชะตากรรมน่าหวั่นกลัวทั้งปวง
ด้าน VOA ได้คลิปวิดีโอเพิ่มเติมในส่วนของการรักษาตัวในโรงพยาบาล ท่านผู้ชมจึงได้เห็นภาพในคลิปว่าพี่มาเรียมได้รับบาดเจ็บที่แขนและขาขวาซึ่งคุณหมอพันผ้าพันแผลไว้ ส่วนภาพในคลิปที่น้องอีลาฟที่นอนบนเตียงโรงพยาบาลนั้น มีการใช้มุมกล้องบังร่างกายส่วนขา ทั้งนี้ หนูน้อยทั้งสองศรีพี่น้องมีความเข้มแข็งน่าทึ่งเป็นที่สุด น้องยังดูเครียดแต่ไม่มีการร้องไห้งอแงเลย
สำหรับคุณพ่อมุสตาฟา ซูห์อีร์ อัล-ซาเหยด ของสาวน้อยมาเรียม กับคุณแม่และน้องอีกคนหนึ่ง ก็ได้รับความช่วยเหลือออกมาได้สำเร็จภายในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2023 เช่นกัน หลังประสบกับมหันตภัยแผ่นดินไหวรุนแรงมากมายที่ระดับ 7.8 ตั้งแต่รุ่งสางของวันจันทร์ที่ 6 แล้วติดค้างอยู่ในซากคอนกรีตอิฐปูนภายในบ้านต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 36 ชั่วโมง
“พวกเรายังหลับอยู่ครับ เรารู้สึกว่าพื้นเขย่าแรงเลย ... แล้วก็มีเศษอิฐเศษปูนร่วงใส่เราเต็มไปหมด หลังนั้นมาเราก็ติดอยู่ใต้ซากหักพังพวกนี้เกือบสองวัน” คุณพ่อของพี่มาเรียมเล่าไว้กับบรรดานักข่าว และซีเอ็นเอ็นนำมารายงานโดยระบุว่าภัยแผ่นดินไหวดังกล่าวเป็นสถิติที่ร้ายแรงที่สุดในรอบหนึ่งศตวรรษของซีเรีย
ระหว่างที่ติดกับอยู่ใต้ซากอาคาร คุณพ่ออัล-ซาเหยดเล่าว่าครอบครัวจะเปล่งเสียงสวดพระคัมภีร์กุรอาน คนที่มาช่วยก็จะทราบว่าสมาชิกครอบครัวอยู่ตรงจุดไหน
“คนได้ยินเสียงพวกเราครับ และเราก็ได้รับความช่วยเหลือ ทั้งตัวผม ภรรยาของผม และลูกๆ ขอบคุณอัลลอฮ์ เรารักษาชีวิตไว้ได้ทุกคน และขอบคุณทุกท่านที่มาช่วยพวกเราด้วยครับ” คุณพ่ออัล-ซาเหยดกล่าว
ในคลิปวิดีโอของหน่วยกู้ภัยซีเรีย มีชาวซีเรียเยอะเลยมาร้องเชียร์ยินดีกับพี่มาเรียมและน้องอีลาฟที่ถูกอุ้มพ้นจากซากอาคาร แล้วพี่ๆ นักกู้ภัยนำผ้าห่มมาห่อร่างกายให้ด้วย หลังจากนั้น จึงพาไปส่งโรงพยาบาล ซีเอ็นเอ็นรายงาน
ชะตากรรมคนซีเรียย่ำแย่ขั้นสุด ผู้คนมีศักยภาพสูง แต่ขาดเครื่องจักรขนาดใหญ่
ในแต่ละชั่วโมงที่ผ่านไป ความหวังที่จะพบครอบครัวผู้รอดชีวิตอยู่ในซากอาคารถล่ม มีแต่จะลดน้อยลง เพราะปัญหาสำคัญคืออุณหภูมิหนาวจัตระดับจุดเยือกแข็ง ซึ่งทำให้การประคองลมหายใจระหว่างรอความช่วยเหลือเข้าไปถึงนั้น เป็นเรื่องยากเย็น ทั้งนี้ แม้ประชาชนหลายแสนรายซึ่งหนีพ้นหายนะแผ่นดินไหวตึกถล่มได้ แต่ต้องเผชิญกับการขาดไร้บ้านพักพิง ผู้เชี่ยวชาญจึงชี้ว่าไม่ง่ายเลยที่จะรอดตายผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ทุกราย ซีเอ็นเอ็นรายงานอย่างนั้น
บ้านของครอบครัวอัล-ซาเหยดอยู่ในเขตยึดครองของฝ่ายกบฏทางตอนเหนือของซีเรีย ในพื้นที่ตรงนี้มีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว 2,166 ราย ซึ่งเป็นตัวเลข ณ วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งจดบันทึกรวบรวมโดยกลุ่มป้องกันพลเรือนซีเรีย เจ้าของฉายาว่ากลุ่มหมวกขาว (White Helmets) ซึ่งเป็นกลุ่มให้ความช่วยเหลือเชิงมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบเคราะห์กรรมทุกฝ่าย บุคลากรของกลุ่มมีทักษะการกู้ภัยในระดับสูง ด้วยประสบการณ์นานปีในการกู้ภัยที่เกิดจากศึกสงครามกลางเมืองที่ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนเสียหายร้ายแรงตลอด 11 ปีที่ผ่านมา
ในการนี้ กลุ่มหมวกขาววิเคราะห์ว่าบรรดาครอบครัวหลายร้อยครัวเรือนที่ติดค้างในซากอาคารที่อยู่อาศัยถล่ม จะประคองลมหายใจและรอความช่วยเหลือได้อีกไม่นานนัก
และแล้ว ในวันศุกร์ที่ 10 กลุ่ม White Helmets ออกแถลงการณ์การยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตในซากตึกรามบ้านช่องที่เสียหายเพราะวิบัติภัยแผ่นดินไหว ที่ดำเนินงานต่อเนื่องมากกว่า 4 วัน โดยจะเหลือแต่ปฏิบัติการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตเท่านั้น
“นับแต่ที่แผ่นดินไหวอุบัติขึ้นในวันจันทร์ เวลาท้องถิ่น 04.17 น. จนกระทั่งเมื่อกลุ่มประกาศยุติปฏิบัติการ เราพบผู้เสีย 2,166 ราย ผู้บาดเจ็บมากกว่า 2,950 รายในทุกพื้นที่ที่ถูกแผ่นดินไหวถล่ม ทั้งนี้ ทีมต่างๆ ของเราได้ดำเนินงานตลอด 108 ชั่วโมง ใน 40 นคร - เมือง - หมู่บ้านในพื้นที่ตอนเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ภายในอาคารที่อยู่อาศัยจำนวน 479 แห่งซึ่งถูกทำลายราบคาบ และมากกว่า 1,481 อาคารที่เสียหายเพียงบางส่วน” ซีเอ็นเอ็นรายงานแถลงการณ์ของกลุ่มหมวกขาวอย่างนั้น
พร้อมนี้ แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นสตรีกับเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่อย่างจินดายริส กับเมืองฮารามทางภาคเหนือของซีเรีย
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: วีโอเอ ดิเอ็กซ์เพรสยูเค ซีเอ็นเอ็น นิวยอร์กโพสต์ เดลิเมลออนไลน์ เอพี)