กองทัพรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธนับร้อยลูก โดยพุ่งเป้าทำลายโรงไฟฟ้าหลายแห่งทั่วยูเครนเมื่อวันศุกร์ (10 ก.พ.) ขณะที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี กลับจากการเดินสายทัวร์เมืองหลวงยุโรปเพื่อร้องขออาวุธเพิ่มเติม ท่ามกลางความกังวลของเจ้าหน้าที่ยูเครนว่าปฏิบัติการโจมตีระลอกใหม่ของรัสเซียทางภาคตะวันออกจะเริ่มในอีกไม่ช้า
กองทัพยูเครนระบุว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธมากกว่า 100 ลูกเข้าใส่เป้าหมายต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงโจมตีทางอากาศ 12 จุด และยิงปืนใหญ่ถล่มอีก 20 จุด โดยฝ่ายยูเครนสามารถยิงทำลายขีปนาวุธร่อนของรัสเซียได้ 61 ลูก
เยอรมัน กาลุชเชนโก รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานยูเครน ระบุว่า โรงไฟฟ้าใน 6 ภูมิภาคถูกยิงถล่มด้วยขีปนาวุธและโดรนของรัสเซีย ซึ่งส่งผลให้หลายพื้นที่ทั่วยูเครนเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับ
ด้านทำเนียบขาวออกมาแถลงยืนยันว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะเดินทางเยือนโปแลนด์ระหว่างวันที่ 20-22 ก.พ. เพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่เคียฟว่าจะยังคงได้รับอาวุธและความช่วยเหลือจากอเมริกาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะถึงวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครน
“ท่านประธานาธิบดีจะประกาศชัดเจนว่า สหรัฐฯ จะยังคงยืนหยัดเคียงข้างยูเครนไปตราบนานเท่าที่จำเป็น” จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว แถลง
ขณะเดียวกัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตรียมส่งคณะผู้แทนไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ยูเครนที่กรุงวอร์ซอในสัปดาห์หน้า หลังจากรัฐบาลยูเครนร้องขอให้ไอเอ็มเอฟอนุมัติแพกเกจกู้ยืมเงินหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนความจำเป็นต่างๆ ในประเทศระหว่างที่เกิดสงคราม
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดีส์ (Moody’s) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ (sovereign rating) ของยูเครนลงสู่ขั้น Ca เมื่อวันศุกร์ (10) โดยให้เหตุผลว่าสงครามกับรัสเซียมีแนวโน้มที่จะก่อ “วิกฤตท้าทายในระยะยาว” ให้กับประเทศแห่งนี้ พร้อมเตือนด้วยว่ายูเครนมีความเป็นไปได้ หรือใกล้ที่จะ “ผิดนัดชำระหนี้” (default) เต็มที
เซเลนสกี แถลงผ่านวิดีโอหลังกลับจากทัวร์ยุโรปว่า ตน “ได้รับการต้อนรับขับสู้” เป็นอย่างดีจากผู้นำชาติพันธมิตรเหล่านี้ แม้จะยังไม่มีประเทศไหนรับปากส่งเครื่องบินรบให้ก็ตาม
“ผมได้เดินทางไปพูดทั้งที่ลอนดอน ปารีส และบรัสเซลส์ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกี่ยวกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ทหารของเรา มีความเข้าใจที่สำคัญๆ เกิดขึ้น และเราก็ได้สัญญาณตอบรับที่ดีเกี่ยวกับขีปนาวุธพิสัยไกลและรถถัง รวมถึงความร่วมมือในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งก็คือเครื่องบินขับไล่” เซเลนสกี ระบุ
วิทาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ระบุว่า ขีปนาวุธรัสเซีย 10 ลูกถูกยิงตกเหนือเมืองหลวงยูเครนท่ามกลางเสียงไซเรนที่ดังสนั่นในช่วงเช้าตรู่เมื่อวานนี้ (10) ขณะที่นายกรัฐมนตรี เดนิส ชไมฮาล ยอมรับว่า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ราว 44% และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน 75% ของประเทศถูกรัสเซียทำลาย
กองทัพรัสเซียยกระดับการโจมตีทั้งที่โดเนตสค์และลูฮันสค์ในยูเครนตะวันออก ก่อนที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน จะมีกำหนดแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 21 ก.พ. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เขาประกาศรับรองเอกราชให้สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์และลูฮันสค์เมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ หากรัสเซียสามารถยึดครองดินแดนทั้ง 2 แคว้น ซึ่งเป็น 2 ใน 4 ภูมิภาคของยูเครนที่รัสเซียประกาศ “ผนวก” เป็นของตัวเองได้อย่างเบ็ดเสร็จ ก็จะทำให้ ปูติน สามารถอ้างได้ว่าเขาบรรลุซึ่งจุดมุ่งหมายของสงครามแล้วบางส่วน
ที่มา : รอยเตอร์
