เอเอฟพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ตัวเลขผู้เสียชีวิตวันพฤหัสบดี (9 ก.พ.) เหตุแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย มีไม่ต่ำกว่า 17,513 คน รวมหญิงไทย 1 ราย ที่อิสเคนเดอรุน (Iskenderun) ในตุรกี ขณะที่ตัวเลขบาดเจ็บรวม 68,000 คน สื่อสิงคโปร์รายงาน นักศึกษาไทย สุรภัทร กอบแก้ว วัย 23 ปี ในตุรกีเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เข้าเป็นเจ้าหน้าที่อาสาช่วยผู้ประสบภัยภายในค่ายศูนย์พักพิงหลังรอดตายหวุดหวิดจากแผ่นดินไหว
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (9 ก.พ.) ว่า ตัวเลขเสียชีวิตรวมแผ่นดินไหวล่าสุดมาอยู่ที่ 17,513 คน ซึ่งเป็นการเสียชีวิตในฝั่งตุรกีอยู่ที่ 14,351 คน และอีกจำนวน 3,162 คนในซีเรีย
ยอดการเสียชีวิตพุ่งมหาศาลหลังเวลา 72 ชั่วโมงที่สำคัญสำหรับการช่วยชีวิตนั้นได้ผ่านพ้นไป ผู้เชี่ยวชาญเชื่อตัวเลขเสียชีวิตน่าจะสูงกว่านี้
อุณหภูมิในกาซีอันเตฟของตุรกีตกลงไป -5 องศาเซลเซียสเมื่อช่วงต้นของวันพฤหัสบดี (9) ขณะที่ครอบครัวหลายพันในชั่วข้ามคืนต้องฝ่าลมหนาวจัดในรถหรือไม่ก็เต็นท์ท่ามกลางความรู้สึกหวาดกลัวและไม่สามารถกลับบ้านได้
ที่กรุงบรัสเซลส์ สหภาพยุโรป หรือ EU กำลังวางแผนจัดงานระดมทุนเพื่อหาเงินบริจาคจากนานาชาติเพื่อสำหรับทั้งตุรกีและซีเรีย ก่อนหน้าวันพุธ (8) รัฐบาลซีเรียได้ร้องขอสหภาพยุโรปเป็นทางการเพื่อขอความช่วยเหลือจากวิกฤตแผ่นดินไหว
เอพีรายงานว่า สำนักงานจัดการภัยพิบัติฉุกเฉินตุรกีแถลงว่า มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเวลานี้ไม่ต่ำกว่า 110,000 คนอยู่ในปฏิบัติการ ยานยนต์กว่า 5,500 คัน รวมทั้งรถแทรกเตอร์ เครน รถตัก และรถขุด
ทั้งนี้ พบว่าลานจอดรถของโรงพยาบาลหลักในอันตาคยา (Antakya) จังหวัดฮาเตย์ (Hatay) ถูกเปลี่ยนให้เป็นสถานที่เก็บศพชั่วคราว นักข่าวเอเอฟพีในที่เกิดเหตุสามารถนับถุงเก็บศพรวมกันได้เกือบ 200 ศพอยู่ในที่นั้น เรียงกันในแต่ละด้านของเต็นท์เมื่อค่ำวันพุธ (8)
ที่จังหวัดฮาเตย์แห่งนี้มีผู้เสียชีวิต 3,356 คน คิดเป็นกว่า 1 ใน 4 ของทั้งหมดในตุรกี
สำหรับสภาพความเสียหายของโรงพยาบาลพบว่าอาคารมีรอยแตกขนาดใหญ่ทั้ง 2 ด้านแต่ทว่าตัวตึกยังคงตั้งไม่ถล่มลงมา แต่เจ้าหน้าที่ตุรกีสั่งการอพยพออกไปเพื่อความปลอดภัย
ด้านในของโรงพยาบาลยังได้รับความเสียหายหนักทำให้ไม่สามารถที่จะรับผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตได้
เอพีรายงานว่า ขณะเดียวกันจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บรวมไม่ต่ำกว่า 68,000 คน ล่าสุดของวันพฤหัสบดี (9) ประกอบไปด้วยราว 63,000 คนในตุรกี และราวกว่า 5,000 คนในซีเรีย
วิกฤตแผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรียนี้มีชาวไทยเสียชีวิต 1 คน
MGR ออนไลน์รายงานก่อนหน้าว่า กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ว่า มีสตรีชาวไทย 1 ราย เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวในตุรกี โดยพบศพที่ใต้ซากปรักหักพังของอาคาร ในเมืองอิสเคนเดอรุน (Iskenderun) ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว
สถานเอกอัครราชทูตได้แจ้งไปยังครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตแล้ว และกำลังเร่งประสานงานกับทางการตุรกีเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตมาด้วย
ด้านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำไทย แซรัป แอร์ซอย (H.E. Mrs. Serap Ersoy) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันพฤหัสบดี (9)
พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงความเสียใจวิกฤตแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรง พร้อมกับมอบความช่วยเหลือเบื้องต้นทางมนุษยธรรมมูลค่า 5 ล้านบาท หรือราว 149,537 ดอลลาร์ให้อังการา และอีก 1 ล้านบาท หรือ 29,894 ดอลลาร์แก่รัฐบาลซีเรีย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีไทยยังประกาศส่งทีมกู้ภัย 42 คนจากไทยเข้าตุรกีเพื่อช่วยภารกิจค้นหาและช่วยชีวิต และได้ขอให้รัฐบาลตุรกีดูแลคนไทยภายในตุรกีที่มีบางส่วนอยู่ในศูนย์พักพิงของอังการา
ในแถลงการณ์ที่ออกโดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้นำไทยได้รับรายงานเมื่อวานนี้ (8) ว่า มีพลเมืองไทยเป็นสตรี 1 รายเสียชีวิตในเหตุแผ่นดินไหว
ยังไม่มีรายงานออกมาว่าคนไทยได้รับบาดเจ็บเพิ่ม ขณะนี้มีคนไทยดำรงชีวิตอยู่ในตุรกีรวม 30 ราย
CNA ของสิงคโปร์รายงานว่า นักศึกษาไทยที่กำลังศึกษาในตุรกีได้เปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสในการให้กลับคืนต่อผู้อื่นในเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรง
นักข่าว CNA สัมภาษณ์คุณสุรภัทร กอบแก้ว (Suraphat Kobkaew) นักศึกษาชาวไทย วัย 23 ปี ในวันพุธ (8) โดยเขาเล่าให้ฟังว่า ขณะแผ่นดินไหวความแรง 7.8 แมกนิจูดเกิดขึ้นวันจันทร์ (6) เขย่าอพาร์ตเมนต์ขนาด 9 ชั้นของเขา และมีบางส่วนของผนังพังลงมา
อย่างไรก็ตาม พบว่า คุณสุรภัทร สามารถหลบหนีออกไปได้อย่างหวุดหวิดโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ และอาศัยอยู่ในศูนย์ผู้พักพิงร่วมกับผู้ประสบภัยคนอื่นภายในมหาวิทยาลัยคูคูโรวา (Cukurova University) ในอดานา (Adana)
เขาเปิดเผยว่า มีผู้ประสบภัยชาวตุรกีจำนวนมากกลับไปบ้านเรือนของตัวเองไม่ได้อีกต่อไป และสิ่งนี้ทำให้นักศึกษาไทยวัย 23 ปีตัดสินใจเข้าเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครภายในศูนย์เพื่อช่วยคนอื่นๆ
คุณสุรภัทร ให้สัมภาษณ์ว่า “มันดีกว่าที่จะทำสิ่งที่มีประโยชน์เพราะผมยังคงมีชีวิตและแข็งแรง”
หน้าที่ในการเป็นเจ้าหน้าที่อาสาภายในศูนย์นั้นพบว่า เขาทำตั้งแต่การแจกจ่ายอาหาร แบกเครื่องนอน และสิ่งของอื่นๆ ที่จำเป็นซึ่งเป็นงานที่หนักท่ามกลางความวุ่นวายของเหตุการณ์
เขาเล่าต่อว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในศูนย์ประสบภัยนี้จะประทังชีพด้วยอาหารที่ง่ายต่อการบริโภค เช่น ซุปและขนมปัง ซึ่งศูนย์แห่งนี้ตั้งโดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยคูคูโรวา และองค์กรเอ็นจีโอในการจัดหาที่พักพร้อมกับอาหาร เครื่องนอน ความอบอุ่น และอื่นๆ ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น
บรรยากาศในศูนย์นั้นค่อนข้างเศร้าซึมเพราะผู้คนต่างไม่ทราบว่าสถานการณ์จะเกิดขึ้นไปอีกนานเท่าใด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เมืองอดานาในปัจจุบันปลอดภัย และทีมกู้ภัยต่างๆ กำลังเดินทางมาเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ตุรกี
นักศึกษาไทยได้โชว์ภาพผนังอพาร์ตเมนต์ที่ร้าวเนื่องมาจากแรงแผ่นดินไหวให้ CNA ดูพร้อมกับเปิดเผยว่า กลางคืนตัวเองนอนไม่หลับเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะเกิดแผ่นดินไหวอีกครั้ง เขายังเล่าต่อว่า ทั้งครอบครัวและเพื่อนๆ ในเมืองไทยต่างวิตกในตัวเขามากจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตุรกี
“พวกเขาติดต่อผมมาตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหว” คุณสุรภัทร กล่าวทิ้งท้าย