เอเจนซีส์ - “Abe Shinzo : Kaikoroku” หนังสือความทรงจำที่มาจากการให้สัมภาษณ์ถึง 18 ครั้งของอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ผู้โด่งดังออกวางแผงวันพุธ (8 ก.พ.) พบว่าในตอนหนึ่งของการเปิดเผยอ้างว่า อาเบะชี้ว่า ประธานาธิบดีอเมริกันที่เขาพบส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองเป็นผู้นำโลกตะวันตก และประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เคยยอมรับว่า ตัวเองจะไม่เป็นคอมมิวนิสต์ถ้าเกิดในสหรัฐฯ
บลูมเบิร์กรายงานวานนี้ (8 ก.พ.) ว่า ภายใน “Abe Shinzo : Kaikoroku” หนังสือความทรงจำที่มาจากการสัมภาษณ์ของ ชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดก่อนถูกลอบสังหาร มีเรื่องมากมายที่ทำให้ต้องฮือฮานั้นวางแผงในญี่ปุ่นแล้ววันพุธ (8) เกิดขึ้น 7 เดือนหลังการลอบสังหาร
เป็นหนังสือบันทึกความทรงจำที่อดีตผู้นำแดนอาทิตย์อุทัยชื่อดังคนนี้เคยเกี่ยวข้องกับผู้นำโลกคนอื่นๆ รวมถึงอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ-อิน เป็นต้น
เดอะเจแปนนิสต์นิวส์ (The Japanese News) ของญี่ปุ่นเคยรายงานก่อนหน้าว่า นักคอลัมนิสต์ประจำหนังสือพิมพ์โยมิอูริชิมบุน โกโร ฮาชิโมโต (Goro Hashimoto) และรองประธานบอร์ดบริหารหนังสือพิมพ์โยมิอูริชิมบุน ฮิโรชิ โอยามา (Hiroshi Oyama) ร่วมกันเป็นผู้สัมภาษณ์อาเบะ สำหรับหนังสือบันทึกความทรงจำตลอดช่วงระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในสมัยที่ 2 ของเขา
อ้างอิงจาก Epoch Times พบว่าเป็นการให้สัมภาษณ์โดยอาเบะ ถึง 18 ครั้ง ซึ่ง A be Shinzo : Kaikoroku มีความยาว 480 หน้า ตีพิมพ์โดย Chuokoron-Shinsha ราคา 1,980 เยน นั้นตามความเป็นจริงต้องเผยแพร่มาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แต่ทว่าเป็นเพราะมีเนื้อหาอ่อนไหวส่งผลทำให้ต้องเลื่อนออกไป แต่ในท้ายที่สุดสามารถเผยแพร่ออกมาได้หลังได้รับการอนุญาตจากอดีตภริยา อากิ อาเบะแล้ว
เดอะเจแปนนิสต์นิวส์ กล่าวว่า ซึ่งด้านในพบว่า อาเบะนั้นแสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อภายใต้การบริหาร เป็นต้นว่า เขายืนกรานว่าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสั่งยุบสภาล่างญี่ปุ่นเมื่อพฤศจิกายน ปี 2014 เพื่อกลบเสียงกลุ่มคนเรียกร้องการเพิ่มภาษี
บลูมเบิร์กรายงานว่า หนึ่งในเนื้อความตอนที่น่าสนใจ อดีตผู้นำญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเคยกล่าวกับเขาว่า ตัวเองคงไม่ได้ร่วมพรรคคอมมิวนิสต์หากว่าเขาเกิดในสหรัฐฯ แต่คงเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต หรือพรรครีพับลิกันแทน
ตามทัศนะของสีนั้นดูเหมือนเขาไม่ต้องการเข้าร่วมกับพรรคการเมืองหากว่าพรรคนั้นไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง
“ในอีกแง่หนึ่งที่คือ ดูเหมือนเขาจะไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลใดที่พรรคจะไม่แสดงแสดงอำนาจทางการเมือง” รายงานตอนหนึ่งจากบันทึกความทรงจำ
อดีตผู้นำญี่ปุ่นแสดงความเห็นเกี่ยวกับสีว่า ประธานาธิบดีสี จะอ่านจากสคริปต์ที่เตรียมไว้ในช่วงต้นของการพบกันเมื่อปี 2018 ดูเหมือนว่าผู้นำจีนมีความมั่นใจมากขึ้นและสามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้นหลังจากนั้น เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศ ซึ่งอาเบะ มองว่า เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าจีนเพิ่มความเชื่อมั่นในอำนาจตัวเองเพิ่ม
Epoch Times รายงานว่า ในการให้สัมภาษณ์ อาเบะเชื่อว่า สีนั้นที่ดูเหมือนเชื่อมั่นในหลักการของมาร์กซิสต์นั้นแค่ต้องการที่จะใช้หลักการหรือความเชื่อใดก็ตามตราบเท่าที่มันยังสามารถทำให้เขาสามารถควบคุมมวลชนได้
นอกจากนี้ เขายังแสดงความเห็นไปถึงบรรดาผู้นำสหรัฐฯ ที่เขาเคยพบตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ไปจนถึง อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
อ้างอิงจากบลูมเบิร์ก อาเบะกล่าววิจารณ์ว่า ประธานาธิบดีอเมริกันส่วนใหญ่มองตัวเองว่า เป็นผู้นำโลกตะวันตก หนังสือบันทึกความทรงจำเปิดเผยว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เคยโทรศัพท์ขอคำปรึกษาเขาที่เป็นการโทรศัพท์ยาวนานที่สุดร่วม 1 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้นเกี่ยวกับนโยบาย และทรัมป์มักพูดออกนอกประเด็น
และในบางครั้งอดีตผู้นำญี่ปุ่นยอมรับว่า ตัวเองต้องพยายามเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาเพื่อนำทรัมป์กลับคืนสู่หัวข้อการสนทนาประเด็นทางการทูต
อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ มักจะสนทนาทางโทรศัพท์ที่ยาวนานกับเขาและมักคุยในเรื่องกอล์ฟ
หนังสืออ้างว่า ในการสนทนาทางโทรศัพท์หลังจากอาเบะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ทรัมป์กล่าวกับเขาว่า บางทีเขาดูเหมือนยอมอ่อนข้อมากเกินไปต่ออาเบะในการเจรจาทางการค้า
นอกจากนี้ อดีตผู้นำญี่ปุ่นยังแสดงทัศนะเกี่ยวกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ว่า เขาเคยบ่นถึงการต้องแบกภาระโลกตะวันตก และไม่คิดในแง่การแบ่งแยกระหว่างโลกค่ายเสรีและโลกค่ายเผด็จการ
“เขาไม่ได้คิดไปถึงสิ่งที่สหรัฐฯ รวบรวมโลกตะวันตกเข้าด้วยกันเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมของรัสเซียและจีน” อาเบะกล่าว
นอกจากนี้ อดีตผู้นำญี่ปุ่นยอมรับว่า การเป็นผู้นำจำเป็นต้องมีการสร้างความเป็นเพื่อนให้สนิทมักคุ้น แต่ทว่าเกิดขึ้นอย่างยากลำบากกับอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ที่มักจะคุยเฉพาะเรื่องงานเท่านั้นและเต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย
“ด้วยความสัตย์จริงเขาเป็นประเภทที่ยากมากสำหรับผมในการที่จะสร้างมิตรภาพ แต่ไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน”
สำหรับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน อาเบะแสดงความเห็นว่า ปูตินเป็นผู้นำที่แสดงความเป็นมิตรได้อย่างน่าประหลาดและมักมีอารมณ์ขันด้านมืด
ซึ่งในการเปิดเผยของหนังสือบันทึกความทรงจำพบว่า อาเบะได้กล่าวตรงไปตรงมาต่ออดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ว่าเขาไม่ต้องการสั่งคว่ำบาตรรัสเซียลงโทษการบุกยึดไครเมียปี 2014 เป็นเพราะตัวเองต้องการให้ความสำคัญในการเจรจาดินแดนเขตพิพาทระหว่างมอสโกและโตเกียวมากกว่า