xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมัน-ทองคำขึ้น 3 วันติดเหตุดอลล์อ่อนค่า หุ้นสหรัฐฯ ลงหลังไบเดนแถลงนโยบายประจำปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราคาน้ำมันและทองคำขยับขึ้น 3 วันติดในวันพุธ (8 ก.พ.) นักลงทุนรู้สึกเบาใจมากขึ้น หลังประธานเฟดคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ ตลาดพินิจพิเคราะห์คำแถลงนโยบายประจำปีของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ความเห็นของ เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (7 ก.พ.) ถูกมองว่ามีความแข็งกร้าวน้อยกว่าที่กังวล และมันฉุดดอลลาร์อ่อนค่าลง ในขณะที่การอ่อนค่าของดอลลาร์ ทำให้น้ำมันซึ่งซื้อขายด้วยสกุลเงินอเมริกามีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

นักลงทุนหวังว่าการปรับดอกเบี้ยเชิงรุกน้อยลงของสหรัฐฯ จะช่วยให้เศรษฐกิจยักษ์ใหญ่แห่งนี้รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือถดถอย ซึ่งอาจกระทบต่ออุปสงค์พลังงาน

ด้านราคาทองคำในวันพุธ (8 ก.พ.) ปรับขึ้น 3 วันติดต่อกัน หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงตามความเห็นของประธานเฟด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 5.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,890.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนตลาดห้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันพุธ (8 ก.พ.) นักลงทุนวิเคราะห์ถ้อยแถลงนโยบายประจำปีของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งอเมริกา และความเห็นล่าสุดของประธานเฟด

ดาวโจนส์ ลดลง 207.68 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,949.01 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 46.14 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,117.86 จุด แนสแดค ลดลง 203.27 จุด (1.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,910.52 จุด

“ไบเดน” แถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาในค่ำวันอังคาร (7 ก.พ.) แบบมุ่งปูทางลงเลือกตั้งสมัยสอง โชว์ผลงานเศรษฐกิจ-แก้ภาวะเงินเฟ้อ พร้อมเน้นไฮไลต์อื่นๆ เป็นต้นว่า อัตราว่างงานต่ำสุดในรอบกว่าครึ่งศตวรรษ การเปิดประเทศอีกครั้งหลังยุติมาตรการควบคุมโควิด รวมถึงการปกป้องระบอบประชาธิปไตย พร้อมกันนี้เขายังเรียกร้องให้พรรครีพับลิกันร่วมมือเพิ่มเพดานหนี้เพื่อป้องกันประเทศผิดนัดชำระหนี้

ก่อนหน้านั้น พาวเวล ให้คำจำกัดความภารกิจฉุดเงินเฟ้อว่าเป็นกระบวนการที่ยาวนาน ค่อยเป็นค่อยไปและไม่แน่นอน ความเห็นที่พวกนักวิเคราะห์มองว่าไม่ได้เป็นสุ้มเสียงที่แข็งกร้าวจนเกินไป

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น