เอเจนซีส์/เอพี - กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงยืนยัน ปักกิ่งล่วงล้ำเขตไต้หวันทั้งทางอากาศและทางน้ำ ที่ถือเป็นการรุกรานใหญ่สุดในรอบไม่กี่สัปดาห์ ส่งเรือรบ 9 ลำและเครื่องบิน 34 ลำล้ำเส้นเมอริเดียนเมื่อตอนตี 3 วันอังคาร (31 ม.ค.) ขณะที่กองกำลังนาวิกโยธินชายฝั่งสหรัฐฯ (Marine Littoral Regiment) ที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้าประจำจุดในเกาะห่างไกลทางเหนือสุดของฟิลิปปินส์ ห่างไต้หวันแค่ 200 ไมล์
CNA ของสิงคโปร์รายงานวันนี้ (1 ก.พ.) ว่า ไทเปส่งเครื่องบินรบขับไล่ และสั่งให้กองทัพเรือไต้หวันอยู่ในการตั้งระวัง และเปิดระบบมิสไซล์เตรียมพร้อมหลังปักกิ่งส่งเครื่องบินรบ 34 ลำ และเรือรบ 9 ลำวิ่งข้ามเส้นเมอริเดียนซึ่งเป็นเส้นแบ่งช่องแคบไต้หวันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ก่อกวนและคุกคามไต้หวันของปักกิ่ง
ถึงแม้ว่าปักกิ่งจะรุกล้ำไต้หวันแทบเป็นรายวันแต่ทว่าการลุกล้ำวันอังคาร (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 03.00 น. อ้างอิงเวลาจากฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐฯ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ปักกิ่งกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการปิดล้อมไต้หวันหรือโจมตีไต้หวัน
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ว่า นายพลระดับสูงของสหรัฐฯ เคยออกมาประเมินว่า ปักกิ่งน่าจะบุกไต้หวันไม่เกินปี 2026
สหรัฐฯ และนาโต้เคลื่อนไหวไปในทางเดียวกันเกี่ยวกับไต้หวัน เอพีรายงานว่า รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน อยู่ในกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ วันพุธ (1) เพื่อเจรจาข้อตกลงขอขยายการเข้าถึงใช้ฐานทัพในฟิลิปปินส์ให้กว้างขวางมากขึ้นโดยมีเป้าหมายไปที่จีน
CNN วิเคราะห์ว่าหากสหรัฐฯ สามารถใช้ฐานทัพต่างๆ ในฟิลิปปินส์ได้จะเป็นประโยชน์ต่อกองกำลังสหรัฐฯ ทางด้านย่างก้าวทางยุทธศาสตร์ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งขึ้นมาในประเด็นไต้หวัน ซึ่งจุดยุทธศาสตร์ตั้งทางตะวันออกเฉียงใต้ในทะเลจีนใต้ห่างจากไต้หวันไปทางใต้แค่ 200 ไมล์เท่านั้น
เอพีรายงานว่าในการเจรจา ออสตินต้องการส่งกำลังทหารสหรัฐฯ และอาวุธจำนวนมากขึ้นเข้ามาในฐานทัพฟิลิปปินส์เพื่อต่อต้านการคุกคามจากจีน
ซึ่งก่อนหน้ารัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เยือนเกาหลีใต้ ซึ่งเขากล่าวว่าทางสหรัฐฯ จะส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ก้าวหน้าล้ำสมัยมากขึ้นเป็นต้นว่า เครื่องบินรบขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิดมายังคาบสมุทรเกาหลี เพื่อสนับสนุนการฝึกซ้อมร่วมกับกองกำลังเกาหลีใต้ในการรับมือภัยคุกคามเกาหลีเหนือ
รอยเตอร์รายงานว่า เลขาธิการใหญ่นาโต้ พล อ.เยนส์ สต็อลเตินบาร์ก กล่าวในวันพุธ (1) ระหว่างอยู่ในการเยือนญี่ปุ่น ย้ำความสำคัญของการที่นาโต้ทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก โดยกล่าวว่า ยุโรปไม่สามารถเพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเป็นเพราะความมั่นคงโลกนั้นเชื่อมโยงทั้งมวล
ฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่า กระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าวว่า เครื่องบินรบ 34 ลำ เรือรบอีก 9 ลำ ถูกตรวจพบใกล้เกาะแห่งหนึ่งของไต้หวันเมื่อเวลาตอนตี 3 โดยไต้หวันนิวส์รายงานในรายละเอียดว่า เป็นการรุกล้ำระหว่างเวลา 06.00 น. ของวันอังคาร (31 ม.ค.) ไปถึงเวลา 06.00 น.ของวันพุธ (1)
ซึ่งจากทั้งหมด 34 ลำ พบว่ามี 20 ลำที่บินล้ำเข้าเขต ADIZ
เครื่องบิน 34 ลำที่รุกล้ำ ยังรวมไปถึงเครื่องบิน Sukhoi Su-30 จำนวน 2 ลำ เครื่องบินขับไล่ Shenyang J-16 จำนวน 6 ลำ เครื่องบินขับไล่ Chengdu J-10 jet จำนวน 4 ลำ และเครื่องบินขับ Shenyang J-11 จำนวน 2 ลำเป็นต้น
หนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟของอังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (31) ว่า รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ มาเยือนฟิลิปปินส์ครั้งนี้มีเป้าหมายต้องการส่งกองกำลังสหรัฐฯ ไปประจำเกาะเหนือสุดของฟิลิปปินส์ ซึ่งถือเป็นที่ตั้งยุทธศาสตร์ทางทหารหากมีความขัดแย้งกับจีนเกี่ยวกับไต้หวัน หรือทะเลจีนใต้ที่เป็นเขตพิพาท
ปัจจุบันสหรัฐฯ สามารถเข้าใช้ฐานทัพอากาศ 4 แห่ง และฐานทัพกองทัพบก 1 แห่งของฟิลิปปินส์ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-ฟิลิปปินส์ฟื้นกลับมาอีกครั้งในสมัยของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอซ จูเนียร์
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้รวมไปถึงการคาดการณ์จากนายพลสหรัฐฯ ที่ชี้ว่า การบุกไต้หวันจะเกิดขึ้นไม่เกินปี 2026 สอดคล้องกับการรายงานของบิสซิเนสอินไซเดอร์ที่ระบุว่า สหรัฐฯ และญี่ปุ่นกล่าวในเดือนมกราคมที่ผ่านมาถึงการก่อตั้งกองกำลังหน่วยใหม่ขึ้นมาชื่อ “กองกำลังนาวิกโยธินชายฝั่งสหรัฐฯ” (Marine Littoral Regiment) มีกำหนดที่จะก่อตั้งไม่เกินปี 2025
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานวันพุธ (1) ว่า เป็นที่คาดว่ากองกำลังนาวิกโยธินชายฝั่งจะเริ่มทำการฝึกซ้อมทางตอนเหนือสุดของฟิลิปปินส์ได้ในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึง เป็นความเคลื่อนไหวที่สะท้อนเป้าหมายของเพนตากอนในความสามารถปฏิบัติการรอบมหาสมุทรแปซิฟิกในการทำสงครามกับจีน
กองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ หน่วยใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อการสู้รบบนเกาะที่ห่างไกลนั้นในไม่ช้าจะประจำใกล้กับไต้หวัน สะท้อนถึงการเตรียมความพร้อมของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรต่อความขัดแย้งที่อาจปะทุกับจีนประเด็นไต้หวัน