ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศทุ่มเม็ดเงินลงทุนเพิ่มอีก 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 320,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลาหลายปีข้างหน้าให้แก่ OpenAI ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์ที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์เด่นๆ อย่างแชตบอท ChatGPT และ DALL-E
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นไม่ถึง 1 สัปดาห์ หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้ประกาศเลย์ออฟพนักงานอีกราว 10,000 ตำแหน่ง โดยอ้างภาวะเศรษฐกิจซบเซาที่ทำให้อุปสงค์ซอฟต์แวร์ลดลง แต่ย้ำว่าบริษัทจะยังคงลงทุนและว่าจ้างพนักงานเพิ่มในภาคส่วนสำคัญๆ ที่ยังคงเติบโตได้
แม้ไมโครซอฟท์จะไม่ได้เปิดเผยตัวเลขเงินลงทุนเมื่อวันจันทร์ (23 ม.ค.) แต่แหล่งข่าวยืนยันว่าบริษัทมีแผนจะทุ่มเงินไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาหลายปีนับจากนี้
ข้อตกลงนี้ถือเป็นการร่วมลงทุนรอบที่ 3 หลังจากที่ไมโครซอฟท์เข้าไปลงทุนใน OpenAI มาแล้ว 2 ครั้งในปี 2019 และ 2021
ไมโครซอฟท์ชี้ว่า การสานต่อความเป็นหุ้นส่วนนี้จะช่วยเร่งให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในด้านเอไอ และช่วยให้ทั้ง 2 บริษัทสามารถทำการค้าเทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคต
“เราจับมือเป็นหุ้นส่วนกับ OpenAI โดยมีจุดมุ่งหมายร่วมที่จะพัฒนางานวิจัยด้านเอไอที่ล้ำสมัย และทำให้เอไอเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่มีความเป็นประชาธิปไตย” สัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ ระบุในบล็อกโพสต์
OpenAI ทำงานใกล้ชิดร่วมกับ Azure ซึ่งเป็นบริการคลาวด์เซอร์วิสของไมโครซอฟท์ โดยเมื่อเดือน ก.ค. ปี 2019 ไมโครซอฟท์ได้สนับสนุนเงินทุน 1,000 ล้านดอลลาร์ให้ OpenAI ซึ่งการลงทุนดังกล่าวทำให้ไมโครซอฟท์ได้กลายเป็นผู้ให้บริการ cloud computing “เพียงหนึ่งเดียว” ของ OpenAI และไมโครซอฟท์ยืนยันเมื่อวันจันทร์ (22) ว่า Azure จะยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการคลาวด์แก่ OpenAI ต่อไป
ไมโครซอฟท์ระบุด้วยว่า เม็ดเงินลงทุนนี้จะช่วยให้ทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมกันพัฒนา supercomputing ในระดับใหญ่ และสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยพลังของเอไอ
OpenAI ได้รับการจัดอันดับจากนักวิจัยด้านเอไอให้เป็น 1 ใน 3 ห้องปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ดีที่สุดในโลก บริษัทแห่งนี้เคยสร้างผลงานพัฒนาซอฟต์แวร์เอไอสำหรับเล่นเกมที่สามารถเอาชนะผู้เล่นที่เป็นมนุษย์ได้ เช่น Dota 2 เป็นต้น ก่อนจะได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีกจากผลิตภัณฑ์ ChatGPT ซึ่งเป็นแชตบอทที่สามารถสื่อสารผ่านข้อความกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และ Dall-E ที่สามารถวาดภาพตามคำบอก
ที่มา : CNBC