เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) นายกรัฐมนตรีอิรัก โมฮัมเหม็ด เชีย อัล-ซูดานี (Mohammed Shia Al-Sudani) ออกมาปกป้องการเรียกร้องให้สหรัฐฯ ประจำการทหารภายในอิรักแบบไม่มีกำหนด ยืนยันพร้อมส่งคณะผู้แทนไปเจรจาอย่างเป็นทางการกับวอชิงตัน
เอเอฟพีรายงานวานนี้ (15 ม.ค.) ว่า ผู้นำอิรัก โมฮัมเหม็ด เชีย อัล-ซูดานี (Mohammed Shia Al-Sudani) ให้สัมภาษณ์กับวอลล์สตรีทเจอร์นัลซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่วันอาทิตย์ (15) โดยยืนยันว่า มีความตั้งใจเพื่อส่งคณะผู้แทนไปเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเจรจาหารือในเร็ววันนี้
ซูดานีกล่าวให้สัมภาษณ์ปกป้องข้อเรียกร้องที่เขาต้องการให้ทหารสหรัฐฯ และทหารชาติอื่นๆ ประจำการอยู่ในอิรักแบบไม่มีกำหนดว่า “ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องมีกองกำลังต่างชาติ”
ซึ่งที่ผ่านมา กองกำลังสหรัฐฯ และกองกำลังชาตินาโต้ได้ฝึกกองทหารอิรักในการผลักดันกลุ่มก่อการร้าย IS
ผู้นำอิรักกล่าวว่า “การกำจัดก่อการร้าย IS จำเป็นต้องใช้เวลามากกว่านี้”
อ้างอิงจากอัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ ในการให้สัมภาษณ์เขายืนยันว่า ข้อเรียกร้องของเขาไม่มีความตั้งใจที่จะให้มีปฏิบัติการทหารต่างชาติยังคงมีอยู่ในอิรักแต่ชี้ว่า กองกำลังทหารต่างชาติมีความสำคัญในการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ในการต่อสู้กับกองกำลังก่อการร้าย IS ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในซีเรีย
เอเอฟพีชี้ว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ของซูดานีเป็นครั้งแรกกับสื่อสหรัฐฯ หลังจากเขาเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอิรักในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม การที่ซูดานีเรียกร้องให้มีกำลังทหารสหรัฐฯ และนาโต้ภายในประเทศต่อไปมันถือเป็นเรื่องร้ายแรงจากการที่พรรคการเมืองอิรักต่างๆ ที่หนุนเขาและควบคุมรัฐสภาอิรักนั้นล้วนเป็นพันธมิตรกับปีกสนับสนุนอิหร่าน และเป็นปฏิปักษ์ต่อสหรัฐฯ นอกจากนี้ อิรักยังต้องพึ่งพาเตหะรานสำหรับก๊าซธรรมชาติและกระแสไฟฟ้า
เอเอฟพีกล่าวว่า สหรัฐฯ ปัจจุบันมีทหารประจำราว 2,000 นาย เพื่อทำการฝึกสอน และกองกำลังนาโต้มีหลายร้อยนายประจำเช่นกัน แต่อยู่ในด้านการฝึกสอนเป็นหลักหลังจากประกาศสิ้นสุดปฏิบัติการทหารในอิรักลงเมื่อปี 2019
ซูดานี กล่าวว่า อิรักต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อทั้งสหรัฐฯ และอิหร่าน โดยยืนยันว่า “มองไม่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีความเป็นไปได้ในการที่จะได้เห็นอิรักมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอิหร่านและสหรัฐฯ”
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอิรักกำลังเผชิญกับความนิยมตกต่ำเป็นผลมาจากวิกฤตเศรษฐกิจและความปรารถนาของประชาชนอิรักที่จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
การเดินทางไปเยือนเตหะรานในปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นสัญญาณของการกระชับความสัมพันธ์แข็งแกร่งระหว่างประเทศทั้งทางเศรษฐกิจและความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม ซูดานีกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับวอลล์สตรีทเจอร์นัลอย่างชัดจนว่า เขามีความปรารถนาต้องการส่งคณะผู้แทนระดับสูงไปเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในอนาคตอันใกล้ และปรารถนาว่าอาจเป็นการหารือที่เกิดขึ้นก่อนหน้าการพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน หลังจากนั้น