องค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์วอตช์ (Human Rights Watch : HRW) ยกย่องความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของนานาชาติในการสนับสนุนยูเครน พร้อมย้ำให้รัฐบาลทั่วโลกแสดงความเห็นอกเห็นใจและมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยความขัดแย้งอื่นๆ ให้เหมือนกับที่ยูเครนกำลังได้รับ
“ท่ามกลางม่านหมอกแห่งสงครามและความมืดมนของสงครามในยูเครน ยังคงมีแสงสว่างที่มองเห็นได้อยู่” ทีรานา ฮัสซัน (Tirana Hassan) รักษาการผู้อำนวยการ HRW ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี ที่กรุงลอนดอน
“นานาชาติได้ร่วมกันตอบสนองและยึดมั่นพันธกรณีที่จะปกป้องความยุติธรรมสากล... มันเป็นช่วงเวลาแห่งความหวังที่แท้จริง”
HRW ได้เผยแพร่รายงานประจำปีว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลก โดยเรียกร้องให้รัฐบาลทุกชาติ “มอบการตอบสนองที่ดีที่สุดเหมือนที่ทำในยูเครน” และ “ยกระดับเจตนารมณ์ทางการเมือง” เพื่อช่วยแก้ไขวิกฤตการณ์ในสถานที่อื่นๆ ด้วย
ชาวยูเครนหลายล้านคนต้องหนีภัยสงครามไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรปหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานทางทหารเมื่อเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว โดย HRW ระบุว่าในช่วงเดือน ก.ย. “มีผู้ลี้ภัยยูเครนมากกว่า 4 ล้านคน ซึ่ง 90% เป็นผู้หญิงและเด็ก” เข้าไปตั้งหลักปักฐานในกลุ่มประเทศอียู
สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็น (OHCHR) และศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ที่กรุงเฮก ต่างก็เปิดการสอบสวนการก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน
“ไม่มีช่วงเวลาใดในประวัติศาสตร์ที่การตอบสนองความขัดแย้งของนานาชาติจะเป็นไปอย่างร่วมแรงร่วมใจ และมีการระดมส่งอาวุธจากประชาคมโลกเพื่อช่วยปกป้องสิทธิมนุษยชน และรับประกันการติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษเช่นนี้” HRW ระบุ
กระนั้นก็ตาม HRW ชี้ว่า มาตรการตอบสนองสงครามในยูเครน “สะท้อนนโยบาย 2 มาตรฐาน” ของหลายประเทศในอียู ซึ่งยังมีการปฏิบัติที่แตกต่างต่อชาวซีเรีย อัฟกัน ปาเลสไตน์ โซมาเลีย และชนชาติอื่นๆ ที่ต้องการขอลี้ภัย
รายงานฉบับนี้เตือนว่า สงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปีในภูมิภาคทิเกรย์ของเอธิโอเปีย “แทบจะไม่ได้รับความสนใจจากนานาชาติ”
“เป็นเรื่องสำคัญที่ประชาคมโลกจะต้องช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้คนในสถานที่อื่นๆ อย่างเช่น เอธิโอเปีย” ฮัสซัน กล่าว พร้อมระบุว่าความขัดแย้งในภูมิภาคทิเกรย์ถือเป็นหนึ่งในวิฤตมนุษยธรรมครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก และมีประชากรที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 22 ล้านคน
HRW ยังชี้ด้วยว่า ความช่วยเหลือจากนานาชาติที่หลั่งไหลเข้าไปยังยูเครนไม่ใช่ยาวิเศษที่จะช่วยให้ความขัดแย้งยุติลงโดยเร็ว พร้อมเรียกร้องให้ทุกรัฐบาลคิดทบทวนว่าสถานการณ์อาจไม่เลวร้ายถึงขั้นนี้ หากพวกเขา “ร่วมแรงร่วมใจกันเร็วกว่านี้” เพื่อกดดันให้ วลาดิมีร์ ปูติน ต้องรับผิดชอบต่อปฏิบัติการแทรกแซงทางทหารในซีเรียและยูเครน รวมถึงการกดขี่สิทธิมนุษยชนในรัสเซีย
ที่มา : เอเอฟพี