xs
xsm
sm
md
lg

มะกันว่าไง!! ปชต.แบบทรัมป์ถูกขวาจัดบราซิลลอกแบบ ล่าสุดผู้ว่าเมืองหลวงถูกพักงาน ฐานปล่อยม็อบบุกปล้นอาคารรัฐสภา-ทำเนียบรบ.-ศาลสูงสุด (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กองกำลังความมั่นคงของบราซิล เข้าขับไล่พวกผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ซึ่งยกกำลังบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา, ทำเนียบประธานาธิบดี, และอาคารศาลสูงสุด ในกรุงบราซิเลีย เมื่อวันอาทิตย์ (8 ม.ค.) เพื่อสร้างสถานการณ์ยุยงให้ฝ่ายทหารออกมาทำรัฐประหารโค่นล้มประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ในภาพนี้เป็นเหตุการณ์ที่บริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภาแห่งชาติ
กองกำลังความมั่นคงบราซิลเข้ายึดคืนและควบคุมพื้นที่รอบๆ อาคารรัฐสภา ทำเนียบประธานาธิบดี และอาคารศาลสูงสุดในวันจันทร์ (9 ม.ค.) 1 วันภายหลังกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโบลโซนารูนับหมื่นคน บุกเข้ารื้อทำลายทรัพย์สินในอาคารเหล่านั้น ขณะเดียวกนศาลสูงสุดออกคำสั่งพักงานผู้ว่าการกรุงบราซิเลีย 90 วัน เซ่นความบกพร่องในการรักษาความปลอดภัยเมืองหลวง




ในวันอาทิตย์ (8) อเล็กซานเดอร์ เดอ มอเรส ผู้พิพากษาศาลสูงสุดของบราซิล ยังออกคำสั่งให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และติ๊กต็อก ปิดกั้นการโฆษณาชวนเชื่อมุ่งปล่อยข่าวว่ามีการก่อการรัฐประหารยึดอำนาจ

ด้านประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ “ลูลา” ดา ซิลวา ลงนามในกฤษฎีกาประกาศให้กองกำลังของรัฐบาลเข้าแทรกแซงยุติความไม่สงบในบราซิเลีย กฤษฎีนี้ออกมาเพื่อให้รัฐบาลมีอำนาจพิเศษเหนือกองกำลังตำรวจท้องถิ่น ในการทำภารกิจฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในเมืองหลวง โดยขณะนี้ทางการบราซิลได้เริ่มต้นการสอบสวนเหตุการณ์คราวนี้ ซึ่งถือเป็นการโจมตีอาคารที่ทำการต่างๆ ของภาครัฐครั้งรุนแรงที่สุดนับจากการฟื้นระบอบประชิปไตยเมื่อ 4 ทศวรรษที่แล้ว และละม้ายคล้ายเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯในขณะนั้น บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 เพื่อขัดขวางไม่ให้โจ ไบเดน ผู้ชนะการเลือกตั้งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี

เหตุการณ์ในบราซิลครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านประชาธิปไตยนับหมื่นบุกเข้าไปในอาคารศาลสูงสุด รัฐสภา และทำเนียบประธานาธิบดีในวันอาทิตย์ และทุบกระจกหน้าต่าง ทำลายงานศิลปะและทรัพย์สินอื่นๆ รวมทั้งยังขโมยรัฐธรรมนูญฉบับดั้งเดิมปี 1988

ลูลา ผู้นำฝ่ายซ้ายที่สาบานตัวเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา แถลงว่า กองกำลังตำรวจบราซิเลียที่ขึ้นตรงกับอิบาเนส โรชา ผู้ว่าการบราซิเลียที่เป็นพันธมิตรกับอดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ไม่พยายามขัดขวางการบุกจู่โจมของผู้ประท้วงแม้แต่น้อย

ประธานาธิบดีบราซิลให้สัญญาว่า จะลงโทษผู้นำการโจมตีของ “กลุ่มฟาสซิสต์” ที่มีเป้าหมายปลุกเร้าให้ทหารออกมาทำรัฐประหารและคืนอำนาจให้โบลโซนารู

เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดคำถามในหมู่พันธมิตรของลูลาว่า เหตุใดกองกำลังความมั่นคงในเมืองหลวงจึงไม่มีการเตรียมพร้อมและไม่สามารถรับมือผู้ก่อจลาจลได้ทั้งที่คนเหล่านี้ประกาศแผนล่วงหน้าหลายวันผ่านโซเชียลมีเดีย

ลูลายังกล่าวหาโบลโซนารู ผู้นำฝ่ายขวาจัด ว่าปลุกปั่นกองเชียร์ภายหลังพยายามเผยแพร่ข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานว่า มีการโกงเลือกตั้งหลังจากตัวเองพ่ายแพ้

ด้านโบลโซนารูที่บินไปฟลอริดาก่อนพ้นตำแหน่ง 48 ชั่วโมง ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และทวิตว่า การประท้วงอย่างสันติเป็นกระบวนการประชาธิปไตย แต่การบุกอาคารรัฐบาลถือว่า “ล้ำเส้น”

จากเหตุการณ์ไม่สงบคราวนี้ บรรดาผู้นำจากทั่วโลกที่รวมถึงไบเดนและประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส พร้อมใจประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบราซิล

ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า ตำรวจสามารถเข้ายึดอาคารที่ถูกม็อบบุกคืนได้หลังผ่านไป 3 ชั่วโมง โดยมีการใช้แก๊สน้ำตา ระเบิดแสง และปีนฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายฝูงชน

ฟลาวิโอ ดิโน รัฐมนตรียุติธรรม แถลงว่า มีผู้ประท้วง 200 คนถูกจับกุม แต่โรชา ผู้ว่าการบราซิเลียให้ตัวเลขที่ 400 คน

ดิโนสำทับว่า การสอบสวนจะพุ่งประเด็นที่ผู้วางแผนและให้เงินสนับสนุนในการจัดหารถบัสหลายร้อยคันนำผู้สนับสนุนโบลโซนารูไปยังบราซิเลีย รวมทั้งสอบสวนโรชากรณีที่ไม่มีการเตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัย

ทั้งนี้ การยึดอาคารที่ทำการภาครัฐคราวนี้ พวกผู้ก่อเหตุมีการเตรียมการอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยกลุ่มผู้สนับสนุนโบลโซนารู ใช้วิธีกระจายข่าวบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเทเลแกรมและทวิตเตอร์ แต่กองกำลังความมั่นคงในกรุงบราซิเลียกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพื่อป้องกันการโจมตีที่ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งประกาศว่าเป็น “การยึดอำนาจโดยประชาชน”

นอกจากนั้นช่วงบ่ายวันอาทิตย์เมื่อผู้ประท้วงเริ่มเดินทางถึงบราซิเลีย แทนที่ผู้ประท้วงเหล่านั้นจะถูกกักตัว แต่กลับมีรถตำรวจร่วมขบวนพร้อมเปิดไฟกะพริบ และตำรวจปราบจลาจลไปถึงหลังเกิดเหตุนาน 2 ชั่วโมง

โรชาสั่งปลดแอนเดอร์สัน ทอร์เรส หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะของบราซิเลีย ที่ก่อนหน้านี้เคยรับตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรมในสมัยโบลโซนารู

อย่างไรก็ตาม ตัวโรชา เองถูกเดอ มอเรส ผู้พิพากษาศาลสูงสุด สั่งพักงาน 90 วัน ขณะที่สำนักงานอัยการเรียกร้องให้ศาลสูงสุดออกหมายจับทอร์เรสและเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นๆ ทั้งหมดที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนนำไปสู่เหตุการณ์ความไม่สงบนี้ที่ลูลาระบุว่า ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์บราซิล

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น