เพื่อนเหลือน้อย! “ไช่ อิงเหวิน” พยายามยื้อสัมพันธ์ "ปธ.สภาผู้แทนราษฎรปารากวัย" กลางไทเป หลังผู้สมัครเลือกตั้ง ปธน.ฝ่ายค้านแดนละตินขู่หันซบปักกิ่ง

รอยเตอร์/MGRออนไลน์ - ประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน วันจันทร์ (9 ม.ค.) พยายามซื้อใจปารากวัยให้ยังคงเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตต่อไป ระหว่างคณะประธานสภาผู้แทนราษฎรปารากวัยเดินทางเยือนกรุงไทเป ท่ามกลางแรงกดดัน ผู้สมัครฝ่ายค้านชิงประธานาธิบดีปารากวัยขู่จะตัดสัมพันธ์นาน 65 ปี หันไปซบปักกิ่งหากชนะเลือกตั้งเมษายนที่จะถึง

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (9 ม.ค.) ปารากวัยเป็น 1 ใน 14 ชาติทั่วโลกที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน ท่ามกลางแรงกดดันจากปักกิ่งที่พยายามให้ประเทศเหล่านี้หันไปสวามิภักดิ์จีนแทน

อีฟราอิน อัลเลกรี (Efrain Alegre) ผู้สมัครชื่อดังชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปารากวัยจากพรรคเสรีนิยมสุดโต่งปารากวัย PLRA (Authentic Radical Liberal Party) ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับรอยเตอร์ว่า หากฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปารากวัยในเดือนเมษายนนี้ ปารากวัยจะตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทเป และหันไปเปิดความสัมพันธ์กับจีนแทน เขาอธิบายว่า การหันไปหาปักกิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นทางเศรษฐกิจสำคัญสำหรับการส่งออกเนื้อวัวและถั่วเหลืองของปารากวัย

ระหว่างที่ประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน พบประธานสภาผู้แทนราษฎรปารากวัย มาเรีย โลเปซ โลเปซ (Maria Lopez Lopez) และคณะตัวแทนพรรคการเมืองปารากวัย ที่เดินทางเยือนกรุงไทเปอย่างเป็นทางการ เธอกล่าวในวันจันทร์ (9) รำลึกไปถึงเมื่อครั้งเดินทางไปเยือนปารากวัยในปี 2016 และความสัมพันธ์มิตรภาพที่ลึกซึ้งระหว่างไทเป และอซุนซิออน (Asuncion)

การพบปะเกิดขึ้นภายในทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน เธอกล่าวถึงความร่วมมือระหว่างกันนั้นอยู่ในระดับที่ดีมากและความสัมพันธ์ทางการค้ากำลังเริ่มมีความใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้น โดยชี้ว่าสิ่งนี้เป็นสัญญาณที่ดีในฐานะความเป็นเพื่อนของไต้หวัน

“ดิฉันต้องการย้ำอีกครั้งว่าในการเผชิญหน้าต่อการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของอำนาจนิยม พวกเราพันธมิตรแห่งแนวหน้าประชาธิปไตยต้องเพิ่มความแข็งแกร่งทางความร่วมมือเพื่อปกป้องร่วมกันต่อวิถีการใช้ชีวิตของพวกเรา” รายงานจากแถลงการณ์ของประธานาธิบดีไต้หวัน

ขณะเดียวกัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรปารากวัย โลเปซแถลงตอบมีใจความว่า “นี่เป็นมิตรภาพที่ยาวนานกว่า 65 ปีระหว่าง 2 ประเทศซึ่งมีความห่างไกลแค่ในระยะทางกิโลเมตรเท่านั้น แต่ไม่ใช่ในแง่ของความรักและความซาบซึ้งที่พวกเรามีให้แก่กัน”

รอยเตอร์รายงานว่า ซานเตียโก เปนา (Santiago Pena) ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปารากวัยจากพรรคโคโลราโด (Colorado Party) ยืนยันว่า ปรากวัยจะยังคงความสัมพันธ์ทางการทูตนาน 65 ปีกับไทเปต่อไปหากว่าเขาชนะเลือกตั้ง

รอยเตอร์ชี้ว่า ความสัมพันธ์ไต้หวัน-ปารากวัยได้รับแรงกดดันอย่างหนักเมื่อไม่กี่ปีมานี้โดยเฉพาะหลังจากกลุ่มผู้ผลิตเนื้อวัวและเกษตรกรปารากวัยที่มองว่า ความสัมพันธ์กับไต้หวันเป็นเสมือนอุปสรรคในการทำให้สินค้าของพวกเขาเข้าถึงตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก

โดยปารากวัยเป็นผู้ผลิตเนื้อวัวเจ้าใหญ่ติด 10 ลำดับแรกของโลก และยังเป็นผู้ส่งออกถั่วเหลืองใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของโลก ในปี 2021 ปารากวัยนำเข้าจากจีนร่วม 4 พันล้านดอลลาร์ แต่มียอดส่งออกไปจีนแค่ 30 ล้านดอลลาร์เท่านั้น เปรียบเทียบกับไต้หวันที่ปารากวัยในปีเดียวกันมียอดเกินดุลการค้าสำหรับการส่งออกร่วม 118 ล้านดอลลาร์

ปากรากวัยกำลังจะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 30 เม.ย ที่จะถึงซึ่งมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีปากรากวัยเกิดขึ้นในวันเดียวกันนี้ ผู้สมัครลงชิง 2 คนจากพรรคใหญ่คือ อัลเลกรีจากพรรคฝ่ายค้าน PLRA และ เปนา จากพรรคโคโลราโดซึ่งเป็นพรรครัฐบาลโดยมีประธานาธิบดีปารากวัยคนปัจจุบันมาจากพรรคคือ มาริโอ อับโด เบนิเตซ (Mario Abdo Benítez)

รอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศไต้หวันยอมรับว่ามีความเสี่ยงในความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ชาติจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีปารากวัยรอบนี้ โดยกระทรวงไต้หวันบอกกับรอยเตอร์ว่า กระทรวงจับตาอย่างใกล้ชิดต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้

“สถานทูตของเราติดต่ออย่างใกล้ชิดกับผู้สมัครหลายพรรคการเมืองเพื่อให้ได้การสนับสนุนความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างไต้หวัน-ปารากวัย”

ทั้งนี้ ปักกิ่งก่อนหน้าเคยกล่าวหาบรรดาชาติพันธมิตรที่คบหากับไต้หวันว่าเป็นเพราะ “อิทธิพลดอลลาร์” โดยเรียกว่า “การทูตเงินดอลลาร์” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไต้หวันปฏิเสธเสียงแข็ง