เอเจนซีส์ - ตำรวจนิวเดลีสั่งดำเนินคดี เชคการ์ มิชรา (Shekhar Mishra) นักธุรกิจมุมไบ วัย 50 ปี วันพุธ (4 ม.ค.) ฐานมีพฤติกรรมรุ่มร่ามในที่สาธารณะ รวมถึงความผิดอื่นๆ หลังเจ้าทุกข์เศรษฐินีแดนภารตะ วัย 70 ปี ถูกนักธุรกิจมุมไบที่เมาอย่างหนักปัสสาวะรดใส่ระหว่างอยู่บนเครื่องบินแอร์อินเดีย บินจากนิวยอร์กมานิวเดลี เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ปีที่แล้ว ตำรวจอินเดียอ้างรู้เรื่องช้าเลยทำคดีนาน
ไทม์สออฟอินเดีย รายงานวันนี้ (5 ม.ค.) ว่า การสั่งดำเนินคดีของตำรวจนิวเดลีในคดีระทึกขวัญเกิดขึ้นในวันพุธ (4) หลังได้รับการแจ้งความจากเจ้าทุกข์ผู้โดยสารแอร์อินเดียเที่ยวบิน AI 102 รูท เส้นทางนิวยอร์ก-นิวเดลี รายหนึ่ง
ในคำฟ้องพบว่าผู้โดยสารหญิงวัย 70 ปี เปิดเผยว่าเธอถูก เชคการ์ มิชรา (Shekhar Mishra) นักธุรกิจมุมไบ วัย 50 ปี ที่โดยสารมาไฟลต์เดียวกันเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ปีที่แล้วโดนเขาปัสสาวะรดใส่เธอซึ่งนั่งอยู่ในชั้นบิสิเนสคลาสด้วยความที่เขาเมาจัดระหว่างเครื่องบินเดินทางออกมาจากท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี (JFK)
ในรายงานระบุว่า เจ้าทุกข์ก่อนหน้าได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสายการบินแอร์อินเดียแล้ว 1 วันหลังเกิดเหตุ แต่ตำรวจอินเดียกลับอ้างว่า มารู้ทีหลังก็ต่อเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ไปแล้วเมื่อทางบริษัทสายการบินได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบอย่างคร่าวๆ ต่อเหตุที่เกิดขึ้น
โดยความผิดตามคำฟ้องของตำรวจต่อนักธุรกิจมุมไบนั้นประกอบไปด้วย แสดงพฤติกรรมรุ่มร่ามในที่สาธารณะ ดูหมิ่นเกียรติสตรี ร้องเพลงหรือตะโกนในที่สาธารณะ สร้างความไม่พอใจต่อสาธารณะ
ตำรวจนิวเดลีเปิดเผยว่า จะเรียกลูกเรือเที่ยวบินดังกล่าวมาสอบปากคำต่อไปเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดบนเครื่องอย่างละเอียด
สื่อไทม์สออฟอินเดียรายงานว่า จากข้อมูลที่มีอยู่พบว่านักธุรกิจมุมไบวัย 50 ปี นั้นมีอาการเมาอย่างหนักและได้ลุกจากที่นั่งของตัวเองเพื่อไปห้องสุขาบนเครื่อง แต่เนื่องมาจากความที่เขาเมาปลิ้นแทบไม่ได้สติทำให้ไม่รู้ว่าที่เขาหยุดอยู่นั้นเป็นที่นั่งผู้โดยสารคนอื่นไม่ใช่สุขาอย่างเข้าใจ และเริ่มต้นปลดทุกข์ตัวเอง
เศรษฐินีแดนภารตะซึ่งตกเป็นเหยื่อรู้สึกผิดหวังต่อการตอบสนองที่ออกมาจากลูกเรือบนเครื่อง และได้จัดการยื่นหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ไปยัง เอ็น ชานดราซีคาราน (N Chandrasekaran) ประธานใหญ่กลุ่มธุรกิจทาทา กรุ๊ป (TaTa Group) ทันที
โดยในใจความของหนังสือระบุว่า “ไม่นานหลังอาหารกลางวันถูกเสิร์ฟและไฟได้ถูกปิดลง มีผู้โดยสารคนหนึ่งเดินมาที่นั่งของดิฉันในสภาพที่เมามายอย่างหนักและเริ่มต้นปลดซิปกางเกงก่อนปัสสาวะรดใส่และยังคงเปิดเผยอวัยวะเพศของตัวเองให้เห็นตรงหน้า”
ในหนังสือระบุว่า ชายคนดังกล่าวยอมถอยออกไปก็ต่อเมื่อผู้โดยสารคนอื่นเข้ามาเตือนและหลังจากนั้นเศรษฐินีอินเดียวัย 70 ปี ได้รีบแจ้งไปยังลูกเรือบนเครื่องให้ทราบ ซึ่งเธอกล่าวว่า “เสื้อผ้าของดิฉันรวมไปถึงรองเท้าและกระเป๋าต่างเปียกปอนไปด้วยน้ำปัสสาวะ โดยพนักงานต้อนรับเดินตามดิฉันไปยังที่นั่งก่อนที่จะยืนยันว่าเป็นกลิ่นปัสสาวะและได้จัดการใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อไปที่กระเป๋าและรองเท้าของดิฉัน...”
เรื่องยังไม่จบแค่นั้นเพราะผู้โดยสารหญิงหลังทำความสะอาดตัวเองภายในห้องสุขาเครื่องบินและได้รับเสื้อคลุมของสายการบินเพื่อผลัดเปลี่ยนพร้อมกับรองเท้าแตะให้ใช้ชั่วคราว เธอต้องอดทนนั่งในที่นั่งใหม่ที่แสนคับแคบนานร่วมชั่วโมง ก่อนที่พนักงานแอร์อินเดียจะนำเธอกลับไปนั่งที่เดิมซึ่งถูกปัสสาวะใส่ในชั้นบิสิเนสคลาสอีกครั้ง
เศรษฐินีวัย 70 ปี กล่าวว่า ทางสายการบินแก้ปัญหาด้วยการหาสิ่งอื่นมารองที่นั่งที่ยังคงชื้นและชุ่มไปด้วยฉี่นักธุรกิจมุมไบ ก่อนที่จะย้ายเธอให้ไปนั่งในที่นั่งของลูกเรือตลอดทั้งการเดินทางเที่ยวยาวนานมาจนถึงอินเดีย
ในรายงานกล่าวว่า เธอช็อกเมื่อรู้ความจริงจากผู้โดยสารคนอื่นๆ สายการบินขี้เหนียวไม่ยอมอัปเกรดที่นั่งของเธอไปชั้นเฟิร์สต์ทั้งๆ ที่มีที่นั่งว่างเหลืออยู่ เธอถูกเจ้าหน้าที่ต้อนรับบนเครื่องจับนั่งในรถวีลแชร์ที่พนักงานต้อนรับอ้างว่าจะสามารถผ่านด่านศุลกากรอย่างรวดเร็ว แต่กลับต้องรอนานร่วมครึ่งชั่วโมง และเศรษฐินีอินเดียซึ่งอยู่ในชุดเสื้อคลุมและรองเท้าแตะจัดการขนกระเป๋าเดินทางและผ่านด่านตรวจด้วยตัวเองในที่สุดโดยที่ไม่มีใครช่วย