ผลสำรวจล่าสุดเผยคนอังกฤษเกือบครึ่งหนึ่งสนับสนุนให้มีการถอดพระยศเจ้าชายแฮร์รี หลังจากที่ภาพยนตร์สารคดีชุด Harry&Meghan ซึ่งออกฉายทาง Netflix มีการแฉข้อมูลโจมตีราชวงศ์อังกฤษอย่างหนัก
หลังออกมาแฉประเด็นการเหยียดเชื้อชาติในราชวงศ์อังกฤษผ่านรายการทอล์กโชว์ของพิธีกรชื่อดัง โอปราห์ วินฟรีย์ ไปเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุด ดยุค และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ได้อ้างผ่านหนังสารคดีเรื่องราวชีวิตของทั้งคู่ว่าเคยถูกสมาชิกราชวงศ์พระองค์อื่นๆ ข่มเหงรังแกอย่างไร ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่กับราชสำนักอังกฤษยิ่งเลวร้ายลงไปอีก
เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน ประกาศสละฐานันดร และยุติการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกราชวงศ์อังกฤษไปเมื่อเดือน มี.ค. ปี 2020 โดยอ้างว่าถูกคุกคามความเป็นส่วนตัวจากสื่อมวลชนจนทำให้ชีวิตไม่ปลอดภัย และจำเป็นที่จะต้องปกป้องครอบครัวด้วยการย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสหรัฐอเมริกา
ในปี 2022 เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน ทรงใช้เวลาร่วมกับสมาชิกราชวงศ์มากขึ้นกว่าในช่วง 24 เดือนก่อนหน้า โดยเสด็จฯ กลับไปอังกฤษถึง 3 ครั้ง และยังได้พาพระธิดาองค์เล็ก “ลิลิเบ็ต” (Lilibet) กลับไปเยี่ยมสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในช่วงก่อนที่จะสวรรคตด้วย
ทว่าอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เจ้าชายแฮร์รีกลับแฉผ่านสารคดี Netflix ว่าทรงเคยถูกเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา “ตะคอกและตวาดใส่” ขณะที่ เมแกน ก็ตัดพ้อสมาชิกราชวงศ์อังกฤษว่า “ไม่ให้ความเป็นกันเอง” กับเธอ แม้กระทั่งเวลาที่ไม่มีสื่อคอยจับจ้อง ทั้งคู่ยังอ้างว่าบรรดาพระญาติ “ไม่รับรู้และไม่เคยใส่ใจ” ความรู้สึกของพวกตน
ผลสำรวจล่าสุดโดย YouGov ซึ่งเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์เดอะไทม์ส พบว่า ชาวอังกฤษ 44% เห็นสมควรให้ “ถอดพระยศ” ของเจ้าชายแฮร์รีออกเสีย ขณะที่อีก 32% ตอบว่าไม่เห็นด้วย
โพลฉบับนี้ยังพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามชาวอังกฤษ 23% มองเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน “ในแง่ลบมากขึ้น” หลังจากที่ได้ดูซีรีส์ทาง Netflix ขณะที่ 7% ตอบว่า “รู้สึกดีกว่าเดิม”
ชาวอังกฤษ 44% ยังบอกว่ารู้สึก “เห็นใจ” เจ้าชายวิลเลียม และดัชเชสแคทเธอรีน ขณะที่ 17% เลือกที่จะอยู่ข้างครอบครัวซัสเซกซ์
บ็อบ ซีลีย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษจากพรรคอนุรักษนิยม ประกาศเมื่อต้นเดือน ธ.ค. ปีที่แล้วว่า กำลังเตรียมเสนอร่างกฎหมายมอบอำนาจแก่คณะองคมนตรีในการถอดบรรดาศักดิ์ “ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์” ของเจ้าชายแฮร์รี และเมแกน สืบเนื่องจากการที่ทั้งคู่ออกมากล่าวหาโจมตีสมาชิกราชวงศ์อย่างก้าวร้าว
“นอกจากจะให้ร้ายคนในครอบครัว และเอาเรื่องราวส่วนตัวมาขายเพื่อทำเงินแล้ว พระองค์ยังโจมตีสถาบันสำคัญๆ ของประเทศด้วย” ซีลีย์ กล่าว
ทอม ควินน์ ผู้เขียนหนังสือ Kensington Palace: An Intimate Memoir from Queen Mary to Meghan Markle ให้สัมภาษณ์กับเดอะไทม์สว่า “ผมแค่แปลกใจที่สารคดีชุดนี้ไม่ได้ทำให้ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ดูแย่ลงไปอีก ตัวผมเองแทบจะทนดูไม่ไหว มันทำให้คุณเข้าใจเลยว่าพวกเขากำลังหลงทาง และน่าประหลาดใจที่พวกเขาเชื่อว่าการทำแบบนี้จะช่วยให้อะไรๆ มันดีขึ้น”
ที่มา : The Mirror