โปรดชมภาพ : วอชิงตันเอาเรื่องสั่งสอบ “เซาท์เวสต์แอร์ไลน์ส” ทำผู้โดยสารตกค้างตามสนามบินทั่วสหรัฐฯ หลังยกเลิกเที่ยวบินครั้งมโหฬาร

เอเจนซีส์ - สายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์สชื่อดัง ล่าสุด โดนกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ประกาศสอบสวนหลังสั่งยกเลิกเที่ยวบินร่วม 9,000 เที่ยวทั่วสหรัฐฯ ไปถึงวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.) เป็นอย่างน้อย ทำผู้โดยสารจำนวนมากตกค้างตามสนามบินต่างๆ เดือดร้อนถ้วนหน้า

อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ รายงานวันอังคาร (27 ธ.ค.) ว่า กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ที่มีรัฐมนตรีเกย์คนแรก และอดีตทหารสหรัฐฯ พีท บุตดิเจต (Pete Buttigieg) เป็นเจ้ากระทรวงควันออกหู สั่งสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการยกเลิกเที่ยวบินครั้งมโหฬารจากบริษัทสายการบินชื่อดัง เซาท์เวสต์แอร์ไลน์ส (Southwest Airlines) พบสั่งยกเลิกเที่ยวบินและทำเที่ยวบินล่าช้า ส่งผลทำผู้โดยสารจำนวนมากต้องตกค้างตามสนามบินต่างๆ ทั่วประเทศ

กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ประกาศวันจันทร์ (26) ว่า การสอบสวนเพื่อต้องการทราบถึงการสั่งยกเลิกครั้งมโหฬารนี้เป็นสิ่งที่เซาท์เวสต์แอร์ไลน์สามารถหลีกเลี่ยงได้หรือไม่ พร้อมกับประณามถึงเหตุความโกลาหลนี้ถึงขั้น “ยอมรับไม่ได้”

“ยูเอสดอต (รัฐบาลสหรัฐฯ) รู้สึกวิตกต่ออัตราที่ไม่สามารถรับได้ของการยกเลิกเที่ยวบินและเที่ยวบินล่าช้าและรายงานของการไม่มีการให้บริการผู้โดยสารที่ทันท่วงที ทางกระทรวงจะสอบสวนว่าการสั่งยกเลิกนี้สามารถควบคุมได้หรือไม่ และหรือไม่ว่าบริษัทเซาท์เวสต์แอร์ไลน์สได้ปฏิบัติตามแผนการบริการลูกค้าของตัวเอง”

อย่างไรก็ตาม สื่อกาตาร์ชี้ว่า บริษัทสายการบินชื่อดังที่มีฐานอยู่ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อการถูกกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ สอบสวน แต่ได้ชี้ไปที่แถลงการณ์ขออภัยที่ออกมาก่อนหน้าแทน

โดยในแถลงการณ์บริษัทมีเนื้อหาว่า ทางสายการบินขออภัยอย่างสุดซึ้ง พร้อมกันนี้ ยังชี้ไปว่า พายุฤดูหนาวที่ร้ายกาจที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายวันสร้างความท้าทายต่อทั่วทั้งระบบของสายการบิน และสร้างผลกระทบต่อทั้งผู้โดยสารและพนักงานอย่างสำคัญ และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรับได้

บริษัทสายการบินชื่อดังของสหรัฐฯ กล่าวว่า ขณะนี้ทางสายการบินพยายามแก้ปัญหาที่กระทบเป็นวงกว้าง

เดอะเวิร์จ สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า เซาท์เวสต์แอร์ไลน์สสั่งยกเลิกมากกว่า 9,000 ไฟลต์ สูงกว่าบริษัทสายการบินชื่อดังเจ้าอื่นๆ ที่มีการสั่งยกเลิกเที่ยวบินเช่นกัน

อ้างอิงจากบิสซิเนสอินไซเดอร์ พบว่า เซาท์เวสต์แอร์ไลน์สในวันอังคาร (27) สั่งยกเลิก 2,694 เที่ยวบิน คิดเป็น 84% ของการยกเลิกเที่ยวบินสหรัฐฯ ทั้งหมดของวันนั้นโดยใช้ฐานข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน FlightAware

ฐานข้อมูลกล่าวว่า เที่ยวบินขาเข้าและขาออกสหรัฐฯ และภายประเทศสหรัฐฯ จำนวน 3,210 เที่ยว โดนยกเลิกในวันอังคาร (27) สายการบินสปริต (Spirit) สั่งยกเลิกสูงสุดเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 102 เที่ยว

ขณะที่ในวันจันทร์ (26) พบว่าเซาท์เวสต์แอร์ไลน์สสั่งยกเลิก 2,909 เที่ยวบิน หรือราว 71% ทั้งหมดของตาราง และมาจนถึงเวลา 05.00 น.ของวันพุธ (28) ทางบริษัทสั่งยกเลิกไป 62% หรือราว 2,506 เที่ยวบิน และพบว่าวันพฤหัสบดี (29) เซาท์เวสต์แอร์ไลน์สได้สั่งยกเลิกอีกนับพันเที่ยวเช่นกัน

เดอะเวิร์จรายงานว่า เซาท์เวสต์แอร์ไลน์สสั่งยกเลิกราว 1,500 ไฟลต์วันพฤหัสบดี (28) ซึ่งการสั่งยกเลิกครั้งมโหฬารทั่วประเทศกระทบผู้โดยสารจำนวนมากที่ต้องยืนรอต่อคิวนานหลายชั่วโมงเพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน และมีรายงานว่าผู้โดยสารจำนวนหนึ่งไม่สามารถหาเที่ยวบินใหม่ได้จนกระทั่งสุดสัปดาห์นี้หรือหลังปีใหม่ไปแล้ว และทำให้เห็นภาพผู้โดยสารเซาท์เวสต์ที่ตกค้างต้องนอนอยู่ตามพื้นหรือเก้าอี้ภายในเทอร์มินอลสนามบิน

สนามบินใหญ่ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกเที่ยวบิน รวมถึงสนามบินเดนเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล (Denver International Airport) สนามบินชิคาโกมิดเวย์อินเตอร์เนชันแนล (Chicago Midway International) และสนามบินแฮร์รี รีด อินเตอร์เนชันแนล (Harry Reid International Airport) ในเมืองลาสเวกัส เป็นต้น

เดอะเวิร์จรายงานว่า บริษัทสายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์สประกาศจะจ่ายเงินให้ผู้โดยสารสำหรับค่าโรงแรมที่พัก รถเช่า และตั๋วเครื่องบินของสายการบินอื่น และได้แจ้งต่อผู้โดยสารของบริษัทว่า ทางบริษัทจะจ่ายเงินคืนให้หากผู้โดยสารไม่มีความประสงค์ที่จะจองเที่ยวบินอื่นแทนเที่ยวบินเดิมที่ถูกยกเลิก