เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงพระราชทานพรเนื่องในโอกาสวันคริสต์มาสครั้งแรกในรัชสมัยวานนี้ (25 ธ.ค.) แสดงผลกระทบวิกฤตค่าครองชีพอังกฤษโดยตรงต่อประชาชนที่ประสบปัญหา ทรงตรัสชื่นชมต่อเหล่าอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลทั้งหลายที่อุทิศตนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย รวมถึงประชาชนที่ใจดีร่วมบริจาคทั้งอาหารและเงิน พร้อมตรัสไปถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่เกิดขึ้นในปี 2022
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (25 ธ.ค.) ว่า เมื่อวานนี้ (25) ถือเป็นครั้งแรกที่เหล่าพสกนิกรอังกฤษได้รับพระราชทานพรเนื่องในโอกาสวันคริสต์มาสจากพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
โดยในการถ่ายทอดทางโทรทัศน์วันอาทิตย์ (25) ไปทั่วประเทศจากโบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ (St George’s Chapel) ภายในพระราชวังวินด์เซอร์ เหมือนเมื่อครั้งที่พระราชชนนี สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเคยพระราชทานต่อประชาชนในเทศกาลคริสต์มาสเมื่อปี 1999 พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงตรัสแสดงความวิตกเกี่ยวกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่รุมเร้าต่ออังกฤษที่เป็นผลกระทบมาจากสงครามยูเครน
โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ของพระราชดำรัสพบว่าพระองค์ทรงตรัสในเรื่องนี้ถึงการอุทิศตนของบรรดาอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลทั้งหลายที่เข้าช่วยเหลือผู้อื่นในยามยากลำบาก
ภาพฟูดแบงก์ หรือโรงแจกอาหารต่อผู้ที่ยากไร้ที่เผยแพร่นั้น พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงสดุดีต่อบรรดาผู้คนที่มีน้ำใจอย่างมหาศาลต่อผู้อื่นที่ได้หยิบยื่นทั้งอาหารหรือเวลาของตัวเองให้แก่คนแปลกหน้า
สื่ออังกฤษรายงานว่า ภายในเนื้อหาพบว่าพระองค์ได้ทรงตรัสถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระราชชนนี สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ ซึ่งเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยทรงกล่าวสดุดีพระราชินีนาถเอลิซาเบธ และพระองค์ยังทรงตรัสไปถึงประชาชนคนอื่นๆ ในอังกฤษที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักด้วยเช่นกัน
“คริสต์มาสถือเป็นช่วงเวลาน่าสะเทือนใจอย่างใหญ่หลวงต่อพวกเราทุกคนที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป พวกเรารู้สึกถึงความว่างเปล่าของพวกเขาในทุกฤดูกาลที่เปลี่ยนผันและจดจำคนเหล่านั้นไว้ในทุกเทศกาลที่รักและชื่นชม”
พร้อมกันนี้ พระองค์ยังทรงตรัสยกไปถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งทรงเคยย้ำถึง "การมีศรัทธาในมนุษย์" และ "ศาสนาเป็นพลังแห่งแสงสว่างเพื่อเอาชนะความมืดมิด"
ทั้งนี้ พระราชดำรัสวันคริสต์มาสปีแรกของรัชสมัยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ “การอุทิศอย่างไม่เห็นแก่ตน” พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งเคยเสด็จไปเปิดวัดซิกซ์แห่งใหม่ที่เมืองลูตัน (Luton) ที่มีประชาชนอาศัยราว 211,228 คนในอังกฤษ ได้ตรัสยกย่องความสำคัญของศาสนาต่างๆ ในอังกฤษที่กลายเป็นด่านหน้าที่เข้มแข็งช่วยเหลือประชาชนอังกฤษช่วงเวลากำลังประสบปัญหากับวิกฤตค่าครองชีพครั้งร้ายแรง
พระองค์ยังตรัสชื่นชมเลยไปถึงบรรดาอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลต่างๆ เจ้าหน้าที่การแพทย์ และคนอื่นๆ ที่ยื่นมือเข้ามาสำหรับการช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่มีทั้งสงคราม วิกฤตอดอาหาร และวิกฤตภัยธรรมชาติ
“ช่วงเวลาของความวิตกกังวลอย่างหนักและเวลาที่ยากลำบากที่มีต่อคนรอบโลกซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับความขัดแย้ง วิกฤตขาดอาหาร หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือต่อคนอยู่ที่บ้านซึ่งกำลังหาหนทางชำระบิลค่าใช้จ่ายและทำให้ครอบครัวมีอาหารและความอุ่น พวกเราได้เห็นมันผ่านทางมนุษยธรรมในมนุษย์ทั่วทั้งประเทศของพวกเราทั้งหลายและในเครือจักรภพอังกฤษที่เตรียมพร้อมสำหรับการรับมือต่อวิกฤตความยากลำบากของผู้อื่น”
และในพระราชดำรัสยังมีใจความว่า “ข้าพเจ้าต้องการสดุดีเป็นพิเศษต่อคนทั้งหมดที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาอย่างที่สุดที่ซึ่งได้มอบอาหารหรือการบริจาค รวมไปถึงปัจจัยสำคัญพื้นฐานมากที่สุดนั่นก็คือ "เวลาของคนเหล่านั้น" เพื่อช่วยเหลือบุคคลรอบตัวที่มีความขาดแคลนมากที่สุด ร่วมกันกับองค์กรการกุศลจำนวนมากที่ทำงานอย่างน่ามหัศจรรย์ในสถาการณ์ช่วงเวลาที่ลำบาก”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา ทรงพระราชทานการจัดเลี้ยงเทศกาลคริสต์มาสภายในสมาชิกราชวงศ์ในวันอาทิตย์ (25) ที่พระตำหนักซานดริงแฮม ที่นอร์ฟอล์ก (Norfolk) โดยมีสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงเข้าร่วม เว้นแต่ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ซึ่งประทับอยู่ในสหรัฐฯและมีรายงานความขัดแย้งหลังเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิลได้เผยแพร่ซีรีส์ NETFLIX ออกมา
ทั้งนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ และเจ้าหญิงแคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงนำพระโอรสองค์สุดท้ายวัย 4 พรรษาเข้าร่วมด้วย และหลังจากทั้งหมดเสร็จสิ้นที่พระตำหนักซานดริงแฮมแล้ว พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษพระองค์ใหม่ทรงนำสมาชิกราชวงศ์ระดับสูงเสด็จไปยังโบสถ์เซนต์แมรีแม็กดาลีน (St Mary Magdalene) ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีเจ้าหญิงเบียทริซ และเจ้าหญิงยูเชนี ซึ่งเป็นพระธิดาของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซ็กซ์ และฟอร์ฟาร์และซาราห์ ดัชเชสแห่งยอร์ก และเอิร์ลและเคาน์เตสแห่งเวสเซ็กซ์ เสด็จร่วมไปยังโบสถ์ด้วยเช่นกัน