xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : โป๊ปฟรานซิสส่งสารอำนวยพรรับวันคริสต์มาส ประณามพวกกระหายความมั่งคั่ง-อำนาจ “กินแม้กระทั่งเพื่อนบ้าน” กองทัพสหรัฐฯ ลงทุนติดตาม "เส้นทางการบินซานต้า” เพื่อเด็กๆ กลัวติดพายุหิมะบอมบ์ไซโคลน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - ในพิธีมิสซาวันเสาร์วันคริสต์มาสอีฟ (24 ธ.ค.) สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงประทานสารต่อชาวโลกเนื่องในวันคริสต์มาส ให้ตระหนักว่าเยซูเจ้าทรงยากไร้ ประสูติที่คอกม้าในเมืองเบธเลเฮม ดังนั้น จึงอย่ากระหายอำนาจและความมั่งมีที่มาจากผู้อื่น แม้กระทั่งเด็กๆ กินแม้กระทั่งเพื่อนบ้านของตัวเอง พระองค์ประณามสงคราม ความยากไร้ และความโลภในลัทธิทุนนิยม ขณะที่กองทัพสหรัฐฯ NORAD ออกปฏิบัติการเหมือนทุกปี ติดตามซานตาคลอสรับวันคริสต์มาสท่ามกลางเด็กๆ ทั่วโลกร้องระงมกลัวมาสาย หลังพายุหิมะบอมบ์ไซโคลนถล่มอเมริกา

หนังสือพิมพ์แอลเอไทม์สรายงานเมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงทำพิธีมิสซาคืนวันเสาร์ (24) ภายในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในนครรัฐวาติกัน ท่ามกลางนักแสวงบุญเข้าร่วม 7,000 คน หลังจากวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย จากก่อนหน้าที่มีมาตรการจำกัดป้องกันโรคระบาดอย่างใกล้ชิด

รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า มีจำนวนรวม 4,000 คน ที่เข้าร่วมพิธีด้านนอกจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ท่ามกลางสภาพอากาศในคืนที่ค่อนข้างอบอุ่น ตรงกันข้ามกับในสหรัฐฯ ที่ต้องเจอกับอากาศที่หนาวจัดรับวันคริสต์มาส

การประทานสารต่อคริสต์ศาสนิกชนในปีนี้ต่างออกไป เพราะโป๊ปฟรานซิสทรงไม่สามารถประทับยืนเป็นเวลานานได้เนื่องมาจากพระองค์ทรงประสบปัญหาเกี่ยวข้องกับพระชานุ ส่งผลทำให้ต้องประทับนั่งเป็นส่วนใหญ่ของพิธีมิสซา

แอลเอไทม์สรายงานว่า ในพระสารวันคริสต์มาสพบว่า พระองค์ทรงประณามสงคราม ความยากไร้ และความโลภของลัทธิทุนนิยม โดยชี้ไปถึงพระเยซูเจ้าทรงประสูติจากความยากจน

“ขณะที่สัตว์ต่างๆ กำลังกินอยู่ในโรงเลี้ยง ทั้งชายและหญิงในโลกของเราซึ่งในความอยากกระหายของคนเหล่านั้นต่อทั้งความมั่งคั่ง และอำนาจที่สามารถกินได้แม้กระทั่งเพื่อนบ้านของพวกเขานั้น รวมไปถึงพี่ชายน้องชายหรือพี่สาวน้องสาวของตัวเอง”

ในพระสารอำนวยพรทรงตรัสต่อต่อว่า “มันเป็นเช่นนั้นแล เหยื่อส่วนใหญ่ของความโลภมักจะเป็นผู้ที่อ่อนแอ และคนที่ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย”

แอลเอไทม์สรายงานว่า ในพระสารสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงไม่ได้ตรัสโดยตรงไปถึงสงครามใดๆ เป็นการโดยเฉพาะหรือสถานการณ์ของโลกในเวลานี้

โป๊ปตรัสว่า “คริสต์มาสปีนี้เช่นกันในกรณีของพระเยซูเจ้า โลกแห่งความกระหายหิวต่อเงินตรา อำนาจ และความอยากนั้นตกอยู่กับเด็กทั้งหลาย ทั้งเด็กที่ยังไม่ถือกำเนิด ยากไร้ และเด็กที่ถูกทอดทิ้งทั้งมวล”

หนังสือพิมพ์สหรัฐฯ รายงานว่า พระองค์ทรงส่งพระสารอำนวยพรด้วยพระสุรเสียงที่อ่อนล้าและแหบพร่า

“ข้าพเจ้าคิดว่าเหนือทั้งหมดทั้งมวลเด็กๆ กลายเป็นเหยื่อของสงคราม ความยากจน และความอยุติธรรม” ทรงตรัสต่อสาธุชนชาวคริสต์ทั่วโลกเพื่อปลุกเร้าให้มีความกล้าว่า

“จงอย่าปล่อยให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อต่อความหวาดกลัว การล้มเลิก และการถดถอยต่อกำลังใจ เพราะพระเยซูทรงบรรทมในรางหญ้า แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งที่แท้จริงในชีวิตนั้นกลับเป็นสิ่งที่ค้นพบแต่ไม่ใช่ทั้งในเงินตราและอำนาจ แต่อยู่ในความสัมพันธ์และในมนุษย์”

พระองค์ทรงตรัสเรียกร้องว่าอย่าปล่อยให้เทศกาลคริสต์มาสผ่านไปอย่างไร้ความหมายแต่ขอให้ทุกคนเริ่มต้นกระทำสิ่งที่ดีงาม

การเฉลิมฉลองคริสต์มาสทั่วโลกปีนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสงคราม การพลัดพราก ความหิวโหยที่คนจำนวนมากไม่สามารถเฉลิมฉลองเพราะสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ มีจำนวนมากถูกสั่งให้ออกจากงาน และยังรวมไปถึงสภาพอากาศผิดปกติหนาวจัด ส่งผลทำให้เด็กๆ จำนวนมากต่างวิตกว่าซานตาคลอส หรือเซนต์นิค (St.Nicolas) จะไม่สามารถเดินทางจากขั้วโลกเหนือพร้อมกับกวางเรนเดียร์คู่ใจเพื่อส่งของขวัญวันคริสต์มาสได้ทัน

รอยเตอร์รายงานวันคริสต์มาสอีฟ (24) ว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้ให้การยืนยันกับเด็กๆ ทั่วโลกว่า ซานตาคลอสจะไม่ได้รับผลกระทบจากพายุหิมะบอมบ์ไซโคลนที่ทำให้อเมริกาจมอยู่ใต้ภูเขาหิมะขาวโพลนและเย็นจัดอย่างแน่นอน

โฆษกกองบัญชาการกองทัพอากาศอเมริกาเหนือ หรือ NORAD กองทัพสหรัฐฯ จ่าสิบเอกเบน ไวซ์แมน (Ben Wiseman) กล่าวผ่านแถลงการณ์ยืนยันว่า

“พวกเรากำลังประสบปัญหากับปรากฏการณ์ “โพลาร์ วอร์เท็กซ์” (polar vortex) มาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่เพราะซานตาคลอสอาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือตลอดทั้งปี ดังนั้น เขาจึงชินกับสภาพอากาศนี้”

ขณะที่ร้อยโทณอน คาร์เตอร์ (Sean Carter) เจ้าหน้าที่แผนกสัมพันธ์ของ NORAD ซึ่งทำหน้าที่ดูแลโครงการ NORAD ติดตามซานตาคลอสซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1958 หลังเด็กชายคนหนึ่งเกิดโทร.ผิดเบอร์เพื่อตามหาซานตาคลอส แต่บังเอิญโทร.เข้ามาที่ NORAD และเจ้าหน้าที่ผู้เข้าเวรในคืนวันคริสต์มาสอีฟไม่ต้องการทำให้เด็กชายคนนั้นผิดหวังจึงปลอมตัวเป็นซานตาคลอสเพื่อรับรองกับเด็กชายสำหรับการเดินทาง

คาร์เตอร์เปิดเผยบิสซิเนสอินไซเดอร์ว่า ทาง NORAD มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและอาสาสมัครทั้งหมดรวม 1,500 คน โดยเฉลี่ยทุกปีสำหรับการโทร.เข้ามาของบรรดาเด็กๆ ทั่วโลกเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับซานตาคลอสโดยมีการโทร.เข้ามาราว 130,000 ครั้งทุกปีโดยเฉลี่ย

ขณะที่ พล.ต.ปาร์คเกอร์ ไรท์ (Parker Wright) ผู้อำนวยการข่าวกรอง NORAD อธิบายกับสื่อ NPR สหรัฐฯ ว่า การติดตามเลื่อนซานตาคลอสนั้น ดาวเทียมสามารถตรวจจับจากจมูกสีแดงก่ำของกวางเรนเดียร์รูดอล์ฟชื่อดังอย่างมีอารมณ์ขันว่า

“เมื่อซานต้าออกเดินทาง และกวางเรนเดียร์รูดอล์ฟเป็นผู้นำที่มีจมูกสีแดงก่ำทำให้พวกเราสามารถตรวจจับได้จากคลื่นอินฟราเรดของดาวเทียมต่างๆ ที่กำลังโคจรรอบโลกห่างจากโลกไปราว 22,000 ไมล์”

และเสริมต่อว่า “ดังนั้นความร้อนที่เป็นสัญลักษณ์จากจมูกของกวางเรนเดียร์รูดอล์ฟที่ออกไปทำให้พวกเราสามารถตรวจจับด้วยดาวเทียมได้”

ทั้งนี้ มีผู้ใช้ทวิตเตอร์มีอารมณ์ขันชื่อจอร์จ ทาไก (George Takei) แสดงความเห็นผ่านทางทวิตเตอร์ว่าบัญชีทวิตเตอร์ NORAD ถูกสั่งระงับชั่วคราวหลังผิดกฎ doxxing  แอบเปิดเผยโลเกชันที่แท้จริงของซานต้า


























กำลังโหลดความคิดเห็น