xs
xsm
sm
md
lg

‘แฮร์รี’ โทษปัญหาเริ่มที่ ‘วิลเลียม’ อิจฉา ‘เมแกน’ สื่อมะกันแห่ถล่มดยุก&ดัชเชส ชี้จะขึ้นที่ 1 ถูกเกลียดสูงสุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ปรินซ์แฮร์รีทรงกล่าวหาอย่างรุนแรงว่าเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ผู้เป็นพระเชษฐา ทรงแผดเสียงลั่นตะโกนโวยใส่พระองค์ ขณะพระราชวงศ์ประทับนั่งกันที่พระตำหนักแซนดริงแฮมเพื่อหารือเรื่อง Megxit ที่ปรินซ์แฮร์รี และพระชายาเมแกนจะแยกวงออกจากพระราชสำนัก ตลอดจนย้ายถิ่นฐานออกจากอังกฤษไปประทับในสหรัฐฯ นอกจากนั้น ปรินซ์ยังทรงหมิ่นประมาทสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ผู้เป็นพระราชบิดาด้วยว่า ทรงกล่าวความเท็จ!!
นับเป็นสุดยอดศึกพระอนุชาเชือดเฉือนพระเชษฐาแห่งศตวรรษที่ 21 โดยแท้ เจ้าชายแฮร์รี ปรินซ์หนุ่มใหญ่วัย 38 พรรษา และเป็นรัชทายาทลำดับที่ 5 แห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษ ได้ทรงสร้างข้อกล่าวหาโจมตีพระราชวงศ์อังกฤษอย่างร้ายแรง ทั้งในด้านการกลั่นแกล้งรังแกและทั้งในด้านการอิจฉาริษยา เดลิเมลออนไลน์รายงาน

ทั้งนี้ รวมถึงการตั้งข้อกล่าวหาอันรุนแรงเล่นงานเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ผู้เป็นพระเชษฐา และหมิ่นประมาทสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ผู้เป็นพระราชบิดา ดังปรากฏในภาพยนตร์ซีรีส์สารคดี “แฮร์รีและเมแกน” ของเน็ตฟลิกซ์ที่เริ่มให้สตรีมดูตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 ธันวาคม 2022) เดอะซันให้ข้อมูลอย่างละเอียด

โดยในเอพพิโซดที่ 5 ของซีรีส์ซึ่งแสนสุดจะอื้อฉาว เจ้าชายแฮร์รีทรงเล่าออกอากาศไปทั่วโลกว่า ขณะหารือกันถึงอนาคตของพระองค์ และพระชายาเมแกนในเรื่องบทบาทในพระราชตระกูล เมื่อพระองค์ประกาศว่าทรงประสงค์จะถอนตัวจากพระราชสำนักนั้น “ผมตกใจมากเลยที่พี่ชายของผมแผดเสียงลั่นตะโกนโวยใส่ผม และเสด็จพ่อทรงตรัสหลายสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ขณะที่สมเด็จย่าทรงประทับนั่งเงียบๆ ตรงนั้นและประมาณว่าทรงมองแค่รับทราบ” เดอะซัน สื่อหัวสีเจ้ายักษ์ของอังกฤษรายงาน

การสาดโคลนใส่พระราชวงศ์อังกฤษในแง่มุมต่างๆ ที่ภาพยนตร์ซีรีส์ “แฮร์รีและเมแกน” ดำเนินการผ่านเน็ตฟลิกซ์ สื่อบันเทิงยักษ์ของโลก ถูกสื่อมวลชนรู้ทันและฟันกลับเลือดอาบ ถ้าเป็นขอมในตำนานก็น่าจะดำดินหนีอายกันไปข้างหนึ่ง แม้แต่นานาสื่อมวลชนยักษ์ใหญ่คับโลกของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่ไม่ปลื้มสถาบันกษัตริย์ และเคยมีความเห็นใจสองราชนิกุลคู่นี้มาก่อน ในตอนนี้ก็ถึงกับรับไม่ได้ แห่กันถล่มวิพากษ์วิจารณ์ดุเดือดและดุดัน

“สองพระองค์นี้อยู่ในเส้นทางสู่การเป็น ‘พระราชนิกุลที่ถูกเกลียดมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา’” สถานีโทรทัศน์ฟอกซ์ สื่ออเมริกันค่ายยักษ์ใหญ่วิจารณ์ซีรีส์เรื่องอื้อฉาวของเจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกน ไว้อย่างเผ็ดร้อน

“ราชนิกุลคู่นี้ ‘ไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ’ ต่อการสร้างความแตกร้าวในพระราชตระกูล” เอ็นบีซี อีกหนึ่งสื่อยักษ์อเมริกัน ฟาดกลับอย่างนั้น

ขณะที่ซีเอ็นเอ็นให้คำแนะนำว่า พระราชวังต้องโต้ตอบข้อกล่าวหาทั้งปวง “อย่างจริงจัง”

ภาพยนตร์ซีรีส์สารคดี “แฮร์รีและเมแกน” ซึ่งนำเสนอ 3 เอพพิโซดสุดท้ายให้ท่านผู้ชมสตรีมมาดูได้ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2022 ตั้งต้นอย่างคลาสสิกจากพระราชพิธีเสกสมรสอันงดงาม แต่แล้วก็หักมุมมาเล่าว่าทั้งสองพระองค์รู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติจากพระราชวงศ์และสื่อมวลชนอย่างไม่เป็นธรรม
ในศึกสาดโคลน ‘แฮร์รี’ ทรงกล่าวหา ‘วิลเลียม’ &คิงชาร์ลส์ : แผดเสียงโวยตอนหารือปม Megxit และโกหก

ใน 3 เอพพิโซดสุดท้ายของซีรีส์ “แฮร์รีและเมแกน” อันเป็นสุดยอดโชว์แห่งปีของเน็ตฟลิกซ์นั้น ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์เร่งเครื่องให้บรรยากาศของท่านผู้ชมร้อนระเบิดระเบ้อขึ้นมา ด้วยการกล่าวหาพระราชวงศ์ว่าอิจฉาในชื่อเสียงและความป็อปปูลาร์ของสะใภ้นามว่าเมแกน พร้อมกันนั้น ยังกล่าวหาว่าพระราชวงศ์ไม่เข้าใจว่าพระองค์ทั้งสองไขว่คว้าหาความรักและเสรีภาพ

โดยในเอพพิโซดที่ 5 ของซีรีส์ที่แสนจะอื้อฉาว เจ้าชายแฮร์รีทรงเล่าออกอากาศไปทั่วโลกว่า ขณะหารือกันถึงอนาคตของพระองค์และพระชายาเมแกนในเรื่องบทบาทในพระราชตระกูล เมื่อพระองค์ประกาศว่าทรงประสงค์จะถอนตัวจากพระราชสำนัก “ผมตกใจมากเลยที่พี่ชายของผมแผดเสียงลั่นตะโกนโวยใส่ผม และเสด็จพ่อทรงตรัสหลายสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ขณะที่สมเด็จย่าทรงประทับนั่งเงียบๆ ตรงนั้นและประมาณว่าทรงมองแค่รับทราบ” เดอะซัน สื่อหัวสีเจ้ายักษ์ของอังกฤษรายงาน

ด้านดัชเชสเมแกน พระชายาวัย 41 พรรษา ทรงกล่าวอ้างว่าไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมดังกล่าวซึ่งมีขึ้นที่พระตำหนักแซนดริงแฮม เมื่อเดือนมกราคม 2020 ทั้งๆ ที่ผลสรุปจากการหารือจะกระทบต่อพระองค์โดยตรง

อดีตนักแสดงสาวดาวดังจากฮอลลีวูดกล่าวว่า “คิดดูนะคะ จัดหารือโต๊ะกลม คุยกันเรื่องอนาคตของชีวิตคุณ แล้วเป็นประเด็นที่มีผลอย่างยิ่งต่อคุณซึ่งเป็นคุณแม่ เป็นภริยา และเป็นเป้าของหลายๆ เรื่อง แต่คุณไม่ได้รับเชิญให้เข้าไปนั่งตรงนั้น”

ห้องทรงงานของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์มีความงดงามด้วยการออกแบบตกแต่ง และด้วยสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่แจ่มใส
เจ้าชายแฮร์รีทรงเสริมต่อมาว่า เห็นได้ชัดว่าพระญาติของพระองค์วางแผนไว้แล้ว ดังนั้นพระชายาจึงไม่ได้อยู่ในห้องนั้นด้วยกัน

“ผมเข้าไปโดยมีข้อเสนออันเดียวที่ผมกับดัชเชสได้ประกาศสู่สาธารณชนไปแล้ว

“แต่เมื่อผมไปอยู่ในห้องประชุมตระกูล ผมได้รับข้อเลือก 5 ทาง อันแรกคืออยู่ในพระราชสำนักดั่งเดิมทุกอย่าง และอันที่ห้าคือก้าวออกไป ถอนไปทั้งหมด

“ผมเลือกออปชันที่ 3 ครับ คือ อยู่ครึ่งหนึ่ง ก้าวออกไปครึ่งหนึ่ง โดยที่ผมมีอาชีพการงานของผมเอง แต่ก็ถวายงานสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระราชินีนาถด้วย

“แต่แล้วมันกลับกลายเป็นว่าเป้าหมายการหารือวันนั้นมิได้เปิดทางให้หารือหรือถกเถียงกันเลย”

ปรินซ์แฮร์รีทรงบอกว่าพระองค์ออกจากการประชุม “โดยไม่มีแผนดำเนินการที่แน่นอนใดๆ”

โดยทรงบอกด้วยว่าในขณะที่เรื่องนี้หนักหนาจริงๆ นั้น ส่วนที่ทรงรู้สึกว่าย่ำแย่ที่สุดคือผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับพระเชษฐาวิลเลียม วัย 40 พรรษา

นักวิเคราะห์บ่นกันมากมายว่า เบื่อหน่ายกับบทร้องไห้และความทุกข์ตรมของดัชเชสเมแกน เพราะมองไม่เห็นเหตุผลอันสมควรที่จะต้องดรามากันนักหนา ในเมื่อชีวิตของทั้งสองพระองค์เต็มไปด้วยทรัพย์สินและความสะดวกสบายโดยมีภาระความรับผิดชอบไม่หนักหนา ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์กันอย่างอื้ออึง ทั้งในฝั่งประเทศอังกฤษและในฝั่งสหรัฐฯ
“เรื่องนี้ก่อให้เกิดลิ่มฝังลงมาระหว่างตัวผมกับพี่ชาย” ขณะทรงกล่าวอย่างนี้ คลิปประกอบเสียงปรากฏเป็นภาพที่สองพระองค์ทรงเล่นรถดับเพลิงด้วยกันเมื่อยังทรงพระเยาว์

“ตอนนี้ พี่อยู่ฝั่งพระราชตระกูล เรื่องนี้ผมรับได้ ผมเข้าใจ

“เรื่องนี้ได้หยั่งรากลึกอยู่ในใจของพี่ผมว่าความรับผิดชอบของพี่คือ สถาบันสามารถอยู่รอดได้และยั่งยืนต่อเนื่อง”

เจ้าชายแฮรีทรงกล่าวด้วยว่า “ผมคิดจากมุมมองของพวกเขานะครับ พวกเขาต้องเชื่อว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอะไรซึ่งสำคัญกว่าพวกเรา ขณะที่ประเด็นของเราขัดแย้งกับพวกเขาและพวกสื่อมวลชน ตลอดจนขัดแย้งกับความสัมพันธ์ที่สร้างความปวดร้าวให้เราอย่างเหลือเกิน

“พวกเขาเห็นแต่สิ่งที่พวกเขาต้องการเห็น”

อย่างไรก็ตาม ปรินซ์แฮร์รีทรงบอกว่าพระองค์ไม่ตำหนิสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าซึ่งทรงปล่อยให้สิ่งต่างๆ ปรากฏผลออกมาอย่างนี้

“คุณต้องเข้าใจเรื่องนี้จากมุมมองของพระราชวงศ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มุมมองของสมเด็จย่า สิ่งต่างๆ ต้องดำเนินไปในแนวทางที่ต้องเป็น และพระราชภารกิจ/พระราชภาระรับผิดชอบสูงสุดของสมเด็จย่าคือเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์” ปรินซ์แฮร์รี อดีตเจ้าชายสายปาร์ตี ซึ่งมิได้มีพระภารกิจหรือพระภาระรับผิดชอบอันใดมากนัก ทรงกล่าวอย่างนั้น

“ผู้คนที่ห้อมล้อมสมเด็จย่าพากันกราบทูลสมเด็จย่าว่า ‘สิ่งที่สองคนนี้ทำโน่นนี่ก็เพื่อให้เห็นเป็นการโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์’ ดังนั้น สมเด็จย่าจึงทรงดำเนินไปตามคำแนะนำต่างๆ ที่ทรงได้รับ”

เจ้าฟ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีทรงอยู่ในพิธีเปิดรูปปั้นเจ้าหญิงไดอานาเมื่อปี 2021 ณ พระราชวังเคนซิงตัน ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์มักที่จะลงความเห็นกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายสองพี่น้องมาถึงขั้นแตกหัก หลังจากที่พระราชวงศ์มีสะใภ้หลวงนามว่า เมแกน มาร์เคิล แต่ผู้เชี่ยวชาญต่างก็ทราบแต่อาจจะไม่เอ่ยถึง ว่าสิ่งที่ฝังอยู่ในพระทัยของเจ้าชายแฮร์รีก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความร้าวฉานแตกหัก
‘แฮร์รี’ กล่าวหาพระราชวังโกหกประชาชน แถลงว่าพระองค์กับพระเชษฐามิได้ขัดแย้งกัน แต่พระองค์ไม่รู้เห็นกับคำแถลงนั้นเลย

หลังการประชุมหารือภายในพระราชวงศ์เสร็จสิ้นลง พระราชวังบัคกิงแฮมออกคำแถลงที่คว่ำข่าวลือว่า พระเชษฐาและพระอนุชาทรงมีความขัดแย้งในระหว่างกัน โดยเป็นคำแถลงร่วมระหว่างพระองค์ชายทั้งสอง และสิ่งนี้ผลักดันให้เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาตัดสินใจย้ายถิ่นไปยังแคนาดา

เจ้าชายแฮร์รีทรงกล่าวอ้างว่าคำแถลงนี้ปรากฏต่อสาธารณชนโดยมีลายพระหัตถ์ลงพระนามของพระองค์ แต่พระองค์ไม่ได้ทรงรู้เห็นด้วยเลย


“ในวันนั้นมีข่าวออกไปว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เมแกนกับผมก้าวออกจากอังกฤษ เป็นเพราะวิลเลียมรังแกเรา” เจ้าชายแฮร์รีเล่าอย่างนั้นในเอพพิโซดที่ 5 ของซีรีส์สุดอื้อฉาว

“เมื่อผมขึ้นรถหลังเสร็จการประชุม มีคนบอกผมว่ามีคำแถลงออกมาซึ่งลงลายเซ็นของผมและของพี่ชาย แล้วคำแถลงอันนี้สลายข่าวที่พี่ชายกลั่นแกล้งขับไล่ผมและพระชายาออกจากพระราชตระกูล

“ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าจะทำกันอย่างนี้ ไม่มีใครสักคนมาขออนุญาตใส่ชื่อของผมลงในคำแถลงอย่างนี้เลย

“ผมโทรศัพท์หาเมแกน เล่าให้เธอฟัง เธอระเบิดร้องไห้ท่วมท้น เพราะภายในเวลาเพียง 4 ชั่วโมงที่ข่าวลือนี้สะพัดออกไป พวกนั้นแฮปปี้กันมากที่จะโกหกเพื่อปกป้องพี่ชายผม แต่ทีเรื่องต่างๆ ที่ผมกับพระชายาตกเป็นข่าวตั้ง 3 ปี แต่พวกนั้นไม่เคยเต็มใจที่จะเผยความจริงเพื่อจะปกป้องเราเลย”

ดยุกแห่งซัสเซกซ์ทรงบอกว่า “ไม่มีทางเลือกอื่นใดสำหรับเราแล้ว” นอกจากจะต้องออกไปจากอังกฤษหลังจากที่แตกหักสืบเนื่องจากการประชุมครอบครัวที่พระตำหนักแซนดริงแฮม

ด้านดัชเชสแห่งซัสเซกซ์กล่าวในเอพพิโซดที่ 5 ว่า “จู่ๆ มีบางอย่างคลิกขึ้นในหัวค่ะว่า ‘มันจะไม่หยุดเพียงแค่นี้’

ทุกข่าวลือ ทุกเรื่องติดลบ ทุกคำโกหก และทุกสิ่งที่ดิฉันได้ทราบนั้นไม่เป็นความจริงเลย และพระราชวังก็ทรงทราบว่าไม่เป็นความจริง แต่ก็ปล่อยให้มันรบกวนเราต่อไป”

เจ้าชายแฮร์รีซึ่งย้ายไปแคนาดา แล้วต่อมาก็ย้ายไปประทับที่แคลิฟอร์เนีย กล่าวเสริมว่า “ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นใดแล้ว ณ จุดนั้น ผมพูดเลยว่าเราต้องออกจากอังกฤษได้แล้ว”

ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ทรงใช้ภาพยนตร์ซีรีส์สารคดีแฮร์รีและเมแกน เป็นวาระโอกาสแห่งการอวดบรรดาภาพชีวิตครอบครัวอบอุ่นของพระองค์ ในภาพนี้ เป็นภาพชีวิตพ่อแม่ลูกในแสงตะวันสดใสสายลมร่มรื่น ณ พระตำหนักมอนเตซิโตอันใหญ่โตโอฬาร ในซานตา บาร์บารา รัฐแคลิฟอร์เนีย

เมื่อเจ้าชายแฮร์รีทรงประกาศการลาออกจากการปฏิบัติพระราชกิจแห่งสำนักพระราชวัง การพ้นจากพระอิสริยยศ HRH และการเดินทางโยกย้ายออกจากประเทศอังกฤษ สื่อมวลชนเล่นข่าวกันอย่างครึกโครม ในภาพนี้เป็นตัวอย่างข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือค่ายต่างๆ ที่พากันนำเสนอข่าวนี้เป็นข่าวเด่นที่สุด
ปรินซ์แฮร์รีบอกท่านผู้ชม พระชายาเมแกนทำผลงานดีกว่าเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ปัญหาจึงเกิดขึ้น

ทั้งนี้ ในเอพพิโซดที่ 4 เจ้าชายแฮร์รีทรงสาดเงามืดเล่นงานพระเชษฐาไว้เป็นเบื้องต้นแล้ว เดอะซันรายงานอย่างนั้น

ดยุกแฮร์รีทรงเล่าออกอากาศในซีรีส์ว่า เป็นที่รู้สึกกันได้ว่าพระชายาเมแกน “ขโมยความโดดเด่น” จากเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ผู้ซึ่งทรงประสูติมาเพื่อเป็นพระราชนิกุลที่จะปฏิบัติพระราชภารกิจแห่งพระราชวัง ทั้งนี้ ปรินซ์แฮร์รีทรงกล่าวด้วยว่า พระชายาของพระองค์ปฏิบัติพระภารกิจได้เหนือชั้นกว่าพระเชษฐา ผู้จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในวันหนึ่งข้างหน้า

“ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อใครสักคนที่เสกสมรสเข้ามา ใครคนนั้นต้องรับบทบาทสนับสนุนพระราชวัง แล้วก็เกิดจะขโมยความโดดเด่น หรือสามารถปฏิบัติงานได้ดีกว่าบุคคลที่ทรงประสูติมาเพื่อพระภารกิจอย่างนี้โดยตรง

“สิ่งนี้ทำให้พระราชนิกุลหลายรายไม่พอใจ มันไปเปลี่ยนสมดุล”

พระราชวังบัคกิงแฮมตอบคำถามของสื่อมวลชนว่า จะไม่มีการให้ความเห็นต่อซีรีส์ 3 ตอนสุดท้ายที่เน็ตฟลิกซ์ฉายออกมา พร้อมกับบอกว่าพระราชวังมุ่งอยู่กับการจัดกิจกรรมถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งจะมีการบันทึกเทปการแสดงคอนเสิร์ตในวันที่ 16 ธันวาคม 2022

ดยุกแฮร์รีทรงฟันธงว่า การเสด็จออกเยี่ยมเยือนประเทศแอฟริกาใต้อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2019 เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากทั้งสองพระองค์ได้รับความสนใจมหาศาลจากประชาชน ขณะที่พระราชกิจก็ประสบความสำเร็จด้วยดี ปรินซ์จึงเชื่อว่าพระชายาของพระองค์ปฏิบัติพระราชกิจแห่งพระราชวังได้เหนือชั้นกว่าเจ้าชายวิลเลียม ผู้เป็นพระเชษฐา อีกทั้งยังมีความเชื่อแบบละครชีวิตครอบครัวว่า พระเชษฐาทรงอิจฉาดัชเชสเมแกน ดังนั้น ปรินซ์แฮร์รีมักที่จะกล่าวอ้างบ่อยครั้งว่าความริษยาดังกล่าวทำให้พระองค์ และพระชายาถูกกลั่นแกล้งรังแกเพื่อให้ทนอยู่ในพระราชวังไม่ได้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ส่วนใหญ่ฟันธงว่าคำกล่าวของปรินซ์แฮร์รีเป็นการอ้างขึ้นมาเพื่อปกปิดความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะโยกย้ายกันไปประทับในสหรัฐฯ โดยที่หวังจะได้รับเงินเบี้ยหวัดรายปีจากรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งกฎระเบียบที่มีอยู่ไม่เปิดช่องทางให้เป็นอย่างนั้น
สื่อมวลชนรู้ทันและฟันกลับเลือดอาบ สื่อยักษ์ US ซึ่งเคยเห็นใจ ในตอนนี้แห่กันวิจารณ์ดุเดือด

สื่อมวลชนอเมริกันวิจารณ์สารคดีซีรีส์ “แฮร์รีและเมแกน” ซึ่งมุ่งหย่อนระเบิดโจมตีพระราชวังอังกฤษ โดยการวิพากษ์วิจารณ์เมื่อวันพฤหัสบดี 15 ธันวาคม เป็นไปอย่างน่าตกใจและเต็มไปด้วยบรรยากาศในทางต่อต้านรังเกียจซีรีส์อื้อฉาวนี้ เดลิเมลออนไลน์รายงาน

ในบรรดารายการข่าวเช้าในสหรัฐฯ เต็มไปด้วยการวิพาษ์วิจารณ์ต่อการที่ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์กล่าวหาพระเชษฐา ตลอดจนการที่ทั้งสองพระองค์ไม่ยอมรับว่าตนเองมีส่วนเพียงใดในปัญหาการแตกร้าวภายในพระราชตระกูล

พร้อมกันนี้ ทีมพิธีกรข่าวรายการโด่งดัง คือ This Morning ออกมาชี้ว่า ซีรีส์แฮร์รีและเมแกนไม่สามารถสร้างสถิติการเป็นโชว์ของเน็ตฟลิกซ์ที่ดึงดูดท่านผู้ชมเข้าไปดูได้สูงสุดประจำสัปดาห์ เพราะได้ยอดคนดูต่ำกว่าซีรีส์เรื่องอัดดัมส์ แฟมิลี ซึ่งครองแชมป์ได้อย่างเหนียวแน่น ทั้งที่เน็ตฟลิกซ์ทุ่มทุนสร้างไปให้มหาศาลถึง 100 ล้านดอลลาร์

สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ สื่อรายใหญ่ยักษ์ของสหรัฐฯ วิจารณ์ว่าเจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกนทรงดำเนินอยู่ในหนทางสู่การเป็นราชนิกุลที่ถูกเกลียดมากที่สุด นับจากวิกฤตแห่งการสละราชบัลลังก์ของดยุกแห่งวินด์เซอร์ซึ่งตกหลุมรักดื่มด่ำกับนางวอลลิส ซิมป์สัน แม่ม่ายอเมริกัน

โดยฟ็อกซ์นิวส์วิจารณ์เจ็บแสบว่า ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ตามรอยของดยุกแห่งวินด์เซอร์ผู้เป็นพระญาติผู้ใหญ่รุ่นอาวุโส โดยทรงเป็นพระเชษฐาของคิงจอร์จที่ 6 (สมเด็จพระปัยกา (ปู่ทวด) ของเจ้าชายแฮร์รี) กล่าวคือทั้งสองพระองค์ทำลายความนิยมที่ชาวอังกฤษเคยมีให้ ด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระองค์เอง นอกจากนั้น ขณะที่ดยุกแห่งวินด์เซอร์ทำให้ประชาชนผิดหวังด้วยการที่ทรงขาดความรับผิดชอบต่อพระราชภารกิจหลัก แต่ดยุกแห่งวินด์เซอร์มิได้ไขว่คว้าแสงสปอตไลต์แต่อย่างใด ยิ่งกว่านั้น ดยุกแห่งวินด์เซอร์ซึ่งลาออกจากพระราชสำนักก็มิได้ทรงทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ดั่งที่ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ทรงกระทำ เดลิเมลออนไลน์รายงานอย่างนั้น

เคียร์ ซิมมอนส์ นักข่าวมือฉมังแห่งสื่อยักษ์ค่ายเอ็นบีซี และเป็นผู้ดำเนินรายการข่าวภาคเช้าของเอ็นบีซีที่มีชื่อรายการว่า Today ทั้งนี้ ซิมมอนส์แสดงความเป็นห่วงว่าเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคททรงคิดอย่างไรบ้างในเช้าวันนี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลและการกล่าวหาต่างๆ
สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีวิจารณ์ว่า ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ทรงไม่ยอมรับผิดชอบว่าทรงมีส่วนเพียงใดในการสร้างความแตกร้าวภายในพระราชตระกูล พร้อมกับฟันธงด้วยว่าหลังจากที่ซีรีส์นำเสนอข้อกล่าวหามากมาย ทั้งสองพระองค์จะ “ไม่มีทางกลับไปสมานฉันท์กับพระราชวงศ์” ได้แล้ว

เอ็นบีซีที่อังกฤษยังแสดงความเห็นใจเจ้าฟ้าชายวิลเลียมที่ทรงถูกพระอนุชากล่าวหา ทั้งนี้ มีการพูดออกทีวีว่า “เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคททรงคิดอย่างไรบ้างในตอนเช้าที่ต้องพบกับการเปิดเผยข้อมูลและการกล่าวหาต่างๆ

ยิ่งกว่านั้น เอ็นบีซีวิจารณ์ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ว่า ทรงไม่มีความพยายามจะขออภัยในสิ่งที่ได้ทำไปจนกระทั่งความสัมพันธ์ที่มีกับพระราชวงศ์ถึงแก่ความร้าวฉาน โดยวิจารณ์ตีแสกหน้าว่า “บ่อยมากเลยในเวลาที่คุณมีความขัดแย้งภายในครอบครัว ถ้าคุณต้องการจะซ่อมแซมความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น คุณย่อมจะต้องแสดงความรับผิดชอบในส่วนของคุณบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรอย่างนั้นออกมาจากเจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกนเลยว่าทั้งสองพระองค์จะออกมารับผิดชอบในส่วนที่ทรงกระทำพลาด” เดลิเมลออนไลน์รายงาน

ในส่วนของซีเอ็นเอ็นก็มีการวิจารณ์ในแง่มุมว่า ภาพยนตร์สารคดีนี้นำเสนอเรื่องราวในแบบที่ให้ข้อมูลด้านเดียว พร้อมกันนี้ เดลิเมลออนไลน์รายงานด้วยว่า ซีเอ็นเอ็นเรียกร้องให้สำนักพระราชวังเร่งตอบโต้กับข้อกล่าวหาที่ “แสนจะร้ายกาจ” ซึ่งเจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสนำเสนอไว้ในซีรีส์

เกล คิง นักข่าวสาวใหญ่ของซีบีเอส ค่ายสื่อยักษ์แห่งสหรัฐอเมริกา เธอเล่าข่าวได้เก่ง มีไหวพริบและความฉับไวเป็นเลิศ เธอเป็นเพื่อนสนิทของดัชเชสเมแกน และที่ผ่านมาก็จะเชียร์ดัชเชสอย่างสม่ำเสมอ แต่ในการให้ความเห็นต่อซีรีส์แห่งเน็ตฟลิกซ์นี้ เธอพลิกท่าทีมาเป็นแนวที่เข้าอกเข้าใจการดำเนินการของพระราชวงศ์อังกฤษ ภาพนี้ภาพเก่าตั้งแต่ปี 2014 ส่วนภาพเล็กที่ซ้อนอยู่เป็นตัวเธอขณะปฏิบัติงานคือการสัมภาษณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ในปี 2019
แม้แต่นักข่าวสาวใหญ่แห่งรายการข่าวซีบีเอส มอร์นิง นามว่า เกล คิง เพื่อนสนิทของดัชเชสเมแกน และคอยแต่จะอวยดัชเชสเสมอ พอมาถึงซีรีส์แห่งเน็ตฟลิกซ์เที่ยวนี้ กลับพลิกท่าทีมาเป็นแนวที่เข้าอกเข้าใจการดำเนินการของพระราชวงศ์อังกฤษ โดยกล่าวว่า การที่พระราชวงศ์ไม่โต้ตอบกับซีรีส์แฮร์รีและเมแกนนั้น “เป็นแท็กติกที่ถูกต้อง”

ในเวลาเดียวกัน เกล คิง ออกปากเตือนไว้ว่าเจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสเมแกนพูดเสมอว่าทรงต้องการเล่าเรื่องในมุมของพระองค์... แต่ซีรีส์ชุดนี้มีความเสี่ยงมากเหลือเกิน อันตรายเหลือเกิน

ด้านวอชิงตันโพสต์ สื่ออเมริกันระดับพี่เอื้อยของวงการ ก็พุ่งเป้าไปในประเด็นที่เจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกนกล่าวหาสำนักพระราชวังอังกฤษว่า มีการกุข่าวด้านลบโจมตีพระองค์

ตัวอย่างของพาดหัวข่าวสายแข็งที่ดุเดือด ดุดัน และฟันแสกหน้าประกอบการวิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์ซีรีส์สารคดี “แฮร์รีและเมแกน” เช่น พาดหัวข่าวของฟ็อกซ์, วอชิงตันโพสต์ และเว็บข่าวฟลิปบอร์ด
สำหรับเสียงวิจารณ์ที่ดุเดือดเลือดพล่านพิเศษ ซึ่งมีต่อซีรีส์อันร้อนแรงของเจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกน คือ รายการคุยข่าวทางช่องวิทยุโฮเวิร์ด สเทิร์น โดยเย้ยหยันการกระทำของเจ้าชายและดัชเชสในสารคดีช่องเน็ตฟลิกซ์นี้ว่าเหมือน ผู้หญิงเลวจอมคร่ำครวญ’ เว็บข่าวฟลิปบอร์ดรายงานอย่างนั้น พร้อมกับนำเสนอคำวิจารณ์ของโฮเวิร์ด สเทิร์น ว่า ทั้งสองพระองค์บ่นไว้มากมายเรื่องที่ถูกรุกรานเข้าไปในชีวิตส่วนตัว แต่ก็กลับเป็นฝ่ายที่นำเอาเรื่องราวส่วนตัวไปอวดต่อสาธารณชนเสียเอง

“ผมเห็นใจเจ้าชายแฮร์รีที่ทรงสูญเสียพระมารดานะครับ แต่ได้โปรดเถิด เมื่อทั้งสองพระองค์เริ่มคร่ำครวญโน่นนี่นั่น เรื่องว่าพวกนั้นไม่ชอบฉัน เรื่องว่าดัชเชสต้องการเป็นที่รักของคนอังกฤษ แต่คุณเอ๋ย มันพิลึกมากที่เห็นคนสองคนเฝ้าแต่กรีดร้อง “เราต้องการความเป็นส่วนตัว เราต้องการให้สื่อมวลชนไม่มายุ่งกับเรา”

“แต่แล้ว โชว์บนเน็ตฟลิกซ์มีอะไรเป็นพิเศษล่ะ พระองค์จึงนำทุกอย่างขึ้นมาอวด ทั้งชีวิตส่วนตัว ทั้งลูกๆ ทุกสิ่งอย่าง มันเหมือนนั่งดูโชว์ของครอบครัวคาร์ดาเชียน ต่างแต่แค่ว่ามันน่าเบื่อกว่ากันน่ะครับ”

รายการคุยข่าวทางช่องวิทยุ โฮเวิร์ด สเทิร์น วิจารณ์ว่าดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่พอมาผลิตโชว์บนเน็ตฟลิกซ์  ทรงนำทุกอย่างขึ้นมาอวดชาวโลกหลายล้านราย เช่น ภาพความสัมพันธ์อันแนบแน่น ซึ่งเป็นภาพชีวิตที่ควรจะเก็บไว้ดูกันเองเป็นส่วนตัวจริงๆ  จนกระทั่งว่าภาพยนตร์ซีรีส์ของพระองค์ ดูเหมือนโชว์ของครอบครัวคาร์ดาเชียน ต่างแต่แค่ว่ามันน่าเบื่อกว่า
ภาพยนตร์ซีรีส์สารคดี “แฮร์รีและเมแกน” นำเสนอ 3 เอพพิโซดสุดท้ายให้ท่านผู้ชมสตรีมมาดูได้ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2022 โดยเริ่มจากพระราชพิธีเสกสมรสอันงดงาม แต่แล้วก็หักมุมมาเล่าว่าทั้งสองพระองค์รู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติจากพระราชวงศ์และสื่อมวลชนอย่างไม่เป็นธรรม

เจ้าชายแฮร์รีทรงเล่าถึงการประชุมหารือที่แสนจะตึงเครียดที่มีทั้งสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เจ้าฟ้าชายวิลเลียม และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว พร้อมกับทรงกล่าวอ้างว่าพระเชษฐาวิลเลียมทรงตะโกนและแผดเสียงลั่นใส่พระองค์ และพระราชบิดาทรงตรัสสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ขณะที่สมเด็จพระอัยยิกาเจ้าทรงประทับนั่งมองเงียบๆ แค่เพียงรับทราบเท่านั้น

ท่านผู้ชมที่เสียเงินสตรีมดูซีรีส์นี้ได้รับทราบถึงข้อกล่าวหามากมายที่ทั้งสองพระองค์มีต่อพระราชวงศ์ และได้รับฟังข้อความร้องทุกข์ที่ปนเปื้อนด้วยน้ำตา แต่ไม่ค่อยจะมีประเด็นใหม่ พรั่งพรูจากดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ผู้ทรงหลั่งน้ำตาอยู่ในท่ามกลางความร่ำรวยด้วยทรัพย์สมบัติและองค์ประกอบชีวิตอันสมบูรณ์พรั่งพร้อม

การผลิตซีรีส์ชุด 6 อีพีนี้ กล่าวกันว่าเน็ตฟลิกซ์ต้องควักกระเป๋ามหาศาลถึง 100 ล้านดอลลาร์มอบให้แก่สองเจ้านายแห่งซัสเซกซ์ ซึ่งเป็นเงินที่ทรงใช้ซื้อคฤหาสน์อันงดงามใหญ่โต ราคา 11 ล้านดอลลาร์ อันเป็นนิวาสสถานที่ทรงประทับอยู่ในถิ่นของนักแสดงเกรดเอแห่งฮอลลีวูด นามว่า มอนเตซิโต เขตซานตา บาร์บารา รัฐแคลิฟอร์เนียในปัจจุบันนี้ แต่สำหรับปี 2023 เน็ตฟลิกซ์จะไม่ต่อสัญญาธุรกิจกับทั้งสองพระองค์นี้แล้ว

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา : เดอะซัน เดลิเมลออนไลน์ เว็บข่าวฟลิปบอร์ด เอพี รอยเตอร์)

กำลังโหลดความคิดเห็น