xs
xsm
sm
md
lg

ฮือฮา! ไบเดนไฟเขียวเปิดเผยครั้งแรกเอกสารลอบสังหาร JFK ครั้งแรกแบบไม่เซ็นเซอร์ออกสาธารณะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ทำเนียบขาวออกคำสั่งเปิดเผยเอกสารลับคดีลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอห์น เอฟ เคนเนดี หรือ JFK สู่สาธารณะภายนอกได้เป็นครั้งแรกเกือบ 60 ปี นับตั้งแต่อดีตผู้นำสหรัฐฯ ถูกลอบสังหารด้วยปืนไรเฟิลบนรถเปิดประทุนระหว่างเยือนเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ในปี 1963 เป็นการอนุมัติเปิดเผยเอกสาร จำนวน 13,173 ชิ้น ทางออนไลน์ที่ไม่มีการเซ็นเซอร์

บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (16 ธ.ค.) ว่า ทำเนียบขาวยืนยันผ่านแถลงการณ์ว่า การไฟเขียวเผยแพร่เอกสารลับคดีลอบสังหาร JFK ครั้งแรกนี้คิดเป็นกว่า 97% ของทั้งหมดที่มีอยู่ในเวลานี้

ทั้งนี้ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอห์น เอฟ เคนเนดี หรือ JFK ถูกยิงด้วยปืนไรเฟิลระหว่างอยู่ในขบวนรถประธานาธิบดีสหรัฐฯ แบบเปิดประทุนซึ่งมีสุภาพสตรีหมายเลข 1 แจ็กเกอลีน เคนเนดี นั่งไปด้วย

อ้างอิงจากวิกิพีเดียพบว่า ผู้ที่ก่อเหตุลอบสังหารคือ ลี ฮาร์วีย์ ออสวาลด์ (Lee Harvey Oswald) ซึ่งเป็นอดีตทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 35 ของประเทศถึงแก่อสัญกรรม 30 นาทีหลังเกิดเหตุโดยมีการประกาศการเสียชีวิต JFK ที่โรงพยาบาลปาร์ก เมโมเรียล (Parkland Memorial Hospital) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ

ผลจากการถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 22 พ.ย.ปี 1963 ทำให้ JFK กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 4 ที่เสียชีวิตจากการลอบสังหาร

บีบีซีรายงานว่า การเปิดเผยครั้งแรกสำหรับไฟล์เอกสารJFK นั้นคาดว่าจะมีมากถึง 13,173 ไฟล์ผ่านทางออนไลน์ และเป็นเอกสารที่เปิดเผยโดยไม่มีการเซ็นเซอร์ ซึ่งกฎหมายปี 1992 กำหนดให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องเผยแพร่เอกสารทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารภายในตุลาคม ปี 2017

ในวันพฤหัสบดี (15) ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ออกคำสั่งตามอำนาจทางบริหารอนุญาตให้มีการเปิดเผยล่าสุดได้ แต่อย่างไรก็ตาม ไบเดนยืนกรานว่า จะยังคงต้องเก็บบางส่วนไว้เป็นความลับต่อไปจนกระทั่งมิถุนายนปี 2023 เพื่อปกป้องต่ออันตรายที่สามารถชี้เฉพาะได้

ด้านสำนักหอจดหมายเหตุและบันทึกแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (The U.S.National Archives and Records Administration - NARA) แถลงว่าเอกสารจำนวน 515 ชิ้นจะยังถูกเก็บรักษาในชั้นความลับต่อไป และอีกจำนวน 2,545 ชิ้นจะถูกเปิดเผยบางส่วน

สื่ออังกฤษชี้ว่า ตามการสอบสวนปี 1964 ของสหรัฐฯ พบว่า ออสวาลด์ซึ่งเป็นอดีตทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ ที่เป็นคนลั่นไกปืนไรเฟิลนั้นเคยอาศัยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียตมาก่อน และเขาลงมือก่อเหตุตามลำพัง

พบว่าเขาถูกสังหารที่ชั้นใต้ดินของสำนักงานใหญ่ตำรวจดัลลัส 2 วันหลังจากที่เขาถูกจับ

การเสียชีวิตของ JFK ทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดมากมาย แต่ทว่าในวันพฤหัสบดี (15) สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ CIA แถลงยืนยันว่า ทางสำนักงานไม่เคยเกี่ยวข้องกับออสวาลด์ และไม่เคยปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับมือยิง JFK จากเจ้าหน้าที่สอบสวนสหรัฐฯ

ที่ผ่านมา นักวิชาการและผู้ที่สนใจในคดีลอบสังหารปรารถนาอย่างแรงกล้ามาอย่างยาวนานว่าการเปิดเผยเอกสารลับเหล่านี้จะช่วยไขความลับเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของออสวาลด์ในกรุงเม็กซิโก ซึ่งเป็นสถานที่เขาพบเจ้าหน้าที่สายลับ KGB ของอดีตสหภาพโซเวียต เมื่อตุลาคมปี 1963

โดยในแถลงการณ์ของ CIA วานนี้ (15) กล่าวว่า ข้อมูลทั้งหมดที่ทางสำนักงานมีอยู่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของออสวาลด์ในเม็กซิโกได้เคยเผยแพร่สู่สาธารณะก่อนหน้า พร้อมกับเสริมว่า “ไม่มีข้อมูลใหม่ในคดีนี้สำหรับการเปิดเผยปี 2022”

แต่ทว่านักวิจัยประจำสถาบันแมรี เฟอร์เรลล์ ฟาวเดชัน (Mary Ferrell Foundation) ซึ่งเป็นผู้ที่ยื่นฟ้องทางกฎหมายต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อให้เปิดเผยเอกสารลับ JFK กลับยืนยันว่า CIA ยังคงปิดบังเกี่ยวกับ “เวลา” ของออสวาลด์ในเม็กซิโก

ทางสถาบันกล่าวต่อว่า เอกสารความลับของ CIA บางส่วนในคดีลอบสังหารไม่เคยถูกส่งมอบให้หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ NARA และจึงไม่อยู่ในชุดเอกสารที่ทำเนียบขาวสั่งเปิดเผยวันพฤหัสบดี (15)

บีบีซีรายงานว่า สำหรับเอกสารที่เพิ่งเปิดเผยแสดงให้รู้ว่าประธานาธิบดีเม็กซิโกช่วยเหลือสหรัฐฯ ในการติดตั้งเครื่องดักฟังภายในสถานทูตอดีตสหภาพโซเวียตในเม็กซิโกโดยที่เจ้าหน้าที่เม็กซิโกคนอื่นๆ ภายในรัฐบาลไม่มีส่วนรู้เห็น

ซึ่งข้อมูลนี้เคยถูกเซ็นเซอร์ภายในเอกสารที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้า CBS News สื่อสหรัฐฯ ชี้

ในคำสั่งของไบเดน ที่ไฟเขียวให้เปิดเผยต่อสาธารณะ เขากล่าวว่า เป็นความพยายามการตรวจสอบเอกสารลับเกือบ 16,000 ชิ้นที่ได้มีการเคยเปิดเผยก่อนหน้าแต่ถูกเซ็นเซอร์และปกปิดโดยมีการคาดว่ากว่า 70% ของเอกสารเหล่านี้สามารถได้รับการเปิดเผยอย่างทั้งหมดต่อสาธารณะได้แล้ว

ในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ มีการเปิดเผยเอกสารลับ JFK เช่นกันจำนวนหลายพันชิ้น แต่ทว่าเขายังคงปกปิดเอกสารอื่นๆ ไว้ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงสหรัฐฯ เป็นหลัก ถึงแม้กำหนดเงื่อนไขกฎหมายปี 1992 จะอนุญาตให้ต้องทำการเปิดเผยทั้งหมดได้ภายในปี 2017 ก็ตาม






กำลังโหลดความคิดเห็น