เอเจนซีส์/เอพี/MGRออนไลน์ - อาบู อากีลา โมฮัมเหม็ด มาซูด เคอีร์ อัล-มาริมี (Abu Agila Mohammad Mas’ud Kheir Al-Marimi) (Mas’ud) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองลับระดับสูงของลิเบีย สมัยรัฐบาลเผด็จการ โมอัมมาร์ กัดดาฟี อยู่ในการควบคุมตัวของสหรัฐฯ โผล่ขึ้นศาลกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. วันจันทร์ (13 ธ.ค.) คดีระเบิดเครื่องบินแพนแอมของสหรัฐฯ เที่ยวบิน 103 ดับยกลำ 270 ศพ หลังเกิดระเบิดเหนือสกอตแลนด์เมื่อปี 1988 หลังหายตัวลึกลับจากบ้านพักในกรุงตริโปลี โดยฝีมือวอร์ลอร์ดติดอาวุธกลุ่ม SSA ที่มีประวัติช่วยสหภาพยุโรปหยุดผู้อพยพจากแอฟริกาไม่ให้ข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปถึงยุโรป
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (12 ธ.ค.) อาบู อากีลา โมฮัมเหม็ด มาซูด เคอีร์ อัล-มาริมี (Abu Agila Mohammad Mas’ud Kheir Al-Marimi) หรือ “มาซูด” อ้างอิงชื่อตามข้อมูลจากคำแถลงกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ DOJ
ซึ่งแถลงการณ์ลงวันที่ 21 ธ.ค ปี 2020 บนเว็บไซต์ทางการของกระทรวงระบุว่า มาซูดเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองลับระดับสูงของลิเบียสมัยรัฐบาลเผด็จการ โมอัมมาร์ กัดดาฟี ที่ถูกทางการสหรัฐฯ กล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการระเบิดดับยกลำของเครื่องบินโบอิ้ง 747 สายการบินสัญชาติสหรัฐฯ แพนแอม เหนือท้องฟ้าเมืองล็อกเกอร์บี (Lockerbie) สกอตแลนด์ เสียชีวิตทั้งหมด 270 คน และในจำนวนทั้งหมดมีชาวอเมริกันมากถึง 190 คน
DOJ กล่าวในแถลงการณ์ล่าสุดที่ออกมาเมื่อวานนี้ (12) ว่า ผู้อำนวยการ FBI คริสโตเฟอร์ เรย์ (Christopher Wray) แถลงว่า “ในขณะที่มันเป็นเวลาเกือบ 34 ปีนับตั้งแต่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมเครื่องบินแพนแอม 103 ระเบิด ทาง FBI และพันธมิตรทั่วทั้งรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เคยลืมพลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกทำร้ายและพวกเราจะไม่ยอมหยุดพักจนกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังจะถูกนำตัวมาลงโทษ”
เหตุที่เกิดขึ้นกลายเป็นเหตุโจมตีก่อการร้ายสะเทือนขวัญที่สุดในดินแดนอังกฤษ
เดอการ์เดียนรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงว่า อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองลับลิเบียนั้นอยู่ในการควบคุมตัวของสหรัฐฯ แล้วเมื่อสุดสัปดาห์นี้ แต่ทว่าไม่ยอมเปิดเผยในรายละเอียดว่าเขาเดินทางมาสหรัฐฯ ได้อย่างไร
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ซึ่งมีความรู้ในเรื่องถึงเคสในลิเบียเปิดเผยกับสื่ออังกฤษว่า มาซูดถูกนำตัวจากบ้านพักตัวเองในเขตอาบู ซาเลม (Abu Salem) ของกรุงตริโปลีด้วยฝีมือของกองกำลังติดอาวุธที่มีความจงรักภักดีต่อ อับเดล กานี อัล-คิคิลี (Abdel Ghani al-Kikili) หรือที่รู้จักในนาม "เกนีวา" (Gheniwa)
ทั้งนี้พบว่า เกนีวาเป็นผู้บัญชาการกองกำลังสนับสนุนเสถียรภาพ SSA (Stability Support Authority) ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลตริโปลี
เอพีรายงานเมื่อวันที่ 13 พ.ค ที่ผ่านมาว่า กองกำลัง SSA นั้นควบคุมเรือนจำในเขตอาบู ซาเลม ซึ่งบ้านพักของมาซูดตั้งอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ และในรายงานของเอพีเมื่อวันที่ 22 ก.ค.นั้นพบว่า SSA มีความใกล้ชิดกับสหภาพยุโรปเนื่องมาจากทางกลุ่มเป็นหนึ่งในกองกำลังหลักภายใต้เงินสนับสนุนยุโรปที่มอบให้รัฐบาลลิเบีย ช่วยเหลือ EU ในการหยุดกลุ่มผู้อพยพจากแอฟริกาไม่ให้ข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าสู่ดินแดนยุโรป
แต่อย่างไรก็ตาม พบว่า SSA นี้มีปัญหาด้านการกดขี่สิทธิมนุษยชน โดนกลุ่มแอมเนสตีสากลระบุว่า SAA มีปัญหาด้านการใช้ศาลเตี้ยสังหารผู้คน ทรมาน กักขังอย่างไม่เลือกหน้า กักกันผู้อพยพ รวมถึงการทรมาน การใช้แรงงานบังคับ และอาชญากรรมทางเพศ เป็นต้น
เดอะการ์เดียนรายงานว่า แต่ทว่าในวันจันทร์ (12) กลับพบว่ามาซูดปรากฏตัวเวลาสั้นๆ ในศาลแขวงสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เป็นครั้งแรก อ้างอิงจาก NBC News สื่อสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่อเมริกันเปิดเผยว่า อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองลับลิเบีย มาซูด ยอมรับว่าเป็นผู้สร้างระเบิดที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางแซมโซไนท์บนเครื่องบินแพนแอม เที่ยวบิน 103 และทำงานร่วมมือกับคนอื่นอีก 2 คนเพื่อให้ปฏิบัติการสำเร็จ
ในการรับสารภาพเขาเปิดเผยต่อว่า เป็นคำสั่งมาจากหน่วยงานข่าวกรองลิเบีย และอดีตผู้นำลิเบีย กัดดาฟีได้แสดงการขอบคุณเขาและคนอื่นๆ ในทีมหลังการโจมตี อ้างอิงจากคำฟ้องของ FBI ที่ยื่นต่อศาล
NBC Newsรายงานว่า การปรากฏตัวครั้งแรกของเขาทำให้มาซูดกลายเป็นนักปฏิบัติการลิเบียรายแรกที่ถูกดำเนินคดีในแผ่นดินสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม การที่วอชิงตันได้ตัวเขามาดำเนินคดียังคงเป็นคำถาม ครอบครัวของมาซูดได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า เขาโดนกลุ่มมือปืนจับตัวไป และกล่าวหาเจ้าหน้าที่ลิเบียที่นิ่งเงียบต่อคดีลักพาตัวนี้
หนังสือพิมพ์สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดอะเนชันแนล รายงานวันจันทร์ (12) ว่า หลานชายมาซูดเปิดเผยว่า ลุงของเขาถูกควบคุมตัวโดยกองกำลังที่มีคอนเน็กชันกับกระทรวงกลาโหมรัฐบาลลิเบียที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ก่อนที่จะนำตัวมาซูดไปยังเมืองมิสราตา (Misrata) ห่างจากกรุงตริโปลีไปราว 200 กิโลเมตร
หลังการควบคุมตัวพบว่าอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองลิเบียถูกนำตัวไปยังค่ายทหารในมิสราตา อ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่พบว่า มาซูดถูกหนึ่งในกองกำลังของเมืองท่าแห่งนี้ทำการควบคุมตัวไว้
และพบว่าราว 2 สัปดาห์หลังจากนั้น “ทีมอเมริกัน” เดินทางไปถึงเมืองมิสราตา ก่อนที่จะจับเข้ายัดขึ้นเครื่องเจ็ตส่วนตัวบินออกจากสนามบินในเมืองไปยังมอลตาในยุโรป เดอะการ์เดียนรายงาน
อับดุลเมแนม มาริมี (Abdulmenam Marimi) หลานชายของมาซูดให้สัมภาษณ์รอยเตอร์วันจันทร์ (12) ว่า ทางครอบครัวทราบข่าวว่า มาซูดถูกนำตัวไปสหรัฐฯ แล้วหลังรู้จากรายงานข่าวทางสื่อ
เดอะการ์เดียนกล่าวว่า สิ่งที่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เปิดเผยนั้นเป็นการยากที่จะสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ แต่ทว่าผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ดูน่าเชื่อถือมาก