เอเจนซีส์ - ผู้ว่าการลูฮานสค์ที่อยู่ระหว่างลี้ภัยเปิดเผยว่า กองกำลังยูเครนโจมตีโรงแรมในคาดีฟกา (Kadiivka) ในวันเสาร์ (10) ซึ่งเป็นกองบัญชาการของกองกำลังทหารรับจ้างรัสเซียชื่อดัง “วากเนอร์” (Wagner) ภาพเผยแพร่โซเชียลมีเดียเห็นอาคารเหลือแต่ซาก เกิดขึ้นสุดสัปดาห์มอสโกและเคียฟยิงมิสไซล์โจมตีซึ่งกันและกัน ฝ่ายเคียฟอ้างทำทหารรัสเซียดับร่วม 200 นาย ในมาริอูโปล ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน หารือทางโทรศัพท์รอบใหม่กับประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี วันอาทิตย์ (11 ธ.ค)
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (12 ธ.ค.) ว่า ผู้ว่าการภูมิภาคลูฮานสค์ เซอร์เฮ เกได (Serhiy Gaidai) ซึ่งปัจจุบันได้ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อวันที่ 30 ก.ย. เปิดเผยว่า ยูเครนเปิดการโจมตีที่ตั้งกองบัญชาการกำลังทหารรับจ้างรัสเซียชื่อดัง “วากเนอร์” (Wagner) ในวันเสาร์ (10)
แต่ทว่าบีบีซีไม่สามารถยืนยันการปรากฏของวากเนอร์ที่โรงแรมแห่งนี้ตามคำอ้างได้ CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า รายงานที่ออกมาจากสำนักข่าวทาซ (Tass) ของรัสเซียในเรื่องนี้กล่าวว่า มีการระเบิดเกิดขึ้นที่โรงแรมเอกชนแห่งหนึ่งตั้งในเมืองคาดีฟกา (Kadiivka) แต่ทว่าไม่ได้กล่าวอย่างเจาะจงถึงการมีอยู่ขอกลุ่มทหารรับจ้างรัสเซียที่นี่
"อาคารของโรงแรมถูกทำลายในเมืองสตาคารอฟ (Stakhanov) ในเขตลูฮานสค์ (LPR) เนื่องมาจากการโจมตีโดยกองกำลังทหารยูเครนด้วยการใช้เครื่องยิงจรวด HIMAR การโจมตีสั่นสะเทือนใจกลางของเมือง" รายงานจากสำนักข่าวทาซวันเสาร์ (10)
และยังกล่าวต่อว่า "การโจมตีที่โรงแรมเอกชนนี้ซึ่งเป็นพื้นที่ของตลาดกลาง แต่ทว่าโรงแรมไม่ได้เปิดทำการในระหว่างนี้" สำนักข่าวทาซรายงานว่า "ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าปฏิบัติการในพื้นที่เกิดเหตุ คนเหล่านี้กำลังนำซากปรักหักพังออกไป"
ซึ่งการต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดในทางใต้ของยูเครนช่วงสุดสัปดาห์ซึ่งเห็นรัสเซียโจมตีโอเดสซา ขณะที่ยูเครนถล่มในเมลิโตโปล (Melitopol)
อ้างอิงจากเดลีเมล สื่ออังกฤษ อีวาน เฟโดรอฟ (Ivan Fedorov) นายกเทศมนตรีเมืองมาลิโตโปล ออกมาอ้างว่า มีทหารรัสเซียร่วม 200 นายเสียชีวิตในเมือง ซึ่งสื่ออังกฤษวิเคราะห์ว่า หากว่าเป็นความจริงแล้วจะกลายเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดของรัสเซียนับแต่เริ่มการรุกรานเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ต้นปี
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ขณะเดียวกันประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี หารือร่วมกันทางโทรศัพท์วันอาทิตย์ (11)
ระหว่างการสนทนาผู้นำยูเครนกล่าวขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อความช่วยเหลือทางความมั่นคงรอบใหม่มูลค่า 275 ล้านดอลลาร์
และเซเลนสกี ย้ำว่า มิสไซล์รัสเซียก่อการร้ายต่อยูเครนทำให้ระบบโครงสร้างทางพื้นทางทางพลังงานของยูเครนเสียหาย 50%
ไบเดนตอบกลับมาว่า ฝ่ายสหรัฐฯ มีความต้องการด่วนในการเพิ่มระบบการปกป้องทางอากาศให้ยูเครน
และเขาย้ำในการสนทนากับผู้นำเคียฟถึงเม็ดเงิน 53 ล้านดอลลาร์ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนสำหรับสนับสนุนระบบการไฟฟ้าในยูเครน
ในรายงานของบีบีซีโดยอ้างอิงจากทำเนียบขาวแถลงว่า ผู้นำทั้ง 2 ชาติได้หารือในความปรารถนาของเซเลนสกีที่ “ต้องการเพียงสันติภาพ” กับรัสเซียบนหลักการพื้นฐานในกฎบัตรสหประชาชาติ
กลุ่มวากเนอร์ถูกก่อตั้งโดยอดีตเจ้าของภัตตาคารและคนสนิทของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เยฟเกนี พริโกซิน (Yevgeny Prigozhin) โดยผู้เชี่ยวชาญชาติตะวันตกกล่าวว่า วากเนอร์เป็นกลุ่มทหารรับจ้างรัสเซียที่กระทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเครมลิน
ทั้งนี้ CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ปูตินซึ่งสั่งปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนขับรถด้วยตัวเองข้ามสะพานไครเมียที่ถูกฝ่ายยูเครนโจมตีด้วยระเบิดรถบรรทุกเมื่อวันที่ 8 ต.ค.จนได้รับความเสียหาย สะพานแห่งนี้ถือมีความสำคัญทางยุทธวิธีจากการที่เป็นสะพานเพียงแห่งเดียวที่เชื่อมแผ่นดินรัสเซียเข้ากับแหลมไครเมียที่ถูกผนวกเมื่อปี 2014
วากเนอร์ก่อนหน้ามีรายงานเคยถูกส่งไปปฏิบัติการที่ไครเมีย ซีเรีย ลิเบีย มาลี และสาธารณรัฐแอฟริกากลาง
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานเพิ่มเติมว่า ภาพที่เปิดเผยไปทั่วโซเชียลมีเดียซึ่งยังไม่มีการยืนยันความถูกต้องแสดงให้เห็นอาคารโรงแรมที่ตั้งของทหารรับจ้างรัสเซียทั้งหลังโดนถล่มจนเหลือแต่ซาก ซึ่งแหล่งข่าวในเคียฟเปิดเผยว่า การโจมตีคาดีฟกาทำให้เกิดการสูญเสียเป็นจำนวนมาก อ้างอิงจากแชนเนลเทเลแกรม
เดลีเมลรายงานว่า เกไดไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขยอดสูญเสียที่แท้จริงในเมืองเป้าหมายแห่งนี้ออกมา แต่เขากล่าวว่าคนที่สามารถรอดชีวิตมาได้เผชิญปัญหาการแพทย์ที่มีไม่เพียงพอ
“ผมเชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 50% ของผู้ที่สามารถรอดมาได้นั้นจะตายก่อนที่พวกเขาจะได้รับการรักษาพยาบาล” และอธิบายว่า “เกิดขึ้นเพราะแม้แต่ในภูมิภาคลูฮานสค์ของพวกเรา พวกเขาได้ขโมยเครื่องมือออกไป”
มีสื่อยูเครนบางส่วนได้อ้างถึงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ซึ่งกล่าวว่า โรงแรมได้ปิดตัวมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว